อุตรดิตถ์-ประธานหอการค้าอุตรดิตถ์พาชมศาลเจ้าปั๊กเก็กโกวเบี่ย

อุตรดิตถ์-ประธานหอการค้าอุตรดิตถ์พาชมศาลเจ้าปั๊กเก็กโกวเบี่ย

ภาพ/ข่าว:พูลชัย ราชประสิทธิ์ น.ส.พัทธนันท์ ราชประสิทธิ์ นายจักรพรรณ จันทร์แฉ่ง ทีมข่างอินทีสยามออนไลน์ จ.อุตรดิตถ์

ประธานหอการค้าอุตรดิตถ์พาชมศาลเจ้าปั๊กเก็กโกวเบี่ย

             จากการเปิดเผยของนายพิษณุ ลาภชัยเจริญกิจ ประธานหอการค้าจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่าในนามของหอการค้าจังหวัดอุตรดิตถ์วันนี้จะพาสื่อมวลชนได้เข้ารับชมศาลเจ้าปั๊กเก๊กโกวเบี่ย ซึ่งศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่นับถือของชาว จ.อุตรดิตถ์ มาช้านานกว่า 100 ปีแล้ว โดยคณะกรรมการเราได้ทำการบูรณะศาลเจ้าขึ้นมาใหม่เนื่องจากศาลเจ้าหลังเก่าสร้างมานานเริ่มทรุดโทรมไปตามกาลเวลาและที่สำคัญในอดีตศาลเจ้าหลังเก่าก่อนหน้านี้เคยถูกน้ำท่วมใหญ่มาแล้วครั้งหนึ่ง ศาลเจ้าใหม่เราจึงสร้างให้ใหญ่และสูงขึ้นกว่าเดิมเป็นที่สวยงามเด่นสง่า ลำดับแรกก่อนที่เราจะเข้าไปกราบไหว้เทพเจ้าเราจะให้ความสำคัญกับ เทพฟ้าดิน ก่อนที่เราจะไปไหว้พระหรือไหว้เจ้าในศาลเจ้านี้ เราจะทำการกราบไหว้ เทพฟ้าดิน ก่อนเพื่อขอพรจากเทพฟ้าดินว่า วันนี้เราจะมาสถานที่แห่งนี้ เพื่อเราจะมากราบไหว้ สักการะบูชาขอพรองค์เทพต่างๆ ในที่นี้ ดังนั้นจึงขอให้ เทพฟ้าดิน เปิดทางเพื่อที่เราจะขอพรได้สำเร็จ ขอให้เราที่อยู่ใต้ฟ้าเหนือพื้นดินให้เรามีความสุขความเจริญ ภายใน ศาลเจ้าปั๊กเก๊กโกวเบี่ย เรามีเทพ องค์ประธานของศาลเจ้าฯ คือ ตั่วเหล่าเอี๊ย ซึ่งเราชาวจีนหรือคนไทยเชื้อสายจีนนี้เรียกท่านว่า เฮียงเทียนเซียงตี่ คำว่า ตั่วเหล่าเอี๊ย นั้นคำว่า เอี๊ย หมายถึงเทพ ตั่ว หมายถึงใหญ่ ตั่วเหล่าเอี๊ย จึงหมายถึงเทพเจ้าที่เป็นมหาเทพรองจาก เง็กเซียนฮ่องเต้ ก็คือจะสูงกว่าเทพทั้งหลาย ประวัติจากคนจีนโบราณองค์ท่านมีหลายประวัติ แต่ความเชื่อหลักๆนั้น เมื่อก่อนท่านเป็นนักพรต บำเพ็ญตนมาจนถึงขั้นที่จะสำเร็จเป็นเซียนแล้ว แต่ทำไมไม่เป็นเซียนสักที ท่านก็เลยคว้านท้องเพื่อชำระสิ่งไม่สะอาดในตัวเอง จึงเอาลำไส้และกระเพาะลงไปล้างที่แม่น้ำ หลังจากนั้นท่านก็ได้สำเร็จเป็นเซียน ท่านยินดีสละร่างกายเพื่อจะสำเร็จเป็นเซียน ต่อมามีปีศาจเต่าและงูมารังควานมนุษย์ เง็กเซียนฮ่องเต้ จึงให้ท่านลงมาปราบ ซึ่งปีศาจเต่านั้นก็คือกระเพาะของท่านส่วน ปีศาจงูก็คือลำไส้ของท่าน เวลาที่เราจะไปไหว้ที่ศาลเจ้าไหนๆ หรือในประเทศจีน เขาบูตึ้ง เราสังเกตง่ายๆว่าองค์ไหนคือ ตั่วเหล่าเอี๊ย ให้ดูที่เท้าท่านจะเหยียบเต่า ส่วนเท้าอีกข้างหนึ่งเหยียบที่งู นั่นคือลักษณะของท่าน ท่านเป็นเทพสูงสุดและมีเมตตาการขอพรท่านจึงสำเร็จไม่ว่าจะเป็นโชคลาภ เงินทอง ยศฐาบรรดาศักดิ์

