ตำรวจไซเบอร์ จับกุมเครือข่าย หลอกทำภารกิจกระตุ้นยอดขาย..!!อ้างตัวเป็น “Shopee Thailand”ความเสียหายกว่า 4 ล้านบาท
ภาพ-ข่าว:อริย์ธัช พรอัศวโยธิน
สืบเนื่องจาก เมื่อประมาณเดือน พฤษภาคม 2566 ผู้เสียหายได้เข้าใช้งานแอปพลิเคชัน Facebook เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับการทำงาน ต่อมาได้มีคนร้ายติดต่อชักชวนให้ทำงานออนไลน์ โดยแจ้งว่าเป็นการทำภารกิจเพื่อเพิ่มยอดการขายสินค้า ให้กับแบรนด์สินค้า “Shopee Thailand” อ้างว่ารายได้ผลตอบแทนดี ผู้เสียหายมีความสนใจ จึงได้ติดต่อพูดคุยกับคนร้ายต่อทางแอปพลิเคชัน Telegram Telegram โดยวิธีการทำภารกิจ คนร้ายจะส่งลิงก์สินค้าจากแอปพลิเคชัน Shopee Thailand ให้กดเลือกสินค้าใส่ตะกร้า จากนั้นเพียง แคปภาพหน้าจอสินค้าส่งแอดมิน ถือว่าทำภารกิจสำเร็จ ซึ่งจากการทดลองทำภารกิจในครั้งแรก ด้วยการ โอนเงินไป จำนวน 500 บาท ปรากฏว่าได้รับเงินตอบแทนเข้าบัญชี จำนวน 550 บาท ซึ่งได้กำไร 50 บาท ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงเริ่มทำภารกิจต่อไป และโอนเงินจำนวนที่มากขึ้นให้กับคนร้าย
สรุปผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารคนร้ายไปทั้งหมด จำนวน 13 ครั้ง รวมเป็นเงิน 4,242,029 บาท เมื่อต้องการที่จะถอนเงินหรือยอดกำไร จะยังไม่สามารถถอนเงินได้ คนร้ายจะอ้างด้วยเหตุผลต่าง ๆ เพื่อให้โอนเงินเพิ่มเรื่อย ๆ เช่น จะต้องโอนเงินเพื่อชำระค่าภาษี ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ก่อน หรืออ้างว่าผลกำไรที่ได้รับนั้นยอดสูงเกินไป จะต้องเติมเงินเพื่ออัพเกรดเป็นระดับ VIP ถึงจะสามารถถอนเงินได้ สุดท้ายแล้วไม่ได้รับเงินคืน และไม่สามารถติดต่อคนร้ายได้ จึงทราบว่าถูกหลอกลวงทำให้ได้รับความเสียหาย จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. และ พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท. จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 เร่งสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย จนเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการได้ เพื่อตัดวงจรการหลอกลวงออนไลน์
ต่อมา วันที่ 27 พ.ย. 2566 เวลาประมาณ 13.30 น. พ.ต.อ.ศุภรฐโชติ จำหงษ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.1 ส่งกำลังชุดสืบสวน นำโดย พ.ต.ท.สุรพล เห็มไธสง และ พ.ต.ท.นพดล บุตรวงษ์ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.1 เข้าร่วมจับกุมตัว นายสมปองฯ อายุ 35 ปี ชาวจังหวัดระยอง หนึ่งในผู้ร่วมขบวนการ ตามหมายจับ ศาลอาญามีนบุรี ที่ จ.1120/2566 ลงวันที่ 3 พ.ย. 2566 ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” โดยควบคุมตัวได้ที่ บริเวณท่าเรือแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ หมู่ 4 ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง
เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่า เมื่อประมาณเดือน เมษายน ปี 2566 ที่ผ่านมา มีเพื่อนร่วมงานได้มาชักชวนตนให้เปิดบัญชีธนาคาร โดยทำการเปิดบัญชีแบบออนไลน์ แล้วให้ไปยืนยันตัวตนที่ เซเว่น อีเลฟเว่น ตนเปิดไปจำนวน 3 บัญชี ได้รับค่าตอบแทนจากเพื่อนร่วมงานซึ่งเป็นผู้ว่าจ้าง เป็นเงินจำนวน 300-500 บาทต่อบัญชีเท่านั้น โดยผู้ว่าจ้างดังกล่าว แจ้งแค่ว่าเอาบัญชีไปใช้ในเว็บพนันสล็อตอย่างเดียว และให้เปิดเพียงแค่ 14 วันแล้วค่อยทำการปิดบัญชีหรืออายัดบัญชีภายหลัง โดยตนไม่ทราบมาก่อนเลยว่าบัญชีของตนถูกนำไปใช้หลอกลวงบุคคลอื่น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหาย และจะเร่งขยายผลจับกุมผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไป
