ตราด-คืบหน้าร้องโกงเงินฌาปนกิจศพ เก็บแล้วไม่จ่ายอ้างกองทุนล้ม ประธานชี้แจงเจอมือที่สามป่วน

ภาพ/ข่าว:พูลศักดิ์ บุญลอย / ศิวพงศ์ บุญลอย

          จากกรณี ชาวบ้านสมาชิกกองทุนหมู่บ้าน และชมรมฌาปนกิจสงเคราะห์บ้านโภคไพร ต.วังกระแจะ อ.เมือง จ.ตราด จำนวนกว่า 30 คน พากันมาชุมนุมประท้วงกองทุนหมู่บ้าน และชมรมฌาปนกิจสงเคราะห์บ้านโภคไพร เนื่องจากเป็นสมาชิกกองทุนหมู่บ้านแล้วไม่สามารถกู้เงินกองทุนหมู่บ้านได้ และเป็นสมาชิกฌาปนกิจสงเคราะห์ของกองทุนหมู่บ้านบ้านโภคไพร เสียเงินค่าศพสมาชิกเสียชีวิตมานานนับสิบปี แต่เมื่อญาติที่เป็นสมาชกเสียชีวิตลง กลับไม่ได้รับเงินค่าฌาปนกิจศพ สมาชิกบางรายญาติเสียชีวิตไปหลายปี ยังได้เงินค่าฌาปนกิจศพไม่ครบ ทำให้เกิดความข้องใจกับเหตุการณ์ดังกล่าว และมารวมตัวกันเพื่อสอบถามประธานชมรมฌาปนกิจศพ คือ นางสาวจันทร์ปรุง หาญชนะ (ประธานที่มีปัญหา) และนางน้อย รูปเจริญ (ประธานคนใหม่ เลือกเมื่อปลายปี 2566) หลังจากประธานเชิญประชุม ซึ่งประธานบอกเพียงว่ากองทุนฌาปนกิจศพล้มแล้ว เพราะขาดทุนไม่มีเงินจ่ายให้สมาชิกที่เสียชีวิตลง ทำให้สมาชิกที่มาชุมนุมประท้วง พากันไม่พอใจ ด่าทอประธานและคณะกรรมการดังลั่นวัด จนเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองตราดต้องรุดมาระงับเหตุ ให้ทั้งหมดไปตกลงกันที่ สภ.เมืองตราดแทน ตามข่าวเสนอไปแล้วนั้น
          วันที่ 3 มี.ค.67 นางสาวจันทร์ปรุง หาญชนะ นางสาวจำปี หาญชนะ ผู้ติดตามหนี้ และนางสาวลิณลญาภ์ ติงสาโรจน์ ร่วมกันนำเอกสารของชมรมฌาปนกิจศพบ้านโภคไพร มาชี้แจงกับสื่อมวลชน เนื่องจากข่าวที่สื่อมวลชนนำเสนอไป ไม่ชัดเจน คลาดเคลื่อน และนำเสนอข้อมูลด้านสมาชิกประท้วงคณะกรรมการ ทำให้สังคมเข้าใจผิด สร้างความเสื่อมเสียให้กับตนเองและคณะกรรมการ พร้อมทั้งเปิดเผยข้อเท็จจริงว่า ปัญหาที่ทำให้กองทุนล้ม มาจากการลดลงของสมาชิกจากเดิมประมาณ 140-150 ราย ปัจจับันเหลือเพียง 52 ราย จึงไม่มีเงินจ่ายค่าฌาปนกิจศพให้สมาชิกได้ ทางชมรมได้แก้ปัญหาด้วยการปรับอัตราค่าฌาปนกิจศพจากรายละ 90,00 บาท มาเป็นรายละ 70,00 บาท และล่าสุด เก็บเงินค่าฌาปนกิจจากสมาชิก 52 รายไม่พอจ่ายให้สมาชิกที่เสียชีวิต คงจ่ายได้เพียง 35,000 บาท เป็นรายสุดท้าย นอกจากนี้ยังเล่าต่อว่า สาเหตุของสมาชิกลดลงเนื่องจากกลุ่มของประธานชุมชนบ้านโภคไพร พยายามสร้างความเข้าใจผิดให้สมาชิกจนเกิดความแตกแยก และสมาชิกลาออกจนเหลือ 52 ราย เป็นที่มาของการล้มของชมรม วันที่ 27 กพ.67 นัดประชุมสมาชิก 52 ราย เพื่อจะปรึกษาว่า จะทำอย่างไรในภาวะการขาดทุน เงินไม่พอจ่ายให้สมาชิกที่เสียชีวิต แต่ประธานชุมชนกลับพาสมาชิกที่ลาออกไปแล้วมาสร้างความวุ่นวายจนไม่สามารถประชุมชี้แจงได้ แม้ประธานพยายามจะอธิบายแต่ก็ไม่มีใครฟัง พยายามด่าว่าคณะกรรมการตามข่าวที่สื่อนำเสนอไป ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้สังคมเข้าใจผิดคิดว่าคณะกรรมการมีพฤติกรรมดังสื่อนำเสนอ วันนี้จึงต้องการให้สื่อนำเสนอข้อมูล ข้อเท็จจริงฝั่งคณะกรรมการ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับตนเองและคณะกรรมการด้วยโดยนำเอกสารบัญชี รายรับ รายจ่าย หลักฐานการเก็บเงิน จ่ายเงินให้สมาชิก และยังบอกด้วยว่า คณะกรรมการเก็บเงินจากสมาชิกหลายคนไม่ได้ ต้องจ่ายเงินตนเองไปก่อนเพื่อนำไปให้ญาติสมาชิกที่เสียชีวิต จนป่านนี้ยังเก็บเงินจากสมาชิกไม่ได้อีกหลายราย แต่สมาชิกปัจจุบัน และคนที่ไม่ได้เป็นสมาชิก ยังมาสร้างความวุ่นวายสร้างความปั่นป่วนจนเกิดความเสียหายกับตนเองและคณะกรรมการ ซึ่งเรืองดังกล่าวตำรวจไม่รับแจ้งความเพราะไม่มีหลักฐานการโกงตามกล่าวอ้าง อีกทั้งคณะกรรมการก็มีหลักฐานชี้แจ้งได้ชัดเจน จึงจะต้องกอบกู้ศักดิ์ศรี และเรียกคืนความถูกต้องเป็นธรรมตามกฎหมายต่อไป จึงนัดสื่อมวลชนมาตรวจสอบหลักฐานและข้อเท็จจริงดังกล่าว