พช. จับมือ Airbnb เปิดหมู่บ้านนวัตวิถีไทย สู่ตลาดโลก

พช. จับมือ Airbnb เปิดหมู่บ้านนวัตวิถีไทย สู่ตลาดโลก

ภาพ/ข่าว:คัคเนศวร์ พรอัศวโยธิน

        พช. จับมือ Airbnb เปิดหมู่บ้านนวัตวิถีไทย สู่ตลาดโลก ต่อยอดแคมเปญนอกเหนือจากเมืองใหญ่ Meet Thailand’s Villages a Beyond Big Cities initiative

เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2563 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม 3003 ชั้น 3 กรมการพัฒนาชุมชน นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การส่งเสริมชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี ผ่านตลาดดิจิทัล
ระหว่าง กรมการพัฒนาชุมชน กับ บริษัท แอร์บีเอ็นบี (Airbnb) โดยคุณ Anita Roth Head of Policy Research San Francisco
ผู้แทนจากบริษัท แอร์บีเอ็นบี (Airbnb) เป็นการผนึกกำลังครั้งใหญ่ ขับเคลื่อนท่องเที่ยวชุมชน OTOP นวัตวิถี สู่สายตาทั่วโลก นำร่องแคมเปญใน 4 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ เชียงใหม่ สมุทรสงคราม และเลย พร้อมแสดงภูมิปัญญาและวัฒนธรรมอันมีเอกลักษณ์บนแพลตฟอร์มท่องเที่ยวระดับโลก โดย Airbnb และกรมการพัฒนาชุมชนจะยังเฟ้นหาชุมชนท้องถิ่นทั่วประเทศเพื่อให้ร่วมเป็นผู้จัดเอ็กซ์พีเรียนซ์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญดังกล่าวต่อไปจนถึงสิ้นปี
            ทั้งนี้ Airbnb เป็นแพลตฟอร์มท่องเที่ยวระดับโลก ประกาศความร่วมมืออย่างเป็นทางการกับกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) สังกัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศและนำเสนอท่องเที่ยวชุมชนที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นของไทยให้คนทั่วโลกได้รู้จักผ่านแคมเปญ “เปิดหมู่บ้านนวัตวิถีไทยสู่ตลาดโลก ต่อยอดแคมเปญนอกเหนือจากเมืองใหญ่” หรือ “Meet My Village, Beyond Big Cities initiative” โดยความร่วมมือเชิงกลยุทธ์นี้เดินตามรอยความสำเร็จของแคมเปญทางการตลาด “นอกเหนือจากเมืองใหญ่” ที่ Airbnb เปิดตัวในประเทศไทยในปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการโปรโมทจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวใหม่ที่ชูโรงท่องเที่ยวชุมชนอย่างจังหวัดบุรีรัมย์และสระบุรี
             นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เปิดเผยว่า วันนี้เป็นนิมิตหมายที่ดี ที่ Airbnb มาร่วมมือกับกรมกรมการพัฒนาชุมชน เป็นการดำเนินการที่สอดรับกับแนวทางในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศของรัฐบาล ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ หลังได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโคโรนา (Covid-2019) ที่ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจที่มีคนถูกเลิกจ้าง ตกงานจำนวนมาก การร่วมลงนามในครั้งนี้เป็นไปตามแนวทางประชารัฐ ที่มีรูปแบบการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วน คือ “เอกชนนำ ประชาชนลงมือทำ และรัฐสนับสนุน” Airbnb ที่เป็นเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่น