สุพรรณบุรี-ยายวัย68เฝ้าเครื่องสูบน้ำนาข้าวหัวใจวายดับและสอยมะขามไปทำอาหาร
ภาพ/ข่าว:มงคล สว่างศรี
ยายวัย68เฝ้าเครื่องสูบน้ำนาข้าวหัวใจวายดับและสอยมะขามไปทำอาหาร
ที่จังหวัดสุพรรณบุรี ร.ต.อ.ณฐกฤษ พ่านเผือก พนักงานสอบสวน สภ.ศรีประจันต์ รับแจ้งมีคนเสียชีวิตอยู่กลางทุ่งนาบ้านกร่าง หมู่ 2 ตำบลบ้านกร่าง จึงไปตรวจสอบพร้อมแพทย์ รพ.ศรีประจันต์ และมูลนิธิเสมอกันกู้ภัยสุพรรณบุรี ที่เกิดเหตุพบร่างนางมลทิน พิกุลขาว อายุ 68 ปี ชาวบ้านหมู่ 2 ตำบลบ้านกร่าง แต่งกายสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสุ่งกางเกงขายาวสีเขียว นอนหงายเสียชีวิตอยู่ใกล้ต้นมะขามและเครื่องสูบน้ำสภาพขา กางเกงและเท้าผู้เสียชีวิตมีดินโคลนติดอยู่ ตรวจสอบไม่พบบาดแผลถูกทำร้ายและไม่พบร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างใด เสียชีวิตแล้วประมาณ 2 ชั่วโมง หลังเกิดเหตุมีนายยงค์ พิกุลขาว อายุ 73 ปีสามีผู้ตาย และ น.ส.สุกัลยา พิกุลขาว อายุ 44 ปีลูกสาวเดินทางมาดูร่างไร้วิญญาณของนางมลทิน แม่ทั้งสามีและลูกสาว ต่างน้ำตาคลอด้วยความเสียใจเมื่อคนที่รักมากที่สุดต้องจากไปอย่างไม่มีวันกลับ
จากการสอบถามนายยงค์ สามีผู้เสียชีวิตเล่าว่าภรรยาออกมาจากบ้านช่วงเวลาประมาณ 15.00 น.เพื่อมาดูเครื่องสูบน้ำที่นำมาสูบน้ำฝนออกจากนาข้าวเนื่องจากเมื่อคืนมีฝนตำลงมาอย่างหนักจนทำให้น้ำฝนท่วมข้าวที่กำลังใกล้จะเก็บเกี่ยว นอกจากจะดูเครื่องสูบน้ำแล้ว ภรรยายังได้จับปลาในนาได้ไปหลายตัว หลังจับปลาแล้วผู้ตายยังไปสอยมะขามสดที่อยู่ใกล้กันเพื่อนำไปประกอบอาหารขาย หาเงินมาใช้จ่ายจุนเจือครอบครัว คาดว่าหลังจากที่ลงไปจับปลาจนเหนื่อยจึงขึ้นมานั่งพักก่อนจะไปสอยมะขามสดต่อ ขณะกำลังสอยมะขามอยู่นั้นคงจะหน้ามืดเป็นลมหมดสติและไม่มีคนเห็นไม่มีใครช่วยจึงทำให้เสียชีวิต
ทางด้าน น.ส.สุกัลยา พิกุลขาว อายุ 44 ปีลูกสาว เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังด้วยน้ำตานองหน้าว่าแม่เป็นคนขยันมักจะออกมาดูนาข้าวเพียงลำพังประจำทั้งที่แม่มีโรคประจำตัวหลายโรคทั้งโรคหัวใจ ความดัน เบาหวาน แต่แม่ก็ไม่เคยหยุด นอกจากทำนาแล้วแม่ยังทำกับข้าวขายหารายได้เลี้ยงลูกเลี้ยงครอบครัวมานานหลายปี แม่มักจะบอกว่าเหนื่อย จากโรคประจำตัวต้องเข้ารับยาที่โรงพยาบาล อย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ไม่สบายแต่แม่ก็ไม่หยุดทำงาน และวันที่ 3 เดือนสิงหาคม หมอที่โรงพยาบาลทรวงอกนัดให้แม่ไปตรวจ เพื่อเตรียมผ่าตัดทำบอลลูนหัวใจ แต่ยังไม่ทันไปหาหมอแม่ก็มาจากไปก่อน
