ปราจีนบุรี-ป่าไม้พากองทัพนักข่าว บุกดูพื้นที่วางตาข่ายขึงดักซาก 6ช้างป่า

ปราจีนบุรี-ป่าไม้พากองทัพนักข่าว บุกดูพื้นที่วางตาข่ายขึงดักซาก 6ช้างป่า

ภาพ/ข่าว:มานิตย์ สนับบุญ

        (คืบหน้า)- ยังไม่มี6ซากช้างตายไหลลงมาจากน้ำตกเหวนรก!-ขณะป่าไม้พากองทัพนักข่าวทุกสำนัก 20 คนเรือ 3 ลำ บุกดูพื้นที่วางตาข่ายขึงดักซาก 6ช้างป่าลอยมา ก่อนไหลลงเขื่อนขุนด่านปราการชลกระทบมลพิษ ระบุหลังก็วากเสร็จเผาทำลายก่อนฝังกลบกระดูก ชี้พื้นที่อุทยานฯมีข้อจำกัดในการนำเครื่องมือหนักอาทิรถแบ็คโฮขึ้นมาโกยตัก-เป็นหินล้วน ๆ พรุ่งนี้นำตาข่าย-วัสดุลงพื้นที่

          ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีช้างป่าพลัดตกลงไปในน้ำตกเหวนรก อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่มีความสูงชันกว่า 80 เมตร ระหว่างเดินข้ามลำน้ำเหนือปากน้ำตกจากฝั่งหนึ่งไปอีกฝั่งหนึ่ง ส่งผลให้ช้างป่าล้ม 6 ตัว และ รอดชีวิต 2 ตัว โดยติดที่หน้าผาฝั่งตรงข้าม ต่อมาช้างทั้ง 2 ที่เป็นแม่ลูกที่รอดชีวิตได้เดินข้ามลำน้ำกลับมารอขึ้นฝั่งอย่างปลอดภัย ทางเจ้าหน้าที่ได้ปิดการท่องเที่ยวฝั่งน้ำตกเหวนรก พร้อมจัดชุดสังเกตการณ์ พร้อมให้อาหาร,น้ำหวานยาปฏิชีวนะบำรุงร่างกาย และช่วงค่อนรุ่งวันที่ 6 ต.ค.62 เวลาประมาณ 04.00 น.ช้างได้หายตัวออกไปจากริมฝั่ง คาดว่าเดินขึ้นฝั่งเข้าป่าไปแล้วจึงได้จัดชุดลาดตระเวนติดตามช้างแม่-ลูก ประกอบด้วยกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อุทยานแห่งชาติทับลาน,อุทยานแห่งชาติตาพระยา,อุทยานแห่งชาติปางสีดา ,หน่วยทหารกองร้อยลาดตระเวนระยะไกล,ทหารกรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์พัน 3 กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล ร.2 รอ.) หรือ หน่วยรบบูรพาพยัคฆ์ ร่วมติดตาม พบรอยเท้าช้างป่าแม่-ลูก ,ขี้ช้างที่มีซากหยวกกล้วย,สัปปะรด,ที่ จนท.จัดให้กินก่อนหน้า จึงมั่นใจว่าช้างป่าปลอดภัย ได้ยุติภารกิจการติดตาม และ พบว่าแรงดันกระแสน้ำตกได้พัดซากช้างไปด้านล่างแล้ว 4 ตัว เหลือซากช้างตายที่ น้ำตกเหวนรกชั้น 2 จำนวน 2 ตัว และในช่วงเช้าวันนี้(7ต.ค.) นายวิชัย พรลีแสงสุวรรณ ผอ.ส่วนอุทยาน สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) พร้อมด้วยนายครรชิต ศรีนพวรรณ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ พร้อมกำลัง ได้เดินทางเข้าไปด้านเขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก เพื่อล่องเรือขึ้นเหนือน้ำ เข้าสู่คลองต้นไทร จากนั้นจะเป็นโขดหินขนาดใหญ่ และหน้าผาที่ไม่สามารถล่องเรือต่อไปได้ ต้องเดินเท้าขึ้นไปอีกประมาณ 200 เมตรก่อนนำเชือกขนาดใหญ่มาทำเป็นตาข่ายกั้นลำน้ำที่ไหลมาจากน้ำตก ซึ่งพัดพาซากช้างป่าที่ตายจำนวน 6 ตัว ให้มาติดตาข่าย ไม่ให้ลงไปถึงเขื่อนฯตามที่เสนอข่าวอย่างต่อเนื่องก่อนหน้า นี้นั้น
             เวลา 18.40 น. วันนี้ 7 ต.ค.62 นายวิทยา หงส์เวียงจันทร์ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) กล่าวรายงานปิดภาระกิจประจำวันว่า “ภารกิจเกี่ยวกับการกู้ซากช้างป่า 6 ตัวที่ตายอยู่ในน้ำตกเหวนรกในวันนี้(7ต.ค.) มีเจ้าหน้าที่ประมาณ 10 คน และ ผู้สื่อข่าวจากสำนักต่าง ๆ ประมาณ 20 กว่าคน ลงเรือจาก หัวเขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก รวม 3 ลำซึ่งได้รับการอนุเคราะห์จากผู้ประกอบการเอกชนในเขื่อนขุนด่านปราการชล ช่วยเหลือวิ่งเรือเข้าไปตามคลองไทร เพื่อสำรวจจุดที่จะทำการวางตาข่ายขนาดใหญ่ดักช้างซากป่าไม่ให้ลงมาถึงในเขื่อนขุนด่าน ป้องกันไม่ให้เกิดภาวะมลพิษในอ่างเก็บน้ำ
             เรือได้วิ่งเข้าไปได้ประมาณ 7 กิโลเมตร หลังจากนั้นก็ต้องเดินเท้าต่ออีก 200 เมตร ก็จะไปเจอช่องที่แคบที่สุดของคลองไทรประมาณ 35 เมตร มีก้อนหินอยู่ด้านซ้าย และก็ด้านขวาขนาบกัน แล้วมีต้นไทรอยู่ด้านข้าง เป็นจุดที่เราจะ ติดตั้งตาข่ายดักซากช้าง ส่วนด้านข้างจะมีที่ราบเป็นดงไผ่ ที่จะใช้สำหรับเผาทำลายซากช้างทั้ง 6 ตัว หลังจากที่ทำพิธีทางศาสนาเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นนำเศษเถ้าถ่าน-กระดูกช้างป่าทั้งหมดฝังกลบพร้อมเอาปูนขาวโรย เพื่อฆ่าเชื้อปรับให้เรียบร้อย
            “ ในวันพรุ่งนี้ (8ต.ค.) มีการวางแผน ที่จะดำเนินงานโดยเอาตาข่าย และก็เชือกเข้าไปทำตาข่ายวางขึงดักซากช้างป่า ได้จัดเตรียมอุปกรณ์พร้อมเรียบร้อยแล้ว
               คาดว่าซากช้างป่าจะลอยมาถึงจุดที่ขึงตาข่ายดักอยู่ ใช้เวลาประมาณ 4 -5 วัน แต่ถ้า กระแสน้ำแรง อาจจะมาถึงเร็วกว่านั้น เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้เราต้องรีบทำให้เร็วที่สุด ข้อมูลเพิ่มเติม จากการบินโดนดูพื้นที่ของน้ำตกเหวนรก เมื่อก่อนหน้านั้นเราคิดว่าน้ำตกเหวนรกมี 3 ชั้น แต่สภาพจริงๆแล้ว น้ำตกเหวนรกมีทั้งหมด 5 ชั้น และ จากจุดที่เราเดินเท้าไปที่จะขึ้นไปน้ำตกเหวนรกชั้น 1 ย้อนขึ้นไป กระแสน้ำแรงมาก แล้ว เป็นหน้าผา ไม่สามารถที่จะขึ้นทวนกระแสน้ำขึ้นไปได้ ต้องรอให้กระแสน้ำพัดซากช้างลงมาเอง”
             “ ในส่วนของช้างแม่ลูก ที่รอดชีวิตมา 2 ตัว ตอนนี้ก็เข้าป่า ไปหากิน ยังที่เคยเดินหากินอยู่ ซึ่งเป็นพื้นที่ราบตามเส้นทางจากทิศใต้ขึ้นไปสู่ทิศเหนือ ทางด้านที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นายวิทยากล่าว