ให้บริการที่พักและกิจกรรมเชิงประสบการณ์ การประสานความร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ เพื่อเชื่อมโยงเชิงธุรกิจกับบริษัทนำเที่ยว และเครือข่ายด้านการท่องเที่ยวต่าง ๆ ในส่วนของภาครัฐ นอกจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยตรงแล้ว องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะเป็นส่วนสำคัญในการร่วมประสานกำลังในพื้นที่ เพื่อสร้างระบบการบริหารจัดการเพื่อรองรับการท่องเที่ยว ทั้งความสะดวก สะอาด และความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว Air bnb นอกจากจะช่วยเรื่องเศรษฐกิจฐานรากแล้วยังช่วยให้คนในชุมชนมีความรู้ความสามารถในการเป็นเจ้าบ้านที่ดีเพราะ Air bnb จะช่วยเหลือฝึกอบรม ช่วยทำให้คนตื่นตัวดูแลบ้านเรือนให้สะอาด สวยงาม คนรวมตัวกันดูแลชุมชน มีกิจกรรมร่วมกันทำให้เกิดความรักความสามัคคี เด็กรุ่นใหม่รักและหวงแหนถิ่นกำเนิดไม่ต้องอพยพไปทำงานในเมืองใหญ่ ที่สำคัญที่สุดชาวโลกจะได้เห็นได้รู้จักสิ่งที่ดีมากมายของชุมชน ของเมืองไทยผ่านแพลตฟอร์มของ Air bnb
           ในส่วนของกรมการพัฒนาชุมชน มี “พัฒนากร” บุคลากรที่สำคัญของกรมการพัฒนาชุมชน คือ ผู้ร่วมทำงานกับประชาชนในพื้นที่ ทำหน้าที่ในการส่งเสริม สนับสนุน และประสานงาน สร้างกระบวนการเรียนรู้และการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน ให้ร่วมกันสร้างกลไกและระบบบริหารจัดการชุมชนท่องเที่ยวให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืน  อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวเพิ่มเติมว่า “Air bnb เหมือนกามเทพที่จะทำให้คนทั่วโลกพบรักกับหมู่บ้านท่องเที่ยวOTOP นวัตวิถี ที่มีทั้งความสวยงามเป็นธรรมชาติ มีศิลปวัฒนธรรม มีประเพณี มีสินค้าOTOP สินค้าชุมชนไว้ให้นักท่องเที่ยวได้มาเยี่ยมชม และในห้วงระยะเวลาต่อจากนี้ กรมการพัฒนาชุมชนจะจับมือกับ Air bnb หนุนหมู่บ้าน OTOP นวัตวิถีที่มีมากกว่า 3,000 กว่าแห่ง ให้เข้าไปอยู่ในแพลตฟอร์มของ Air bnb ให้ครบมากที่สุดโดยเร็วต่อไป ในนามของกรมการพัฒนาชุมชนยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทำงานร่วมกับ Airbnb ซึ่งเราจะยังเดินหน้าเสริมแกร่งชุมชนท้องถิ่นทั่วประเทศไทย เพื่อช่วยให้ทุกชุมชนได้รับประโยชน์จากภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ”
           ด้านคุณ Anita Roth Head of Policy Research San Francisco ผู้อำนวยการด้านการวางแผนกลยุทธ์และนโยบาย Airbnb กล่าวว่า “Airbnb มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้จัดทำแคมเปญนี้ร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน ซึ่งเปิดโอกาสให้ชุมชนแต่ละท้องถิ่นได้นำเสนอวิถีชีวิตและวัฒนธรรมในแต่ละท้องที่ให้กับคนทั่วโลกผ่านเอ็กซ์พีเรียนซ์ออนไลน์ของ Airbnb โดยความร่วมมือในครั้งนี้ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า แม้การท่องเที่ยวเดินทางทั่วโลกได้ถูกจำกัด แต่ Airbnb ยังคงมุ่งมั่นทำงานร่วมกับรัฐบาลไทยและชุมชนเพื่อสร้างสรรค์และร่วมกันหาทางออกเพื่อฟื้นฟูการท่องเที่ยวของประเทศไทยและกระจายผลประโยชน์ไปยังชุมชนทั่วประเทศ”