             อีกองค์หนึ่งคือเทพเจ้า ปิงเถ่ากงม่า คือเทพเจ้าที่รักษาชุมชนแห่งนี้มาช้านานแล้วตามประวัติศาสตร์ของจีนเวลาเราอยู่ที่ไหนจะมีการสักการะเรื่องของเทพเพื่อเป็นการสักการะบูชาที่เราอยู่ดีกินดี มีสุขในเรื่องของการงาน ลูกหลานเจริญก้าวหน้ารุ่นต่อรุ่น ในหลายๆศาลเจ้าก็จะมี ปิงเถ่ากงม่า เป็นประธาน แต่ใน ศาลเจ้าปั๊กเก๊กโกวเบี่ย ของเรานี้มี ตั่วเหล่าเอี๊ย เป็นประธาน ส่วน เทพเจ้ากวนอู นั้นเรารู้อยู่แล้วในสามก๊กกวนอูตามประวัติศาสตร์นี้ท่านเป็นนักรบที่มีความจงรักภักดี ในความซื่อสัตย์ ท่านทำคุณาประการให้กับประเทศจีนมาช้านาน หลังจากที่ท่านเสียชีวิตไปแล้วคนจีนถ้าใครทำดีส่วนมากก็จะมีการตั้งศาลเพื่อกราบไหว้ เวลาเรากราบไหว้ก็นับถือท่านเหมือนเทพเจ้าองค์หนึ่ง เพราะฉะนั้นเวลา ที่เราจะทำงานเราก็ขอพรต้องการให้มีบริวารที่ดีอยู่กับเรา ขอพรให้ทำงานไม่มีอุปสรรคมีชัยชนะคู่แข่ง และมีกำลังกายที่จะไปสู้กับการงานสู้กับอุปสรรคที่จะเข้ามาในชีวิต เรื่องของโชคลาภการแข่งขันท่านก็จะช่วยเราได้ บางบ้านก็มีเทพเจ้ากวนอูประทับไว้เพื่อความเป็นสิริมงคล ส่วน แท่นบูชาซาเอี๊ย เรามีเทพเจ้าที่เราสักการะ สามองค์ องค์แรกด้านซ้ายมือท่านคือ เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย เทพเจ้าแห่งโชคลาภ ปกติคนไทยเชื้อสายจีนในวันตรุษจีนจะกราบไหว้เทพเจ้า ไฉ่ซิงเอี๊ย ให้มาประทับอยู่ที่บ้านของเราเพื่อนำโชคลาภความสำเร็จความสมบูรณ์ต่างๆเข้ามาอยู่ในบ้านของเรา ส่วนเทพเจ้าองค์กลางคือเทพเจ้า บุ่งเซียงเอี๊ย คนจีนสมัยก่อนที่จะไปสอบจอหงวนหรือสอบเลื่อนขั้นหรือการศึกษาก็จะมากราบขอพร เทพเจ้าบุ่งเซียงเอี๊ย เพราะเป็นเทพเจ้าที่ประทานความรู้ความสำเร็จก้าวหน้าในหน้าที่การงาน องค์สุดท้ายก็คือเทพเจ้า ไท่ส่วยเอี๊ย เรามักจะเห็นได้ที่ วัดเล่งเน่ยยี่ ตอนที่เราไปฝากดวงชะตา เทพเจ้าไท้ส่วยเอี๊ย ซึ่งท่านเป็นเทพเจ้าที่คุ้มครองดวงชะตา เพราะฉะนั้นเวลาปีชงของเราก็จะมาไหว้ ไทส่วยเอี๊ย ที่นี่ก็จะมีชุดแก้ชงสามารถมาบูชาแล้วไหว้ พิธีการของเราก็คือเขียนชื่อวันเดือนปีเกิดของเราเพื่อนำดวงชะตาของเราเราใส่ไว้ เวลาที่โชคร้ายเข้ามาในชีวิตท่านก็จะช่วยบรรเทาให้เบาลง ไม่มีเรื่องร้ายเกิดเข้ามาในชีวิตแต่ถ้าดวงเราดีอยู่แล้วท่าน ก็จะเสริมดวงชะตาให้เราดีขึ้นด้วยความเชื่อ โดยทางศาลเจ้าของเราจะมีจะมีกล่องใส่กระดาษที่เราเขียนชื่อนามสกุลวันเดือนปีเกิดใส่ไว้ในนี้ก็จะมีการฝากดวงชะตาของคนที่มาไหว้ใน 1 ปีที่ผ่านมาพอครบ 1 ปีตั้งแต่ตรุษจีนปีนี้เราก็จะเอาออกมาทำพิธีเผากระดาษส่งดวง

             สำหรับในช่วงตั้งแต่วันที่ 26 กันยายนถึง 4 ตุลาคม 65 นี้ ซึ่งเป็นเทศกาลกินเจ ทางคณะกรรมการศาลเจ้า ปั๊กเก๊กโกเบี่ย ก็ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกๆท่านที่กินเจได้มากราบไหว้สักการระเทพเจ้าที่ศาลเจ้าแห่งนี้และเรายังได้มีอาหารเจไว้คอยบริการให้กับพี่น้องประชาชนช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 07.30-09.00 น. และช่วง 11.30.-14.00 น.ส่วนตอนเย็นตั้งแต่เวลา 17.00-19.00 น.โดยที่ทางคณะกรรมการศาลเจ้าและผู้มีจิตศรัทธาได้จัดตั้งโรงทาน เพื่อบริการอาหารเจให้กับประชาชนรับประทานฟรีเป็นเวลา 10 วัน รวม 28 มื้อเริ่มตั้งแต่เย็นของวันที่ 25 กันยายนไปจนถึงเย็น ของวันที่ 4 ตุลาคม นี้จึงขอเชิญชวนทุกๆท่านมาทานอาหารเจและกราบไหว้สักการะเทพเจ้าที่ ศาลเจ้าปั๊กเก็กโกวเบี่ย กันนะครับ

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!