เชียงใหม่-องคมนตรี ตรวจเยี่ยมโรงเรียนกองทุนการศึกษาฯ

เชียงใหม่-องคมนตรี ตรวจเยี่ยมโรงเรียนกองทุนการศึกษาฯ

ภาพ-ข่าว:ศูนย์ข่าวจังหวัดเชียงใหม่

              องคมนตรี ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงเรียนบ้านขุนแปะ จ.เชียงใหม่ โรงเรียนกองทุนการศึกษาในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ติดตามผลการพัฒนาและการจัดการเรียนการสอนตามแนวทาง 3 เสาหลัก 5 กลยุทธ์ ตลอดจนรับฟังปัญหา ข้อขัดข้องของโรงเรียน
              วันนี้ (7 ก.พ. 67) นายนุรักษ์ มาประณีต องคมนตรี ในฐานะกรรมการโครงการกองทุนการศึกษา และคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงเรียนบ้านขุนแปะ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อติดตามผลการพัฒนาและการจัดการเรียนการสอนตามแนวทาง 3 เสาหลัก 5 กลยุทธ์ ตลอดจนรับฟังปัญหา ข้อขัดข้องของโรงเรียนในโครงการกองทุนการศึกษา โอกาสนี้ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มอบหมายให้ นายทศพล เผื่อนอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมติดตามลงพื้นในครั้งนี้ด้วย
               โรงเรียนบ้านขุนแปะ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ได้รับพิจารณาคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในโรงเรียนกองทุนการศึกษาในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2557 ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาโรงเรียนบ้านขุนแป๊ะได้น้อมนำหลักของการจัดการศึกษาสามเสาหลักของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาปรับใช้ในโรงเรียน มุ่งสร้างพื้นฐานให้แก่ผู้เรียนสีด้านประกอบด้วยมีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมืองมีฐานชีวิตที่มั่นคงมีคุณธรรมมีงานทำมีอาชีพและเป็นพลเมืองดี โดยทางโรงเรียนได้ดำเนินการจัดการเรียนการสอน Active Learning 6 ขั้นตอน เน้นให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติด้วยตนเองรวมถึงผู้ปกครองและชุมชนได้มีส่วนร่วมในการการเรียนการสอน ครูทุกคนเข้าร่วมกิจกรรมการสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพภายในโรงเรียนและระหว่างเครือข่าย เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้และร่วมกันแก้ไขปัญหาแล้วนำผลมาพัฒนาผู้เรียน
                นางรัชนี ต๊ะคำ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านขุนแปะ กล่าวว่า โรงเรียนบ้านขุนแปะมีความต้องการเพื่อพัฒนาโรงเรียนให้มีคุณภาพ 3 ด้าน ประกอบด้วย ด้านวิชาการ โรงเรียนขาดบุคลากรด้านภาษาต่างประเทศ ด้านอาคารสถานที่ โรงเรียนประสบปัญหาห้องน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการ และด้านการส่งเสริมพัฒนาการระดับปฐมวัย โรงเรียนขาดแคลนเครื่องเล่นสนามกลางแจ้งสำหรับเด็ก เพื่อส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย
                 ทั้งนี้ นายนุรักษ์ มาประณีต องคมนตรี ได้ชื่นชมการดำเนินงานของโรงเรียนตลอดห้วงเวลาที่ผ่านมา พร้อมกล่าวว่า หัวใจสำคัญในระบบการศึกษาคือครู โดยขอให้โรงเรียนรวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งเสริมและสนับสนุนในการพัฒนาครูและบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญทางวิชาชีพ เพื่อพัฒนาการเรียนการสอนถ่ายทอดความรู้ไปสู่นักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกัน ให้เพิ่มการเรียนรู้ในด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การตระหนักรู้ถึงปัญหาไฟป่าหมอกควันให้กับเด็กนักเรียน เพื่อขยายผลไปสู่ชุมชนและผู้ปกครอง ให้เกิดความรักความหวงแหนสิ่งแวดล้อมในชุมชน ทั้งนี้ ในส่วนข้อขัดข้องของทางโรงเรียนขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดสรรบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ หรือเปิดรับครูอาสาสมัครต่างชาติเพื่อเข้ามาสอนนักเรียน ตลอดจนให้โรงเรียนของบประมาณไปยังต้นสังกัดเพื่อสร้างห้องน้ำสำหรับนักเรียน ทั้งนี้ในส่วนเครื่องเล่นเด็กทางโครงการฯจะดำเนินการจัดหาให้

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!