ศรีสะเกษ-นักท่องเที่ยวแห่เล่นน้ำหาดบ้านแก้งช่วงหยุดยาวคึกคัก

ศรีสะเกษ-นักท่องเที่ยวแห่เล่นน้ำหาดบ้านแก้งช่วงหยุดยาวคึกคัก

ภาพ/ข่าว:ศิริเกษ หมายสุข

นักท่องเที่ยวแห่เล่นน้ำหาดบ้านแก้งคลายร้อนช่วงหยุดยาวคึกคักมาก ขณะที่เจ้าของแพขายอาหารเศร้านักท่องเที่ยวบางคนมาสั่งอาหารกินบนแพกลางแม่น้ำมูลแล้วแอบหนีไปไม่จ่ายค่าอาหารเดือนละกว่า 10 ราย

          เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 6 ก.ค. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หาดบ้านแก้ง ต.กุดเมืองฮาม อ.ยางชุมน้อย จ.ศรีสะเกษ ปรากฏว่าในช่วงนี้ ซึ่งอยู่ในช่วงหยุดยาวเทศกาลวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ปรากฏว่า ได้มีประชาชนชาวศรีสะเกษและนักท่องเที่ยวทั่วไป ที่ได้พากันไปทำบุญที่วัดในช่วงวันสำคัญทางพระพุทธศาสนานี้มาแล้ว ได้นำครอบครัวญาติพี่น้อง พากันหลบอากาศร้อนมานั่งรับประทานอาหารที่แพกลางแม่น้ำมูลและพากันเล่นน้ำคลายร้อนจากอากาศร้อนกันอย่างคึกคักมาก โดยส่วนแล้วมากแล้วนักท่องเที่ยวจะพากันมาเที่ยวเป็นครอบครัว ขณะที่วัยรุ่นคนหนุ่มสาวจะพากันมาเป็นกลุ่ม และสั่งอาหารรับประทานกัน อาหารยอดฮิตส่วนมากแล้วจะเป็นปลาเผา ส้มตำ และกุ้งเต้น ซึ่งหลังจากทานอาหารเสร็จแล้วจะพากันลงเล่นน้ำกลางแม่น้ำมูลอย่างสนุกสนาน บางคนก็นอนพักผ่อนกันอย่างสบายอารมณ์ ขณะที่เจ้าของแพจำหน่ายอาหารซึ่งจะมีบริการให้เช่าห่วงยางเล่นน้ำด้วย จะประกาศห้ามนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำโดยไม่สวมเสื้อชูชีพอย่างเด็ดขาด เพื่อป้องกันอันตรายทางน้ำที่อาจจะเกิดขึ้นได้ เนื่องจากว่าก่อนหน้านี้มีนักท่องเที่ยวมาเล่นน้ำแล้วจมน้ำเสียชีวิตไปแล้วหลายคน
          นางลัดดาวัลย์ ศรีแก้ว อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 71 หมู่ 18 ต.หนองหมี อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นเจ้าของแพอาหารเจ๊บาง กล่าวว่า ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ จะมีนักท่องเที่ยวพากันมานั่งแพกลางแม่น้ำมูลเพื่อรับประทานอาหารกันจำนวนมาก ทำให้เศรษฐกิจบริเวณนี้ดีขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจย่ำแย่ ขายอาหารไม่ได้นานกว่า 3 เดือน แต่ว่าอย่างไรก็ตามแม้ว่าจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากพากันมาเที่ยว แต่ว่าก็มีลูกค้าบางส่วนฉวยโอกาสที่ตนและพนักงานเสิร์ฟกำลังวุ่นวายกับการให้บริการนักท่องเที่ยวได้ฉวยโอกาสรับประทานอาหารเสร็จแล้วหลบหนีไปโดยไม่จ่ายเงินค่าอาหาร ซึ่งในแต่ละเดือนจะมีประมาณ 8-10 ราย รวมแล้วเป็นเงินประมาณเดือนละ 10,000 บาท ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าจะไปตามเก็บเงินได้ที่ใด เพราะว่าเป็นนักท่องเที่ยวมาจากที่อื่น

          นางลัดดาวัลย์ กล่าวต่อไปว่า การที่ตนเปิดแพจำหน่ายอาหารกลางแม่น้ำมูลนี้ ได้นำเด็กนักเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษามาช่วยในการเสิร์ฟอาหารด้วย เพื่อเป็นการสร้างรายได้ในระหว่างเรียนหนังสือช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ให้กับเด็กนักเรียน โดยเด็กทุกคนที่มาช่วยทำงานจะมีรายได้วันละ 150-200 บาท แต่หากว่าวันไหนมีนักท่องเที่ยวเยอะมาก ตนก็จะเพิ่มค่าแรงให้เป็นวันละ 200-250 บาท เพื่อให้เด็กนักเรียนได้มีรายได้เป็นค่าใช้จ่ายไปเรียนหนังสือและตนยังได้เลี้ยงอาหารทั้ง 3 มื้อแก่เด็กนักเรียนที่มาช่วยทำงานอีกด้วย

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!