สมุทรปราการ-ผู้จัดการร้านสะดวกซื้อจับโจรขโมยยาสีฟันส่งตำรวจ ด้านผู้ก่อเหตุยกมือไหว้ขอไม่ให้ดำเนินคดี

ภาพ/ข่าว:สุรศักดิ์ / อัญมณี คงสินธ์ 

          เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 6 มีนาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.บางพลี เข้าควบคุมตัว นายอานนท์ อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาก่อเหตุลักทรัพย์ในร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ หลังจากที่ทางผู้จัดการสาขาเห็นพฤติกรรมของชายคนดังกล่าวจากในกล้องวงจรปิดจึงเข้าควบคุมตัวแจ้งตำรวจมารับตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย
          นายอานนท์ พอเห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาถึงเจ้าตัวถึงกับร้องไห้สะอึกสะอื้นแบบไม่มีน้ำตา ยกมือไหว้ขอความเห็นใจกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจร้องขอให้ปล่อยตัวเพื่อไม่ให้ดำเนินคดี แต่สุดท้ายไม่รอดถูกจับกุมตัวขึ้นซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของ นายอานนท์ ไป สภ.บางพลี พร้อมกับของกลาง ยาสีฟันชื่อดัง 2 หลอด และ ครีมสระผม 1 ขวด เพื่อบันทึกจับกุมส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหาลักทรัพย์ นายอานนท์ ยอมรับว่า ก่อเหตุจริง แต่ที่ทำลงไปอ้างว่าเอาไปใช้เองเพราะไม่มีเงินซื้อและไม่ได้ทำงานอะไร ตนเองขับขี่รถจักรยานยนต์มาจากบ้านบางแก้วเพื่อตั้งใจมาก่อเหตุเอากลับไปใช้ และยอมรับว่าเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้งหลายร้าน พอของใช้ประจำวัน ไม่ว่าจะสบู่ ยาสีฟัน ครีมสระผม หมดก็จะออกไปก่อเหตุตามร้านสะดวกซื้อ ทำมาแล้วหลายครั้งจนมาถูกผู้จัดการตาไวเห็นและจับตัวส่งตำรวจ
          ด้านผู้จัดการร้านสะดวกซื้อ บอกว่า ที่ร้านเคยมีของหายบ่อยครั้ง ที่ผ่านมาพนักงานสาขาต้องรับผิดชอบกันเองหากมีสินค้าหาย ตนเองจึงเฝ้าระวังมาตลอดโดยจะคอยสังเกตพฤติกรรมของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการผ่านทางกล้องวงจรปิด ซึ่งล่าสุดพบชายรายนี้เข้ามาเลือกหยิบจับสินค้าและเห็นว่ามีการนำของกลางใส่กระเป๋ากางเกงด้านข้างทั้งสองข้าง พร้อมกับเดินไปเลือกขนมหนึ่งห่อ ก่อนจะทำเนียนมาจ่ายสินค้า แต่พบว่ามีการนำเอาแค่ขนมขบเคี้ยวหนึ่งห่อออกมาจ่ายเท่านั้นส่วนยาสีฟันและครีมสระผมไม่ได้นำออกจากกระเป๋ามาจ่ายเงิน ตนเองจึงรีบออกมาดักทางออกพร้อมเอะอะโวยวายให้เสียงดังเพื่อขอค้นตัวชายคนดังกล่าว ซึ่งเจ้าตัวก็พยามยกมือไหว้ขอไม่ให้จับตัว แต่ตนเองมองว่าการก่อเหตุแบบนี้นอกจากจะสร้างความเสียหายให้กับทางร้านแล้วยังสร้างความเดือดร้อนให้กับพนักงานสาขาที่ต้องมาคอยรับผิดชอบกับสินค้าที่หายบ่อยครั้ง จึงอยากฝากเตือนบรรดาพวกโจรมือไว ขอให้เลิกความคิดและพฤติกรรมดังกล่าวและหันไปทำอาชีพที่สุจริตจะดีที่สุด