สุพรรณบุรี-สาวใหญ่วัย 53 สู้ชีวิต..!!ทำนาข้าว นาบัว ปลูกกล้วย มะละกอ สร้างรายได้

สุพรรณบุรี-สาวใหญ่วัย 53 สู้ชีวิต..!!ทำนาข้าว นาบัว ปลูกกล้วย มะละกอ สร้างรายได้

ภาพ-ข่าว:มงคล สว่างศรี/ภัทรพล พรมพัก

               สาวใหญ่วัย 53 ปีสู้ชีวิตน้อมนำพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ 9 มาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ทำนาข้าว นาบัว ปลูกผลไม้ล้มลุก บนคันบ่อที่ว่าง ขายสร้างรายได้ เลี้ยงครอบครัว สุขใจที่ได้ทำ
              ที่จังหวัดสุพรรณบุรี มีเกษตรกรชาวอำเภอศรีประจันต์ สู้ชีวิต ทำนาข้าว นาบัว ปลูกกล้วย มะละกอ ขายสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว จึงไปตรวจสอบพบสาวใหญ่คนดังกล่าวกำลังเก็บดอกบัวอยู่ในนาบัว ทราบชื่อ คุณป้าระนอง กงจักร อายุ 53 ปีชาวบ้านหมู่ 3 ตำบลศรีประจันต์ อำเภอศรีประจันต์ สอบถามคุณป้าระนอง เล่าว่าทำนาบัวมาแล้ว 17 ปี โดยเช่าที่เขาทำ เมื่อก่อนครอบครัวประกอบอาชีพทำนา อยู่หลายปีแต่ไม่ค่อยเหลือ จึงคิดว่าช่วงว่างจากทำนามีเวลาเยอะก็เลยหาวิธีคิดว่าทำจะทำอะไรดี ก็เจอที่ลุ่มอยู่แปลงหนึ่งจึงเช่าไว้แต่ทำนาไม่ได้เพราะน้ำท่วมก็คิดว่าจะทำอะไรดีที่อยู่กับน้ำได้ พอดีมีญาติขายดอกไม้ตามตลาดนัดแนะนำให้ตนทำบัว จึงตัดสินใจทำนาบัว เก็บดอกส่งขาย ช่วงใหม่ๆก็กระเตาะกระแตะเรื่อยมา แต่พอทำมาเรื่อย ๆ ตลาดก็กว้างขึ้น ขายดีขึ้นพออยู่ได้ เฉลี่ยแล้วได้ขั้นต่ำวันละ 300-400 บาท ถ้าเทศกาลรายได้ดีหน่อย เช่นสงกรานต์ หลายวันก็ได้เป็นหมื่น วันพระนึงได้ 1,000 – 4,000 บาท วันพระธรรมดาก็เรื่อย ๆ
             นอกจากทำบัว มีรายได้จากปลูกพืชเสริม มีกล้วย ผัก ไม้ที่ตัดขายใบ เช่น ใบหมาก ใบเล็บครุฑ เป็นใบไม้สำหรับทำพวงหรีด เป็นรายได้เสริมปลูกไว้ในบ้าน โดยมีร้านดอกไม้สั่งให้ปลูกและส่งให้ร้านเป็นรายได้เสริมจากบัวและนาข้าว ทำนาน้อยลงเพราะเป็นนาเช่าเก็บเกี่ยวแล้วไม่เหลือ นาต้องลงทุนบ่อย ส่วนบัวลงทุนครั้งเดียวจบดูแลง่ายไม่ต้องเสียค่าจ้าง สามาถทำคนเดียวได้ อาจจะจ้างฉีดยานาน ๆ ครั้ง ถ้าเดินฉีดเองไม่ไหว นาข้าวทำคนเดียวไม่ได้ต้องจ้างทุกอย่าง ทำบัวรายได้ดีกว่าทำนา เมื่อก่อนทำนาเยอะต้องเอาเงินจากบัวไปลงทุนนา ซื้อปุ๋ย ซื้อยา จ่ายค่าจ้างทำเทือก ตั้งแต่ต้นจนจบใช้เงินบัว กินใช้ทุกอย่างใช้เงินจากบัวทั้งหมด ลงนา 10 กว่าไร่ตั้งแต่โควิดมา หลังโควิด รายได้จากบัวตก ดอกไม้ขายไม่ดี คนไม่ค่อยใช้ ก่อนโควิดมีรายได้จากบัว เดือนละ 30,000 กว่าบาท ณ ปัจจุบันได้เดือนละ 10,000 กว่าบาท ลดลงมาเยอะ หลังโควิดคนไม่ค่อยใช้ หลังโควิดบางราย ที่วิ่งส่งก็เลิก สงสัยบนบาลศาลกล่าวไว้แล้วไม่ได้เรื่องก็เลยเลิกไหว้ละมั้ง บางทีต้องทำกำดอกไม้กำวิ่งส่งลูกค้าตามบ้านด้วย เทศกาลตรุษจีน สารทจีน เราก็ทำไปขายตลาดนัดเพราะเรามีของเอง
             ส่วนลูกค้าก็มาจากหลายที่ทั้งจากสามชุก ในตัวจังหวัด แล้วยังมีลูกค้าประจำอีก 4 จ้าววันโกนวันพระต้องให้ลูกค้าประจำก่อน ส่วนลูกค้าจรถ้าเหลือถึงจะได้ ออเดอร์แต่ละรายจะไม่เหมือนกัน บางรายสั่งเอาดอกบัว เตยต้นและดอกสร้อยทองมัดเป็นกำแต่ไม่ต้องพับดอกบัววันละ 150 กำราคาส่งกำละ 5 บาทลูกค้าก็นำไปขายต่อที่กรุงเทพ รายได้นอกจากบัว ก็ยังมี ไม้ผลล้มลุกเช่น กล้วยน้ำว้า มะละกอ และไม้ใบสำหรับทำพวงหรีด นอกจากนี้ถ้าลูกค้าสั่งทำอะไรก็ทำได้ทุกอย่าง ทั้งทำช่อ ทำกำ ทำพาน ทำหมดถ้าใครสั่ง ทั้งบัว ทั้งเตย ใบไม้ ใบสร้อยทอง มะละกอ กล้วย ทั้งหมดนี้เราลงทุนเพียงครั้งเดียวโดยใช้พื้นที่ว่างเปล่าบนคันบ่อ การดูแลก็ไม่ยาก รดน้ำอาทิตย์ละครั้ง ใช้เวลาประมาณ 3 เดือน ก็สามารถเก็บผลผลิตขาย ได้แล้วเราต้องทำอะไรที่เหมาะกับตัวเราเพราะเราไม่ได้ว่างทุกวัน เวลาว่างต้องมาอยู่ในนาบัว เพราะถ้าลูกค้าโทรมาสั่งต้องได้แต่ถ้าลูกค้ารีบก็ต้องบอกให้มารับเองเพราะเราทำคนเดียวไม่มีคนส่ง วันธรรมดาจะเก็บวันละ 200-300 ดอก วันโกนวันพระก็นับ 1,000 ดอกขาย ร้อยละ 80 บาทถึง 100 ละ 100 บาทตนเช่าที่แปลงนี้ 5 ไร่ขุดที่ทำเป็นคันล้อมประมาณไร่ เหลือพื้นที่นาบัวประมาณ 4 ไร่ บนคันก็ปลูกมะละกอ กล้วย ไว้กินสุดท้ายก็ขายได้และไม่พอขายด้วย

