ราชบุรี-หนุ่มใหญ่ วิ่งข้ามถนนไม่ทันมอง ถูกกระบะเสยดับกลางถนน
ภาพ/ข่าว:สุจินต์ นฤภัย(เต้)
หนุ่มใหญ่ วิ่งข้ามถนนไม่ทันมอง ถูกกระบะเสยดับกลางถนน
เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 16 ส.ค. ร.ต.อ.ธีรศักดิ์ ยิ้มเจ้ย รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองราชบุรี ได้รับแจ้งมีคนถูกรถยนต์กระบะชนเสียชีวิต ที่บริเวณหน้าปั๊มน้ำมัน ปตท. หมู่ที่ 5 ต.ท่าราบ อ.เมือง จ.ราชบุรี หลังรับแจ้งเหตุจึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลราชบุรี และจนท.มูลนิธิประชานุกูล ราชบุรี
ที่เกิดเหตุพบศพทราบชื่อต่อมาคือ นายสมพงษ์ พันธุมาศ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 184 หมู่ที่ 1 ต.นาป่าแซง อ.ปทุมราชวงศา จ.อำนาจเจริญ สภาพศพสวมเสื้อยืดสีส้ม กางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน ที่แขนขาวมีรูปรอยสักคาราบาว และรูปดาว 5 ดวง นอนหงายหน้าเสียชีวิตอยู่กลางถนน ขาด้านขวาและซ้ายผิดรูป มีเลือดออกทางศีรษะและกกหู ใกล้กันพบรถยนต์กระบะ อีซูซุ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ผค 6295 นครปฐม สภาพรถกันชนหน้าด้านฝั่งซ้ายมีร่องรอยการถูกเฉี่ยวชนจนกันชนแตก นายณรงค์ เดชมารุ่ง อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52 หมู่ที่ 3 ต.ห้วยด้วย อ.ดอนตูม จ.นครปฐม เป็นผู้ขับขี่ ไม่ได้หลบหนีไปไหนยืนรอให้ปากคำอยู่ที่เกิดเหตุ
จากการสอบสวน นายณรงค์ เจ้าของรถยนต์กระบะทราบว่า ขณะที่ตนได้ขับรถมาจากนครปฐม เข้าตัวเมืองจ.ราชบุรี เพื่อมาทำธุระ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุตนได้ขับรถมาทางเลนซ้าย และจู่ๆผู้ตายได้วิ่งข้ามถนน ตนจึงหักพวงมาลัยออกขวา เพื่อหลบผู้ตาย แต่เนื่องจากผู้ตายได้วิ่งตัดหน้ารถตนอย่างกระชั้นชิด จนทำให้ตนหักหลบไม่ทันและชนผู้ตายเข้าอย่างจัง จนทำให้ผู้ตายเสียชีวิต
ขณะที่ นายสาโรจน์ รวมมิตรชาติ อายุ 52 ปี พนักงานเติมน้ำมันผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนได้เข้าทำงานเมื่อเวลาหกโมงเช้า จนช่วงเกิดเหตุตนได้เห็นผู้ตายเข้ามาซื้อของภายในร้านสะดวกซื้อ และเห็นผู้ตายออกจากร้านสะดวกซื้อ และวิ่งข้ามถนนออกไป ซึ่งเป็นช่วงจังหวะมีรถยนต์เข้ามาเติมน้ำมัน ตนจึงไม่ได้สนใจมอง แต่ได้ยินเสียงอีกทีเหมือนรถชนคนดังมาก และเมื่อมองออกไปก็พบว่า ผู้ตายนอนเสียชีวิตอยู่กลางถนนแล้ว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐาน ผู้ตายได้ข้ามถนนเพื่อออกมาซื้อของภายในร้านสะดวกซื้อ เมื่อซื้อของเสร็จจึงจะข้ามถนนกลับบ้าน แต่ไม่ทันมองรถจึงรีบวิ่งข้ามถนน จึงทำให้รถที่สัญจรผ่านมาเฉี่ยวชนจนเสียชีวิต ซึ่งทางจนท.จะเชิญตัวผู้ขับขี่รถยนต์ไปทำการสอบสวนเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองราชบุรี พร้อมตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุ เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/