ชลบุรี-นึกว่าวัยรุ่นพูลวิลล่า ที่แท้ปลัดอำเภอ ปลอมตัวล่อซื้อจับ หลังชาวบ้านเดือดร้อนเสียงดังนอนไม่ได้

ภาพ-ข่าว:นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี

                  เมื่อเวลา 15.06 น.วันที่ 29 เมษายน 2567 นายวีกิจ มานะโรจน์กิจ นายอำเภอบางละมุง จ.ชลบุรี สั่งการให้นายพรชัย สังข์เอียด ปลัดอำเภอบางละมุง นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง ไปทำการจับกุม บ้านพักลักษณะพูลวิลล่า ที่เปิดประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งภายในซอยทัพยา 15 ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งสามารถล่อซื้อและตรวจยึดเอกสาร ที่เข้าข่ายความผิดตาม พระราชบัญญัติโรงแรมได้จำนวน 1 ราย
                  สืบเนื่องมาจากมีประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ ร้องเรียนมายังศูนย์ดำรงค์ธรรม ว่ามีบ้านปล่อยเช่ารายวันลักษณะเป็นพูลวิลล่า มีกลุ่มวัยรุ่นมาเข้าพัก แล้วเปิดเพลง ตั้งวงดื่มเหล้า ส่งเสียงดังอึกทึก จนแทบไม่ได้หลับได้นอน สร้างความเดือดเนื้อร้อนใจเป็นอย่างมาก หลังรับเรื่องก็ไม่นิ่งนอนใจ สั่งการให้นายพรชัย สังข์เอียด ปลัดอำเภอบางละมุง วางแผน เข้าทำการจับกุมเพื่อคล้ายความทุกข์ร้อนให้กับชาวบ้านในทันที
โดยนายวีกิจ มานะโรจน์กิจ นายอำเภอบางละมุง วางแผนให้นายพรชัย สังข์เอียด ปลัดอำเภอบางละมุง ปลอมตัวเป็นนักท่องเที่ยว ไปติดต่อขอเช่าบ้านหลังที่ถูกร้องเรียน ชื่อ บ้าน PING AN POOL VILLA (ผิงอัน พูลวิลล่า) ในราคาวันละ 4,999 บาทสามารถเข้าพักได้ 10 คน หลังทำการติดต่อเช่าบ้านเป้าหมายได้แล้ว จึงปลอมตัวเข้าไปโดยใช้รถยนต์ที่มีลักษณะเป็นวัยรุ่น เมื่อไปถึง คนดูแลทำความสะอาดบ้าน เปิดประตูต้อนรับ พาชมห้องพัก เพราะคิดว่าเป็นกลุ่มวัยรุ่น พูลวิลล่า ที่มาเช่าบ้านปาร์ตี้ ตามปกติ
                 เมื่อเจ้าหน้าที่จ่ายเงินส่วนต่าง จากที่วางมัดจำไว้ โดยเป็นธนบัตรที่ถ่ายเอกสาร ในการล่อซื้อไว้ หลังผู้ดูแลบ้านรับเงินใส่กระเป๋า จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง แจ้งการกระทำผิดให้ผู้ดูแลทราบ ก็ถึงกับต้องตกใจ เพราะกลุ่มวัยรุ่นพูลวิลล่าที่ตนเองเข้าใจนั้น เป็นเจ้าหน้าฝ่ายปกครอง นำโดยนายพรชัย สังข์เอียด ปลัดอำเภอบางละมุง มาทำการจับกุมตามการร้องเรียนของชาวบ้ายในละแวกใกล้เคียง
                 เบื้องต้นได้เชิญตัวผู้ดูแลทำความสะอาดบ้าน พร้อมเงินของกลางในการล่อซื้อไปยังที่ว่าการอำเภอบางละมุง และรวบรวมเอกสารหลักฐานทั้งหมดร้องทุกข์กล่าวโทษ ในฐานความผิด ประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียน ตามมาตรา 15 ประกอบมาตรา 59 พ.ร.บ. โรงแรม พ.ศ. 2547 (ระวางโทษจําคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับและปรับอีกวันละไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท ตลอดเวลาที่ยังฝ่าฝืนอยู่) ต่อพนักงานสอบสวน เพื่อสืบหาเจ้าของที่แท้จริงมาดำเนินคดีต่อไป