ขับเคลื่อนผลประโยชน์จากการท่องเที่ยวไปยังชุมชนท้องถิ่น

           เฟสแรกของแคมเปญ “เปิดหมู่บ้านนวัตวิถีไทยสู่ตลาดโลก” จะเป็นการนำเสนอประสบการณ์การท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์โดยตัวแทนของชุมชนท้องถิ่นที่มีความหลากหลายของประเทศไทยผ่านทาง เอ็กซ์พีเรียนซ์ ออนไลน์ ของ Airbnb ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมสูงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เปิดตัวมา โดยเอ็กซ์พีเรียนซ์ ออนไลน์ เป็นช่องทางที่ช่วยให้ชุมชนท้องถิ่นสร้างรายได้จากการที่นักเดินทางนับล้านทั่วโลกสามารถเข้าร่วมกิจกรรมผ่านออนไลน์ได้จากที่บ้านในช่วงที่สถานการณ์ของการท่องเที่ยวเดินทางยังไม่กลับเป็นปกติ Airbnb ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับกรมการพัฒนาชุมชนเพื่อสรรหาชุมชนท้องถิ่นมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ
โดยชุมชนท้องถิ่น 5 แห่งแรกที่จะนำร่องการนำเสนอท่องเที่ยวชุมชน OTOP นวัตวิถีให้กับทุกคนทั่วโลก ได้แก่
• จากท้องทะเลสู่โต๊ะอาหาร ติดตามชีวิตชาวประมงแสนสนุก (บ้านปากมาบ สมุทรสงคราม)
• ท่องเที่ยวหมู่บ้านเครื่องปั้นดินเผา (บ้านเหมืองกุง เชียงใหม่)
• เยี่ยมชมถนนสายเครื่องเงินของภาคเหนือ (บ้านวัวลาย เชียงใหม่)
• หมู่บ้านลับในประเทศไทย (บ้านนาป่าหนาด เลย)
• วิถีชีวิตคนหมู่บ้านไหนหนัง (บ้านไหนหนัง กระบี่)

            เอ็กซ์พีเรียนซ์ ออนไลน์ที่จัดโดยชุมชนนวัติวิถีไทยเหล่านี้จะเป็นรายการล่าสุดในเอ็กซ์พีเรียนซ์กว่า 700 รายการทั่วโลกหลังจากที่ Airbnb เปิดตัวเอ็กซ์พีเรียนซ์ ออนไลน์เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาเสริมแกร่งชุมชนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล
นอกเหนือจากการโปรโมทการท่องเที่ยวในชุมชนแล้ว ความร่วมมือระหว่าง Airbnb และกรมการพัฒนาชุมชนยังรวมถึงการผลักดันและเสริมศักยภาพให้กับชุมชนท้องถิ่นเพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลและต่อเนื่องจากการเปิดตัวแคมเปญใหม่นี้ Airbnb และกรมการพัฒนาชุมชนจะยังเดินหน้าคัดเลือกชุมชนที่สามารถได้รับประโยชน์จากการจัดเอ็กซ์พีเรียนซ์ ออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Airbnb ในแต่ละภูมิภาคของประเทศไทยต่อไปภายในสิ้นปีนี้ ความร่วมมือระยะยาวนี้รวมถึงการสร้างองค์ความรู้ทั้งในแบบออฟไลน์และออนไลน์ (e-learning) ผ่านแหล่งข้อมูลออนไลน์ซึ่งจัดทำเป็นภาษาไทยเพื่อให้การสนับสนุนและความช่วยเหลือแก่ผู้จัดเอ็กซ์พีเรียนซ์ในชุมชนท้องถิ่นต่างๆ นอกจากนั้น Airbnb จะจัดอบรมเจ้าหน้าที่ของกรมการพัฒนาชุมชนและนักการตลาดของกรมฯ ในแต่ละพื้นที่ซึ่งให้ความช่วยเหลือชุมชนที่ต้องการโปรโมทและขายสินค้า OTOP บนช่องทางออนไลน์ และยังสามารถต่อยอดความรู้นำไปสร้างสรรค์กิจกรรมและพัฒนาชุมชนเพื่อดึงดูดการท่องเที่ยวต่อไปได้อีกด้วย

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

 

CATEGORIES
TAGS
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!