พิษณุโลก-กองทัพภาคที่ 3 ประกอบพิธีทางศาสนา ครบรอบ117 ปี

พิษณุโลก-กองทัพภาคที่ 3 ประกอบพิธีทางศาสนา ครบรอบ117 ปี

ภาพ/ข่าว:อนุชา แก้วคำมา

กองทัพภาคที่ 3 ประกอบพิธีทางศาสนา ครบรอบ117 ปี

        เมื่อวันที่ 20 ส.ค.62 ที่สโมสรบันเทิงทัพ ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อ.เมือง พิษณุโลก พลเอก วิจักขฐ์ สิริบรรสพ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานงานวันสถาปนากองทัพภาคที่ 3 ครบรอบปีที่ 117 เพื่อบำเพ็ญกุศลอุทิศให้อดีตผู้บังคับบัญชา และกำลังพล ที่ล่วงลับไปแล้ว โดยมีพลโท ฉลองชัย ชัยยะคำ แม่ทัพภาคที่3 และนายทหารหน่วยขึ้นตรงกองทัพภาคที่ 3 ให้การต้อนรับ
         ทั้งนี้ กองทัพภาคที่ 3 ก่อกำเนิด เมื่อ 20 สิงหาคม 2445 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ สืบเนื่องมาจากเงี้ยวบ้านบ่อแก้ว แขวงเมืองลอง และบ้านป่าผึ้ง แขวงสูงเม่น จ.แพร่ ได้รวมตัวเป็นกบฏก่อการจลาจลใช้อาวุธปืนบุกเข้ายึดเมืองแพร่ พระยาไชยบูรณ์ ข้าหลวงกำกับราชการแพร่ ได้รวบรวมกำลังต่อสู้ 6 สิงหาคม 2445 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงโปรดเกล้าฯให้ พลโทเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี เป็นแม่ทัพใหญ่ยกกำลังเข้าปราบปราม ระหว่างทางเมื่อผ่านทางพิษณุโลก พิชัยและอุตรดิตถ์ได้เกณฑ์กำลังไปช่วยด้วย จนสามารถปราบปรามกบฏเงี้ยวได้สำเร็จ เมื่อ 20 สิงหาคม 2445 ในการเดินทางกลับ เมื่อผ่านเมืองพิษณุโลก ได้หยุดตั้งค่ายพักแรม และได้พิจารณาเห็นว่าภาคเหนือควรมีทหารประจำการณ์ไว้บ้าง จึงจัดตั้งกองทหารขึ้น 1 กอง ประจำอยู่ที่พิษณุโลก และเป็นที่มาของกองทัพภาคที่ 3 ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ที่ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อ.เมือง จ.พิษณุโลก ติดกับแม่น้ำน่าน มาจนถึงปัจจุบัน โดยถือเอาวันที่ 20 สิงหาคมของทุกปี ซึ่งเป็นวันที่ปราบกบฏเงี้ยวได้สำเร็จ จึงเป็นวันคล้ายวันสถาปนา กองทัพภาคที่ 3 จวบจนถึงปัจจุบัน โดยมี พลโท ประพันธ์ กุลพิจิตร เป็น แม่ทัพภาคที่ 3 คนแรก และพลโท ฉลองชัย ชัยยะคำ เป็น แม่ทัพภาคที่ 3 คนปัจจุบัน และเป็นแม่ทัพภาคที่ 3 คนที่ 38
           กองทัพภาคที่ 3 เป็นกำลังรบหลักของกองทัพบกที่รับผิดชอบในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ด้วยเกียรติประวัติที่ยาวนานจากอดีตสู่ปัจจุบัน ครบ 117 ปี แห่งการสถาปนาหน่วย กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 3 ซึ่งเป็นเกียรติประวัติที่สำคัญยิ่ง โดยมีภารกิจหลักที่ได้รับมอบหมายจากกองทัพบกการปกป้องและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ การป้องกันประเทศ การรักษาความมั่นคง ความสงบเรียบร้อยภายในและกำกับดูแลแนวชายแดนเพื่อมิให้เกิดการกระทบกระทั่งกระทบถึงความสัมพันธ์ที่ดีของมิตรประเทศ พร้อมการสร้างความสัมพันธ์ทางทหารกับต่างประเทศ การพัฒนาประเทศและการช่วยเหลือประชาชน การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ซึ่งจะรวมถึงการปฏิบัติภารกิจต่อภัยคุกคามที่มิใช่สงคราม เพื่อความมั่นคงในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดน การสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยมีกองกำลังป้องกันตามแนวชายแดน จำนวน 2กองกำลัง คือกองกำลังนเรศวรรับผิดชอบพื้นที่ตามแนวชายแดน จ.ตาก จ.แม่ฮ่องสอน และกองกำลังผาเมืองรับผิดชอบพื้นที่ตามแนวชายแดน จ.เชียงใหม่จนถึง จ.พิษณุโลก
              ตลอดทั้งการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติทุกประการซึ่งในพื้นที่ตอนบนของประเทศจะประสบกับปัญหาหมอกควันเนื่องจากการเผาทำลายเพื่อหาของป่าและอากาศที่ร้อนจนทำให้เกิดไฟป่าขึ้น กองทัพภาคที่3 จึงได้จัดตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาค ที่ 3ขึ้นในหน่วยทหารที่กองทัพภาคที่3 รับผิดชอบทั้ง 17 จังหวัดภาคเหนือ ซึ่งใน พื้นที่ส่วนใหญ่ของกองทัพภาคที่ 3 เป็นป่าและภูเขา ซึ่งถือว่าเป็น แหล่งต้นน้ำที่สำคัญของประเทศ ปัจจุบันกองทัพภาคที่ 3 ถือว่าเป็นภารกิจที่เร่งด่วนและสำคัญ แม้นจะดูแลในพื้นที่ภาคเหนือแต่ได้มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการน้ำทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำด้วย และภารกิจที่สำคัญยิ่งของกองทัพภาคที่ 3 คือ ตั้งศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทาน 904 วปร.ภาค 3 เพื่อร่วมทำกิจกรรมกับส่วนราชการและประชาชน ในการช่วยเหลือดูแล บำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับประชาชน

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!