ชลบุรี-ท่าเรือแหลมฉบัง ตรวจยึดจับกุม สินค้าต้องห้ามนำเข้า ‘บุหรี่ไฟฟ้า 47,495 ชิ้น’ มูลค่าของกลางกว่า 10 ล้านบาท

ภาพ/ข่าว:นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี 

          เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.67 ที่ ศูนย์เอกซ์เรย์ ศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วยนายดิเรก คชารักษ์ รองอธิบดีกรมศุลกากร ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมสินค้า “บุหรี่ไฟฟ้า“ ทั้งนี้ ตามนโยบายของนางสาวแพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญกับการป้องกันและปราบปรามสินค้าต้องห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร ประเภทบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อความปลอดภัยด้านสุขภาพของประชาชน นายวุฒิ เร่งประดุงทอง ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง สั่งการให้ยกระดับในการบังคับใช้กฎหมายและปราบปรามผู้กระทำผิดตามกฎหมาย ศุลกากรและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
          โดยเมื่อ วันที่ 22 ธันวาคม 2567 กรมศุลกากร โดยสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและปราบปราม สคศ., ฝ่ายบริการศุลกากรที่ 1 สบศ.1, กองสืบสวนและปราบปราม ฝ่ายสืบสวนและปราบปราม 3 สปป.1 กสป. ปฏิบัติการร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษทำการตรวจสอบตู้สินค้าต้องสงสัย 1 ตู้คอนเทนเนอร์ ณ ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี โดยกรมศุลกากรได้รับการประสานจาก กรมสอบสวนคดีพิเศษ ว่าอาจมีการนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าซุกซ่อนปะปนมากับสินค้าอื่น ซึ่งตู้สินค้าดังกล่าว มีเมืองกำเนิดจากประเทศจีน จึงได้ทำการอายัดตู้สินค้าเพื่อตรวจสอบโดยละเอียด จากการตรวจสอบพบ “บุหรี่ไฟฟ้า” แบบใช้แล้วทิ้ง จำนวนกว่า 47,495 ชิ้น” มูลค่าของกลางกว่า 10 ล้านบาท
          ทั้งนี้ บุหรี่ไฟฟ้าจัดเป็นของต้องห้ามตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้บารากู่และบารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าที่ต้องห้ามในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ.2557 ลงวันที่ 12 ธันวาคม 2557 จึงอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 เจ้าหน้าที่ จึงได้ยึดของดังกล่าว เป็นของกลางส่ง สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ในความผิดตามมาตรา 202 ประกอบมาตรา 252 และมาตรา 244 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 โดยตลอดปี 2567 สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ได้ดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับของต้องห้ามเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าแล้ว 9 ราย รวมของกลาง 25,690 ชิ้น รวมมูลค่าของกลางกว่า 11.9 ล้านบาท