ปราจีนบุรี-ร่วมสดุดีผู้กล้าในอดีต-ปัจจุบัน ในค่ายจักรพงษ์

ปราจีนบุรี-ร่วมสดุดีผู้กล้าในอดีต-ปัจจุบัน ในค่ายจักรพงษ์

ภาพ-ข่าว:มานิตย์ สนับบุญ

            วันนี้ 3 ก.พ.66 สิบเอกมานิตย์ สนับบุญ อดีตทหารช่าง สังกัดกองพันทหารช่างที่ 2 รักษาพระองค์(ช.พัน 2 รอ.) ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีรายงานว่า เนื่องในโอกาสวันทหารผ่านศึก นายรณรง นครจินดา ผวจ.ปราจีนบุรี ได้เดินทางมาร่วมงานเป็นเกียรติวันทหารผ่านศึก โดยมี พ.อ.เสกสรรค์. พรหมศักดิ์รอง รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 12เป็นประธานในพิธีพร้อมเหล่าทหารผ่านศึกผู้กล้าและแขกผู้มีเกียรติรวมกว่า 300 คน กิจกรรมประด้วยพิธีทางสงฆ์ในการอุทิศแด่ดวงวิญญาณทหารกล้าทุกสมรภูมิทั้งในอดีต –ปัจจุบัน การวางพวงมาลา การกล่าวสดุดี วันทหารผ่านศึก อ่านสารจากพลเอก จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายกสภาทหารผ่านศึก พิธีมอบเกียรติบัตรแก่ทหารผ่านศึกพิธีสวนสนามหน้าอนุสาวรีย์ฯ โดยมี พ.อ.เสกสรรค์. พรหมศักดิ์รอง รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 12 (มทบ.12) ค่ายจักรพงษ์ นำกล่าว ในฐานะผู้แทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และนายกสภาทหารผ่านศึก หน้าอนุสาวรีย์วีรไทย ว่า ….
           เนื่องในวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็นวันทหารผ่านศึก และ เป็นวันที่ระลึกถึงทหารกล้า ซึ่งอนุสาวรีย์แห่งนี้ ได้สร้าง ขึ้นมา เพื่อสดุดีทหารกล้าของชาติ ที่ได้พลีชีพ เพื่อรักษาไว้ ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ อันนับเป็น วีรกรรมที่ควรยกย่อง และสรรเสริญเป็นอย่างยิ่ง ท่านทั้งหลาย คงจำกันได้ว่า เมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๘๓ ประเทศไทย ได้มีกรณี พิพาทเรื่องดินแดนกับกลุ่มอินโดจีนฝรั่งเศส และมีความจำเป็น ต้องเข้าร่วมรบในสงครามมหาเอเชียบูรพา ตั้งแต่ปีพุทธศักราช ๒๔๘๔ จนถึงปีพุทธศักราช ๒๔๘๘ รวมระยะเวลา เข้าสู่ สงครามประมาณ ๕ ปี ในการปฏิบัติราชการสงคราม ทั้งสอง ครั้งที่กล่าวมา กองทัพบูรพา ซึ่งรับผิดชอบการรบด้าน ตะวันออก ต้องสูญเสียชีวิตทหารกล้า จากการปฏิบัติหน้าที่ เป็นจำนวน ๗๖๑ นาย และได้รับการจารึกชื่อไว้ ณ อนุสาวรีย์ วีรไทยแห่งนี้ ท่านผู้กล้าหาญเหล่านี้ได้อุทิศกําลังกาย กำลังใจ และเสียสละ ความสุขส่วนตัว เข้าปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันและปราบปรามอริราชศัตรู ที่มุ่งทำลายล้างชาติไทย จนกระทั่งได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตลง ก็เพื่อปกป้องรักษาเอกราช และความเป็นไทย ให้ดำรงอยู่อย่างมีความสุข วีรกรรมอัน ยิ่งใหญ่ ที่ท่านทั้งหลายประกอบไว้ ด้วยเลือดเนื้อและชีวิต ถือเป็นวีรกรรมอันทรงเกียรติ และมีคุณค่าอย่างยิ่ง สมควรแก่ การยกย่องสรรเสริญ และจะเป็นแบบอย่างจารึกอยู่ในความทรงจําของคนไทยทั้งชาติตลอดไป
           จากนั้นได้อ่านสารของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายกสภาทหารผ่านศึก ก่อนที่ พ.อ.เสกสรรค์.พ.อ.เสกสรรค์. ได้มอบประกาศนียบัตรดีเด่นแก่เหล่าทหารผ่านศึก ด้านต่าง ๆ รวม 3 ประเภท ดังนี้ ประเภททหารผ่านศึกนอกประจำการบัตรชั้นที่ 1 ที่พิการทุพพลภาพหรือพิการดีเด่น ได้รับรางวัลชมเชย ได้แก่ อส.ทพ.ประเสริฐ ศิลาอ่อน อายุ 56 ปี ภูมิลำเนา อ.เมือง จ.สระแก้ว ปัจจุบันประกอบอาชีพการเกษตรสวนผสม และเปิดร้านค้าชุมชน , ประเภทเกษตรกรทหารผ่านศึกดีเด่น ได้รับรางวัลชมเชย ได้แก่ ส.ต.ประสิทธิ์ ผาวันดี อายุ ๕๙ ปี ทหารผ่านศึกนอกบัตรชั้บที่ 4 ภูมิลำเนา อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ประกอบอาชีพทางการเกษตรผสมผสาน , ประเภททหารผ่านศึกนอกประจำการดีเด่นระดับภาคได้รับรางวัลชมเชย ได้แก่ ร.ต.สุทิน เพชรเจริญ อายุ 66 ปีทหารผ่านศึกนอกประจำการ บัตรชั้นที่ 4 ภูมิลำเนา อ.ตาพระยาจ.สระแก้ว ประกอบอาชีพทางการเกษตรผสมผสานและทำธุรกิจค้าขายอะไหล่รถยนต์

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!