ปราจีนบุรี-หนุ่มวัย 42 ปี หาส่องหนู กบ..ถูก”ช้างป่าฤาไน”ทำร้ายเสียชีวิต

ภาพ-ข่าว:มานิตย์ สนับบุญ/ทองสุข สิงหิ์พิมพ์ 

              เมื่อเวลา 07.30 น.วันนี้ 16 ก.พ.67 ร.ต.อ.ชัยยงค์ อำพันเสน รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรีได้รับแจ้งจากนายสมภพ ปลาไตร กำนันตำบลเขาไม้แก้ว ที่หมู่บ้านคลองตามั่น ที่ 8 ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรีมีชาวบ้านถูกช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จ.ฉะเชิงเทรา (ในพื้นที่ป่าลุ่มต่ำผืนสุดท้ายของไทยเขตป่ารอยต่อ 5จังหวัดภาคตะวันออก จ.ฉะเชิงเทรา,จ.สระแก้ว,จ.ชลบุรี,จ.จันทบรี,จ.ระยอง) ที่ข้ามฝั่งอพยพจาก จ.ฉะเชิงเทรามาหากิน ในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี ทำร้ายเสียชีวิต เป็นชาย 1 ราย ในไร่อ้อยที่เก็บเกี่ยวแล้ว ขณะออกส่องหาหนู ,ปู ,หาปลา,บ ตามป่าตามคลองยาง และ ในพื้นที่ไร่อ้อย ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
               หลังรับแจ้งจงรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น และพร้อมด้วยแพทย์เวรฯนิติเวช รพ.กบินทร์บุรี เจ้าหน้าที่พิสูจนืหลักฐาน , ผู้นำชุมชน ชาวบ้าน ได้ออกตรวจสอบที่เกิดเหตุ อยู่ริมถนนสายบ้านวังท่าช้าง – บ้านคลองยาง- บ้านคลองตามั่น (สายใน) อยู่ในพื้นที่ไร่อ้อยที่ตัดแล้ว ซึ่งเป็นพื้นที่โล่ง ใกล้เคียงกับคลองยาง คลองธรรมชาติ พบร่างผู้เสียชีวิต เป็นชาย 1 ราย คือนายวัลลภ ศรีกอง อายุ 42 ปี บ้านเลขที่ 225 หมู่ 11 ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี สภาพนอนหงายหน้าเสียชีวิต มีบาดแผลที่บริเวณใบหน้าและลำตัว แขนขาหักผิดรูป ใกล้ ๆ กันพบไฟฉายติดหนาผากสำหรับส่องสัตว์ตกอยู่ 1 อัน ใกล้เคียงศพเจ้าหน้าที่ตรวจสอบบริเวณโดยรอบพบร่องรอยเท้าช้างป่าขนาดใหญ่อยู่ในที่เกิดแหตุและบริเวณใกล้เคียง หลังจากนั้นให้หน่วยกู้ภัยสัจจะพุทธธรรมแห่งประเทศไทย(อ.กบินทร์บุรี)นำร่างผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลกบินทร์บุรี เพื่อให้แพทย์ชันสูตรหาสสาเหตุ การเสียชีวิตอีกครั้ง คาดว่าผู้เสียชีวิตออกมาส่องสัตว์หาหนูนา,กบ,ปลาในคลองยาง และตามไร่อ้อยแล้วพบช้างป่าที่ออกหากินช่วงกลางดึกคงถูกช้างทำร้ายเสียชีวิต
              ส่วนช้างที่ก่อเหตุ มีผู้พบเห็นอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ยังคงวนเวียนอยู่ในพื้นที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านได้ประกาศเตือนให้ชาวบ้านที่ออกทำงานในพื้นที่ให้ระมัดระวังภัยจากช้างป่า เนื่องจากมีโขลงช้างป่าที่แตกฝูงจำนวนกว่า10ตัวอยู่ในพื้นที่

              ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า ที่ผ่านมาในพื้นที่ตำบลเขาไม้แก้วและตำบลวังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ต้องประสบกับปัญหาผลกระทบจากช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จ.ฉะเชิงเทรา (ในพื้นที่ป่าลุ่มต่ำผืนสุดท้ายของไทยเขตป่ารอยต่อ 5จังหวัดภาคตะวันออก จ.ฉะเชิงเทรา,จ.สระแก้ว,จ.ชลบุรี,จ.จันทบรี,จ.ระยอง) ที่ข้ามฝั่งอพยพจาก จ.ฉะเชิงเทรามาหากิน ในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี ออกนอกพื้นที่ย้ายถิ่นข้ามฝั่งจากจ.ฉะเชิงเทรา เข้ามาหากินในพื้นที่เป็นเวลานานลัวไม่กลับคืนถิ่นเดิม ในทุกปี
              ล่าสุดตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคมจนถึงเดือน ธันวาคม มกราคม 2567นี้ ช้างป่าจะมากันเป็นโขลงมากกว่า 100 ตัว (บวก) สรางผลกระทบ อาทิ เข้ามาเหยียบย่ำพืชการเกษตร จำพวก อ้อย ไร่มันสำปะหลัง นาข้าว บ้านพักประชาชน ยุ้งฉางเก็บผลผลิตการเกษตร เจ้าหน้าที่ได้ทำการผลักดัน แต่ก็ไม่สามารถผลักดันได้หมดทุกตัวยังคงมีบางตัวที่หลงเหลืออยู่บ้าง

