สุพรรณบุรี-เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งวอนช่วยเร่งระบายน้ำที่ท่วมบ่อกุ้งบ้านเรือนเสียหาย

สุพรรณบุรี-เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งวอนช่วยเร่งระบายน้ำที่ท่วมบ่อกุ้งบ้านเรือนเสียหาย

ภาพ/ข่าว:มงคล สว่างศรี

สุพรรณบุรี เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งวอนช่วยเร่งระบายน้ำที่ท่วมบ่อกุ้งบ้านเรือนเสียหาย

         เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยระบายน้ำออกจากพื้นที่ ต.องครักษ์ ต.ไผ่กองดิน และ ต.จรเข้ใหญ่ ต.สาลี อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี เนื่องจากน้ำที่ท่วมขังมีปริมาณที่สูงกว่า 1เมตร 50เซนติเมตร จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยระบายน้ำออกจากพื้นที่บ้าง ซึ่งพื้นที่ทั้ง 4 ตำบลถูกน้ำท่วมขังมานานนับเดือน และระดับน้ำยังสูงขึ้นทุกวัน วันละ3-5 เซนติเมตร ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนหลายร้อยหลังคาเรือน ห้องน้ำใช้ไม่ได้เพราะน้ำท่วม บ้านเรือนบางหลังต้องยกพื้นขึ้นหนีน้ำ
          นายวิชัย ภูมิวัฒนาชัย สมาชิกองการบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี เขต2 อ.บางปลาม้า ได้ลงพื้นที่ดูความเดือดร้อนชาวบ้าน และเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง และนำสิ่งของยังชีพลงเรือไปมอบให้กับหญิงชรา ตาบอดบ้านถูกน้ำท่วมสูงกว่า 2 เมตรอาศัยอยู่กับสุนัขพันธุ์บางแก้ว 2 ตัวชื่อเจ้าแกงส้ม กับเจ้าต้มยำ นายวิชัย หรือ สจ.ช้าง กล่าวว่าตนได้ประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยลดการระบายน้ำเข้าพื้นที่ทุ่งผักไห่บ้าง หรือชะลอการระบายน้ำเข้ามาเพิ่ม พร้อมทั้งช่วยหาแนวทางระบายน้ำออกจากพื้นที่บ้าง เพราะชาวบ้านในพื้นที่ทั้ง 4 ตำบล กำลังเดือดร้อนหนัก พร้อมกันนี้ก็อยากขอความเห็นใจจากเจ้าของพื้นที่แก้มลิงบางพื้นที่ ที่ยังไม่มีน้ำขอให้ช่วยเปิดพื้นที่รับน้ำจากพวกเราด้วยเป็นการช่วยแบ่งเบาบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน 4 ตำบลของ อ.บางปลาม้า บ้างพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบนอกจากบ่อกุ้งบ่อปลา บ้านเรือนประชาชน ถนนหนทางแล้วยังมีไม้สวนเช่นมะม่วง ที่ถูกน้ำท่วมและยังมีสวนมะพร้าวน้ำหอม ที่กำลังจะถูกน้ำท่วมอีกจำนวนมาก
           พื้นที่ 4 ตำบล เกษตรกรนอกจากทำนาแล้วยังเลี้ยงกุ้งก้ามกราม และกุ้งขาว โดยเฉพาะพื้นที่ หมู่ 6 มีเกษตรกรเลี้ยงกุ้งก้ามกราม กว่า 2,000 ไร่กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักต้องลงทุนซื้อไม้ไผ่และมุ้งเขียวมาล้อมรอบบ่อกุ้งถึงสองชั้น เพื่อเพิ่มความสูงจากคันดินเดิมถึง2-3เมตรป้องกันไม่ให้กุ้งหนีไปกับน้ำ เนื่องจากระดับน้ำสูงขึ้นทุกวัน เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งหลายรายถึงกับน้ำตาตกใน ยอมรับว่าแม้จะลงทุนลี้ยงกุ้งไปแล้วหลายแสนบาท และยังต้องมาเสียงเงินซื้อไม้ไผ่และมุ้งเขียว และยังไม่มั่นใจว่ากุ้งที่เลี้ยงจะยังอยู่หรือไม่
           ด้านนายมานิตย์ พุทธจรรยา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.องครักษ์ กล่าวว่าชาวบ้านในพื้นที่ หมู่ 6 เป็นเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามกว่า 90 เปอร์เซน มีพื้นที่บ่อกุ้งกว่า2,000ไร่ ซึ่งปริมาณน้ำตอนนี้มาเยอะกว่าทุกปีที่ผ่านมา ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามต้องลงทุนเพิ่ม ซึ่ง 2-3 ปีที่ผ่านมาเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามก็ประสบปัญหาจากโรคโควิด-19 ทำให้ราคากุ้งก้ามกรามตกต่ำอยู่แล้ว ปีนี้มาเจอน้ำท่วมอีก และยังต้องมาซื้อมุ้งเขียวล้อมบ่อกุ้งเพิ่ม และยังถูกพ่อค้าฉวยโอกาสขึ้นราคา มุ้งเขียว ไม้ไผ่ที่ใช้ล้อมบ่อกุ้งอีกซ้ำร้ายยังไม่รู้ว่าผลผลิตจะเก็บได้มากน้อยขนาดไหนด้วย ซึ่งตนก็ยากวิงวอนผู้ที่เกี่ยวข้อง ช่วยระบายน้ำออกจากพื้นที่ หรือให้หยุดระบายน้ำเข้ามาในพื้นที่เพิ่มเพื่อบรรณเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรด้วย

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!