                 และ กล่าวต่อไปว่า “ส่วนการวางแผนในการกู้ซากช้างป่า ทั้ง 6 ตัวในวันพรุ่งนี้ ( 8 ต.ค.) ชุดเจ้าหน้าที่ป่าไม้ จะนำเรือบรรทุกเจ้าหน้าที่ป่าไม้ รวม 1 ลำ เข้าไปทำการวางตาข่ายเชือก เพื่อขวางกั้นลำน้ำดักซากช้างป่า ให้มาติดป้องกันไม่ให้ไหลตามลำน้ำลงไปถึงเขื่อนขุนด่านปราการชลที่อยู่ด้านล่าง ที่อาจเกิดมลพิษในเขื่อนฯได้

                 ในวันนี้(7ต.ค.) ได้จัดซื้อ ตาข่ายขนาดใหญ่ พร้อมจะได้นำลงเข้าไปในพื้นที่ต่อไป โดยตาข่ายดังกล่าว เตรียมลงเรือเพื่อนำไปติดตั้งพรุ่งนี้ ( 8 ต.ค.) พร้อมกับ ได้จัดเตรียมวัสดุเพื่อประกอบการขึงตาข่ายดักช้างช้าง รอไว้พร้อมแล้วที่ หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ (ขญ.21 ) (เขื่อนขุนด่านปราการชล) เขตการจัดการอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่ 6 กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช”

                  ล่าสุดเวลา17.30 น.ถอนกำลัง ส่วนเหตุการณ์ทั่วไปปกติ ในวันนี้ ( 7 ต.ค.) ยังไม่มีซากช้างไหลลงมา” “โดยอุปสรรค หรือ ปัญหาคือการที่ไม่สามารถนำเครื่องมือหนัก อาทิ รถแบ็คโฮชนบรรทุกใส่เรือขึ้นไปบนอุทยานได้ การที่ใช้แรง – กำลังเจ้าหน้าที่ในการขุดชั้นดินบนอุทยานฯจะเป็นชั้นหินที่ขุดได้ยก โดยเฉพาะช้างป่าขนาดใหญ่ทั้ง 6 ตัว ที่ใช้พื้นที่ลึก และจำนวนมากจึงเป็นข้อจำกัด จำเป็นต้องทำลายโดยการเผา จากนั้นนำเถ้ากระดูกของช้างป่าทั้ง 6 ตัวมาฝัง ในจุดเดียวกันกับที่เคยฝังซากช้างป่าที่ประสบโศกนาฏกรรมลักษณะเดียวกันเมื่อวันที่ 2 ส.ค.35 คือ ถูกน้ำพัดตกน้ำตกเหวนรกเช่นเดียวกันกับครั้งนี้” นายวิทยากล่าว ในที่สุด

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!