             จากการสอบถามนายประสบโชค ศรีกอง ญาติผู้เสียชีวิต ทราบว่า ผู้เสียชีวิต ได้ออกจากบ้านมาช่วงเที่ยงคืน – ตี 1-2 ทุกวันตามปกติ เพื่อออกมาหา ปลา หากบ หนูนาตามประสาคนชอบหากินตามป่า ตามคลอง ออกจากบ้านช่วงกลางคืน ตื่นเช้ามามีคนมาบอกว่ามีคนเสียชีวิต ผมก็เลยมาดูเป็นพอมาเจอก็เป็นนายวัลลภ ผมก็เคยบอกว่า กลางคืนอย่าออกมาจากบ้าน มันอันตราย ช้างออกทุกคืน เพราะเขาผลักดันกันทุกวัน ทำงานกันเข้มแข็งก็จริง แต่ช้างก็กระจัดกระจาย ไม่ได้กลับไปหมดทุกตัว ก็ยังมีช้างวนอยู่ในพื้นที่ตลอด ผลกระทบก็มาก ผู้ใหญ่ในบ้านเมือง บอกว่าให้คนกับช้างอยู่ร่วมกันให้ได้ ผมว่าคนอยู่ได้ แต่ช้างอยู่ได้ไหม ผู้หลักผู้ใหญ่ที่พูดว่าให้อยู่กับช้างได้ คุณก็เอาช้างไปเลี้ยงที่บ้านคุณนะครับแล้วคุณจะมีการสูญเสียไหม อย่ามาพูดลอย ๆ ให้ชาวบ้านอยู่ลำบาก

             ด้านนายสมภพ ปลาไตร กำนันตำบลเขาไม้แก้วกล่าวว่า อยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวและรัฐบาลแก้ไขปัญหาช้างป่าที่เข้ามาหากินในพื้นที่ให้ได้ผลมากกว่านี้ ที่ผ่านมาชาวบ้านอยู่กันอย่างหวาดผวา เพราะช้างป่าเขาอ่างฤาไน เคยทำร้ายชาวบ้านเสียชีวิต 2 รายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกด้วย

ชาวบ้านเวทนาพากันช่วยตามมีตามเกิด สวดพระภิธรรมแค่คืนเดียว
               เมื่อเวลา 15.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าต่อมา นายสุพิศ ศรีกอง พ่อของผู้เสียชีวิต พร้อมเพื่อนบ้านได้นำร่างของนายวัลลภ ศรีกอง อายุ 42 ปี ตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่ศาลาบำเพ็ญกุศลศพ ณ สำนักสงฆ์คลองยางสุทธาวาท หมู่ที่ 11 ต.เขาไม้แก้ว อ.บินทร์บุรี ท่ามกลางมีเพื่อนบ้านในพื้นที่ช่วยกันทำความสะอาดศาลาและเมรุ เนื่องจากผู้เป็นแม่ของผู้เสียชีวิตไม่มีเงินในการบำเพ็ญกุศลศพ และตัวของผู้เสียชีวิตเป็นโสดไม่มีครอบครัว
                 ทำให้ชาวบ้านต่างเวทนา ต้องมาช่วยการทำงานศพ ท่ามกลางความโศกเศร้า โดยเฉพาะพื้นที่ ต.เข้าไม้แก้ว คนที่ถูกช้างป่าเหยียบตาย รายนี้เป็นศพรายที่ 2แล้ว และ ในช่วงเย็นวันนี้ได้จัดให้มีพีธีรดน้ำศพ และ สวดอภิธรรมศพ และจะทำพิธีฌาปนกิจวันพรุ่งนี้ 17 ก.พ.67
                 ต่อมา นายรณรงค์ นครจินดา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ได้มอบหมายให้ นางมาละนี จินดารัตน์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปราจีนบุรีบุ (สนง.ปภ.จ.ปราจีนบุรี) นายนายกิตติชัย รุ่งไพบูลย์วงศ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1( ปราจีนบุรี) และ นางวัชราภรณ์ แตงหมี นายอำเภอกบินทร์บุรี ลงพื้นที่ดูจุดเกิดเหตุ
               ต่อจากนั้น ได้นำพวงหรีดมาเคารพศพผู้เสียชีวิต และแสดงความเสียใจกับกับญาติผู้เสียชีวิต พร้อมแจ้งว่า ทางจังหวัดปราจีนบุรีและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธรณะภัย จ.ปราจีนบุรี (สนง.ปภ.จ.ปราจีนบุรี) จะมีเงินช่วยเหลือครอบครัว ผู้เสียชีวิต ผ่านทางองค์การบริหารสวนตบลเขาไม้แก้ว ( อบต. ) ตามขั้นตอนต่อไป