             รายได้เฉลี่ยวันละประมาณ 500 บาท ซึ่งก็อยู่ได้สบาย ดีกว่าทำอะไรที่เกินกำลังเรา เราคุ้นเคยและชินแล้วกับการใช้ชีวิตอยู่แบบนี้ การทำนาบัวแทบไม่ต้องใช้ปุ๋ยใช้ยา นอกจากมีแมลงลงหรือบัวเริ่มแกนไม่ค่อยงามดอกเล็กลง จึงจะใส่ปุ๋ย กระทุ้ง ส่วนการลงทุนก็ไม่มากเกินไปประมาณ 25,000 บาทเป็นค่าจ้างรถแบ็คโฮมาขุดคันล้อม ส่วนพันธุ์บัวก็ไม่ต้องซื้อเพราะมีอยู่แล้ว อยู่อีกแปลงหนึ่ง พอแปลงนี้ขึ้นเต็มพร้อมก็สลับอีกแปลงทำนาข้าว และจะหมุนเวียนทำแบบนี้ ซึ่งก็มีความสุขเพลินดี สำหรับคนชอบ ส่วนตัวชอบแบบนี้อิสระดี ไม่ต้องเป็นลูกจ้างใครวันไหนอยากพักก็พัก ตนชอบชีวิตเปื้อนดินเปื้อนโคลนตนถนัดแบบนี้ คนเราสามารถทำได้ทุกอย่างแต่ต้องมีตลาด อย่างเช่นบัวก็มีคนทำเยอะแต่ก็ต้องมีตลาด
              ที่ตนทำหลายอย่างก็เพราะความชอบเป็นแรงบันดาลใจ ชอบปลูกชอบต้นไม้ ช่วงแรกๆที่ปลูกไม่จะเป็นพืชหรือผัก ก็ไม่มีตลาด ตนคิดว่าปลูกไว้ก่อน ให้มีของเดี๋ยวก็ขายได้ จะขายถูกขายแพง ถ้าขายไม่ได้ก็แจก (ป้าพูดไปหัวเราะไปอย่างอารมณ์ดี) อย่างเช่นกล้วยน้ำว้าเคยมีคนถามว่าปลูกเยอะแยะจะเอาไปขายที่ไหน ตนบอกขายไม่ได้ก็แจก แต่สุดท้ายกลับไม่พอขายตอนนี้กล้วยน้ำว้าไม่พอขายแต่ก็เป็นบางช่วงที่ขายดี ถ้าขายดีตลอดก็รวยเกินไปล่ะ ถ้าขายดีทุกวันป้ารวยไปล่ะ

              คุณป้ายังให้ข้อคิดอีกว่าทุกอย่างอยู่ที่ตัวเราจะกำหนดอะไร ป้าก็กำหนดตัวเองเช่นเดียวกันใครก็มากำหนดไม่ได้ ป้าชอบและยึดแนวพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ ว่าปลูกป่า 3 อย่างได้ประโยชน์ 4 อย่างป้าก็ยึดถือแนวทางของพระองค์ท่านมาปฏิบัติ ปรับใช้กับชีวิตประจำวันก็ได้ประโยชน์ทุกอย่าง อย่างน้อยๆ เหลือขายเหลือกินก็นำไปแจกเพื่อนบ้านเป็นการแบ่นปันกันได้อีก ถ้าใครสนใจจะซื้อหรือสั่งดอกบัวของป้าระนอง เอาไปจำหน่ายต่อสามารถสั่งซื้อได้ทางโทรศัพท์หมายเลข 085-2972632

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!