ประจวบคีรีขันธ์-สาวนักศึกษาปี 1 ร้องสวัสดิการฯทำงานพาร์ทไทม์ร้านชาบูดังแต่ถูกโกงค่าแรง

ประจวบคีรีขันธ์-สาวนักศึกษาปี 1 ร้องสวัสดิการฯทำงานพาร์ทไทม์ร้านชาบูดังแต่ถูกโกงค่าแรง

ภาพ/ข่าว:เอกภพ วงษ์ประเสริฐ

          วันที่ 21 ก.พ.67 นางสาวน้ำขิง อายุ 15 ปี นักศึกษา ปวช.ปี 1 แผนกพานิชยการวิทยาลัยเทคนิคประจวบคีรีขันธ์ เดินทางเข้าร้องขอความเป็นธรรมกับสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อขอให้หน่วยงานเข้าให้ความช่วยเหลือ หลังจากที่ได้ไปสมัครทำงานที่ร้านอาหารชาบูดังแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองประจวบฯ เพื่อหวังหาเงินรายได้ส่งตัวเองเรียนหนังสือ เนื่องจากทางบ้านมีฐานะยากจนแต่หลังจากที่ไปทำงานได้ 18 วัน ครบกำหนดจ่ายเงินของพนักงานแต่ตนเองไม่ได้รับเงิน เนื่องจากทางร้านอ้างว่าทำงานไม่ครบเดือน และไม่แจ้งลาออกก่อนล่วงหน้า 15 วัน โดยทางสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้ให้นักศึกษาสาวกรอกประวัติเอกสาร คำร้องก่อนสอบปากคำถามเรื่องราวความเป็นมาถึงรายละเอียดของการทำงานและข้อตกลงกับทางร้าน เพื่อรวบรวมข้อมูลให้ครบทั้งสองฝ่ายก่อนดำเนินการตามขั้นตอนของกรอบกฎหมายต่อไป
          นางสาวน้ำขิง อายุ 15 ปี เปิดเผยว่า ที่ตนเองเดินทางมาร้องขอความเป็นธรรมที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานในวันนี้ ก็เพราะหวังอยากให้หน่วยงานเข้าให้ความช่วยเหลือตน เนื่องจากตนเองฐานะทางบ้านยากจน และตนเองอยากได้เงินไปเรียนหนังสือ ปัจจุบันเรียนอยู่ชั้นปวช.ปี 1 แผนกพาณิชย์ วิทยาลัยเทคนิคประจวบคีรีขันธ์ หลังเลิกเรียนจึงได้ไปทำงาน part time รับค่าจ้างแรงงาน ชั่วโมงละ 30 บาท วันละ 4 ชั่วโมง กับร้านอาหารชาบูดังแห่งหนึ่ง ส่วนในวันหยุดตนก็จะทำงาน 2 ที่ ช่วงเช้าถึงบ่ายสองตนจะทำงานที่ร้านขายโจ๊ก ส่วนช่วงค่ำก็จะไปทำงานหาเงินที่ร้านอาหารชาบู เพื่อหวังนำเงินที่ได้จากการทำงานไปส่งตัวเองเรียนหนังสือให้จบสูงๆ และเพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง แต่เมื่อตนเองทำงานไปได้จำนวน 18 วัน รู้สึกว่าร่างกายสู้ไม่ไหวจึงขอลาออก และได้บอกล่วงหน้ากับทางร้านก่อนออกจากงาน 4 วัน และเมื่อครบกำหนดจ่ายเงินของพนักงาน ตนเองจึงไปขอรับเงินค่าแรงที่ทำไปปรากฏว่าทางร้านแจ้งว่าผิดเงื่อนไขไม่แจ้งลาออกก่อนล่วงหน้า 15 วัน และมีพนักงานในร้านบอกกับตนว่าถ้าทำงานไม่ครบเดือนก็จะไม่ได้รับเงินเช่นกัน ตนเองมองว่าทำงานเหนื่อยกี่วันก็ต้องได้ค่าแรงตามกฎหมาย จึงได้มาร้องสำนักงานสวัสดิการให้เข้าช่วยเหลือตน
          นายกฤตผล แก่นนาคำ สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า นโยบายของภาครัฐสนับสนุนส่งเสริมให้นักเรียนมีการหารายได้ระหว่างเรียนเพื่อบรรเทาภาระผู้ปกครองอยู่แล้ว ซึ่งการทำงานของแรงงานไม่ว่าจะเป็นแรงงานทั่วไปหรือแรงงาน part time จะทำงานกี่วันก็แล้วแต่จะต้องได้รับค่าแรงตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งในพื้นที่จังหวัดประจวบฯค่าแรงขั้นต่ำตามกฎหมายวันละ 345 บาท ส่วนพาร์ทไทม์ชั่วโมงละ 40 บาท ซึ่งเด็กนักเรียนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี แต่ไม่ต่ำกว่า 15 ปี การทำงานจะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองด้วย และการทำงานห้ามเกิน 22.00 น.ซึ่งสถานประกอบการจะต้องพิจารณางานให้นักศึกษาพาร์ทไทม์ทำตามความเหมาะสมและไม่เสี่ยงอันตราย และต้องจ่ายเงินค่าแรงตามที่กรอบกฎหมายกำหนด รวมถึงต้องแจ้งการทำงานของเด็กมายังสำนักงานสวัสดิการฯภายใน 15 วัน และหากเลิกจ้างแล้วต้องแจ้งให้สำนักงานทราบภายใน 7 วัน หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 6 เดือน ปรับไม่เกิน 100,000 บาท แต่ถ้าอายุต่ำกว่า 15 ปี ไม่สามารถทำงานกับสถานประกอบการได้ เนื่องจากผิดกฎหมายการค้าแรงงานเด็ก ซึ่งกรณีนี้สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดไม่ได้นิ่งนอนใจก็จะสอบถามข้อมูลจากนักศึกษาก่อนถึงรายละเอียด หลังจากนั้นจะได้ไปติดตามสอบถามจากเจ้าของสถานประกอบการถึงรายละเอียดเช่นกัน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย และจะได้ดำเนินการให้เป็นไปตามกรอบของกฎหมายต่อไป เพื่อให้นักศึกษาที่ถูกเอาเปรียบได้รับเงินค่าจ้างแรงงานตามที่กฎหมายกำหนด คือ ชั่วโมงละ 40 บาท วันละกี่ชั่วโมงและทำงานจำนวนกี่วันก็จะต้องได้รับเงินครบตามจำนวน

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!