สระบุรี-ศาลอุทธรณ์นัดฟังคำพิพากษาในคดีฆาตกรรมน้องพลอย

ภาพ/ข่าว:สมภพ พิมมะศร

ศาลอุทธรณ์นัดฟังคำพิพากษาในคดีฆาตกรรมโหด อดีต ส.อ.พลกฤต วิเศษ หรือ (เอส) ที่เป็นจำเลยก่อเหตุฆาตกรรมน้องพลอย พบศพถูกเผานั่งยางในพื้นที่ จ.สระบุรี

          วันที่ 20 มี.ค.62 จากกรณีที่ น้องพลอยหรือนางสาว พลอยนรินทร์ ผลิผล เสียชีวิตเนื่องจากถูกอดีตนายทหารยศสิบเอกแฟนหนุ่มฆ่าและนำศพมาทิ้งที่บริเวณริมเขาถนนสายแสลงพัน-แก่งคอย เขตอำเภอแก่งคอย จ.สระบุรี จากนั้นได้ลงมือเผาเพื่อทำลายหลักฐาน ต่อมาหลังจากญาติได้แจ้งความและร้องเรียนต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทั่งมีการพบศพดังกล่าวและนำไปสู่การจับกุมตัว สิบเอก พลกฤต วิเศษ แฟนหนุ่ม ได้ในเวลาต่อมา ซึ่งเข้าสู่กระบวนการสอบสวนและยอมรับให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ที่ลงมือฆ่าและเผาน้องพลอย แฟนสาวจริง และศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาจำคุกนายพลกฤติฯผู้ต้องหาตลอดชีวิต แต่ลดโทษให้เหลือ 33 ปี 11 เดือน เนื่องจากรับสารภาพ และให้ชดใช้ค่าเป็นเงิน 1,500,000 บาท

          ซึ่งในเช้าวันนี้เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว นายพลกฤต วิเศษ ผู้ต้องหา เดินทางมาที่ศาลจังหวัดสระบุรี เพื่อฟังคำพิพากษาคดีของศาลอุทธรณ์ ขณะที่นางพัชรี ปั้นทอง มารดา นายวิชา ผลิตผล บิดา พร้อมญาติๆของน้องพลอยหรือนางสาว พลอยนรินทร์ ผลิผล และมีนายชาญชัย ฉายบุ ทนายความซึ่งได้รับมอบหมายจากนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความและประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้เดินทางมาที่ศาลจังหวัดสระบุรีเพื่อฟังผลการพิพากษาด้วยเช่นกัน โดยที่มารดายังต้องการให้ได้รับโทษประหารชีวิต สำหรับความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป
           คืบหน้าต่อมานางพัชรี ปั้นทอง มารดา นายวิชา ผลิตผล บิดา พร้อมญาติๆ เดินลงมาจากศาลสระบุรีกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ศาลตัดสินชั้นต้นจำคุกผู้กระทำความผิด 33 ปี 11 เดือนให้ชดใช้ค่าเป็นเงิน 1,500,000 บาท โดยนางพัชรีฯ แม่ของน้องพลอกล่าวว่า ตนและครอบครัวยังคงเคารพการตัดสินของศาลอุทธรณ์ในวันนี้ แต่ยังคงยืนยันที่จะทวงความเป็นธรรมให้กับน้องพลอย โดยการยื่นฏีกา ซึ่งเป็นที่พึ่งสุดท้ายให้ลงโทษคนร้ายด้วยโทษสูงสุดคือการประหารชีวิตต่อไป