ประจวบคีรีขันธ์-เก๋งเสยสนั่นสาหัส 2 รายรถติดยาวเหยียดหลายกิโลเมตร

ประจวบคีรีขันธ์-เก๋งเสยสนั่นสาหัส 2 รายรถติดยาวเหยียดหลายกิโลเมตร

ภาพ-ข่าว:เอกภพ วงษ์ประเสริฐ

          เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.วันที่ 28 สิงหาคม 66 ร.ต.ท.เมธาสิฐ ณ พัทลุง รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งชนกับรถบรรทุก 6 ล้อ มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดคาอยู่ภายในรถจำนวน 2 ราย เหตุเกิดบริเวณบนถนนเพชรเกษม ฝั่งขาขึ้น กทม. หลักกิโลเมตรที่ 297 + 100 ช่วงยูเทิร์น บ้านทุ่งมะเม่า ตำบลอ่าวน้อย อำเภอเมืองประ จวบคีรีขันธ์ หลังได้รับแจ้งจึงเดินทางไปที่เกิดเหตุ พร้อมประสานหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างประจวบ นำอุปกรณ์เครื่องมือตัด-ถ่าง เข้าให้ความช่วยเหลือร่วมกับเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยตำรวจทางหลวง เร่งดำเนินการช่วยเหลือ
         เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่ารถที่ประสบอุบัติเหตุกีดขวางการจราจรบนถนนทั้ง 2 ช่องทาง ทำให้รถที่วิ่งสัญจรขึ้นกทม.ไม่สามารถผ่านไปได้ และมีน้ำมันเครื่องยนต์รั่วไหลนองเต็มพื้น เป็นเหตุให้ติดยาวหลายกิโลเมตร เจ้าหน้าที่ต้องรีบเปิดการจราจรทางเบี่ยงเพื่อระบายรถ และป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน จากการตรวจสอบพบเป็นรถบรรทุก 6 ล้อ สีขาวหมายเลขทะเบียน 71-2485 เพชรบุรี สภาพหัวเก๋งหลุดพังยับ ผู้ขับขี่ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ใกล้กันพบเป็นรถยนต์เก๋งยี่ห้อ MG ZS i-Smart สีขาว หมายเลขทะเบียน กต 7170 ชุมพร สภาพหน้ารถพังยับ กระจกหน้าแตก กันชนและฝากระโปรงหน้ารถฉีกขาดพังเสียหายยับเยิน ผู้ขับขี่และผู้โดยสารที่นั่งมาในรถชาย 1 ราย หญิง 1 ราย อายุประมาณ 30-35 ปี ได้รับบาดเจ็บขาและแขนหักทั้ง 2 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ใช้อุปกรณ์เครื่องตัด-ถ่างตัดซากรถนำผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์
          ส่วนสาเหตุเบื้องต้น คนขับรถบรรทุก 6 ล้อได้ให้การยอมรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตนเองขับรถมาตามถนนเพชรเกษมมุ่งหน้าลงใต้และกำลังเลี้ยวยูเทิร์น เพื่อที่จะกลับรถไปฝั่งขาขึ้น กทม. ระหว่างนั้นก่อนเกิดเหตุได้มีรถเก๋งวิ่งมา ทางตรง และตนคิดว่ารถเก๋งจะเลี้ยวยูเทิร์นกลับรถเช่นกัน ตนจึงได้ขับรถบรรทุก 6 ล้อเลี้ยวยูเทิร์นโดยที่ไม่คาดคิดว่าจะไปตัดหน้ารถเก๋งที่กำลังวิ่งทางตรงเพื่อมุ่งหน้าขึ้นกรุงเทพฯ จึงเป็นเหตุให้เกิดการเฉี่ยวชนกันขึ้น จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและได้รับความเสียหายดังกล่าว อย่างไรก็ดีจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ดำเนินการสอบสวนหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!