ลพบุรี-โจรใจบาปแอบฉกพระศรีอาริย์จำลอง ภายในพิพิธภัณฑสถาน

ลพบุรี-โจรใจบาปแอบฉกพระศรีอาริย์จำลอง ภายในพิพิธภัณฑสถาน

ภาพ/ข่าว:กฤษณ์ สนใจ 

            โจรใจบาปแอบฉกพระศรีอาริย์จำลอง ภายในพิพิธภัณฑสถานวัดไลย์พระคู่เมืองลพบุรี

                ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00 น.ของวันที่ 6 มี.ค.64 ได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.ท. ฉันทะ วิชัยปะ สว.สภ.ท่าโขลง อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ว่ามีเหตุลักทรัพย์ เป็นวัตถุมงคลและพระพุทธรูปเก่าแก่และทรัพย์สินมีค่าภายในวัดไลย์ ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางขาม ต.เขาสมอคอน อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี พร้อมได้มอบหมายให้ ร.ต.อ.รินทร์ศักดิ์ ตระกูลธร รอง สว.สอบสวน สภ.ท่าโขลง พร้อม เจ้าหน้าที่สืบสวน และเจ้าหน้าที่จากพิสูจน์หลักฐานลพบุรี รุดไปตรวจสอบภายในชั้นที่ 3 บนพิพิธภัณฑ์สถานแห่งที่ 2 ของวัด พบพระพุทธรูปพระศรีอริยเมตไตร หรือ “พระศรีอาริย์”ทรงเครื่องจำลอง หน้าตัก 22 นิ้ว จำนวน 1 องค์ สร้างในยุคสมัย ร.4 – ร.5 ซึ่งประเมินราคาไม่ได้ เหรียญโลหะและรูปหล่อพระศรีอริยเมตไตร ประมาณ 10 ชิ้น หนังสือประวัติ จำนวน 5 เล่ม ซึ่งคาดว่าทรัพย์สินดังกล่าวน่าจะถูกขโมยไประหว่างวันที่ 26 ก.พ.64

                เวลา 16.00 น. – 4 มี.ค.64 เวลา 10.00 น. เนื่องจากเมื่อวันที่ 26 ก.พ. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กรรมการวัดพร้อมด้วยชมรมเรารักวัดไลย์ได้ทำการจัดวางสิ่งของในพิพิธภัณฑ์ และมีการปิดประตูล็อกด้วยกุญแจอย่างดี แต่เมื่อวันที่ 5 มี.ค.64 กรรมการวัดได้มาเปิดพิพิธภัณฑ์เพื่อจะจัดวางของใหม่ จึงได้พบว่า “พระศรีอาริย์”ทรงเครื่องจำลอง หายไป พระครูวิลาศ พัฒนกุล เจ้าอาวาสวัดไลย์ จึงมอบอำนาจให้ นายกิตติ หุตะมาน อายุ 51 ปี สมาชิกชมรมเรารักษ์วัดไลย์ ซึ่งเป็นกรรมการวัดและเป็นผู้ถือกุญแจพิพิธภัณฑ์ อาคาร 2 หรืออาคารพิพิธภัณฑ์หลังใหม่ของวัด เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าโขลง อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ เก็บลายนิ้วมือแฝง ดีเอ็นเอ และถ่ายภาพสถานที่เกิดเหตุไว้อย่างละเอียดเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี นอกจากยังพบว่ากล้องวงจรปิดภายในวัดเสียอีกด้วย จึงคาดว่าน่าจะเป็นคนภายในวัดที่รู้รายละเอียดและจุดที่เก็บพระพุทธรูปสำคัญ จึงร่วมกับพวกมาก่อเหตุดังกล่าว นอกจากนี้ตำรวจยังได้ตรวจสอบประวัติและเชิญสมาชิกชมรมเรารักษ์วัดไลย์ ที่รู้เห็นว่ามีพระพุทธรูปมีค่าตั้งอยู่บนชั้น 3 รวมถึงพระสงฆ์ในวัดบางรูป มาสอบปากคำ หาข้อพิรุธ และได้นิมนต์พระสงฆ์ บุคคลที่ต้องสงสัย มาตรวจสารเสพติดในปัสสาวะ เก็บลายพิมพ์นิ้วมือ และดีเอ็นเอ นำส่งเปรียบเทียบ พร้อมไล่ข้อมูลกล้องวงจรปิด บ้าน ร้านค้าที่ตั้งอยู่รอบวัด หารถต้องสงสัยในคืนที่พบว่ามีเสียงหมาเห่าในวัดด้วย

                  พ.ต.ท. ฉันทะ ยังเผยว่า ทางวัดได้มีการขยับขยายวัตถุมงคลและพระพุทธรูปจากพิพิธภัณฑ์วัดไลย์ หลังแรก บางส่วนมาเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์หลังที่ 2 เพื่อจะทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวให้ประชาชนมาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์หลังใหม่นี้ จากเดิมนำมาวางไว้ชั้นล่าง มีสถานที่จัดเก็บ มิดชิดและรัดกุม แน่นหนา เหล็กดัดอย่างดี แต่ทางคณะกรรมการได้ย้ายขึ้นไปเก็บบนชั้น 3 ซึ่งเป็น สถานที่เปราะบาง หละหลวม ต่อการโจรกรรมอย่างมาก โดยเฉพาะมีคณะกรรมการหลายคน ตั้งแต่เป็นฆราวาส และพระสงฆ์ ได้ร่วมกันถือกุญแจสำคัญดอกนี้ ผลจากการตรวจสอบ ปรากฏว่าประตูที่ล็อกเก็บของ ชั้น 3 นั้นวัตถุมงคลและพระพุทธรูปที่หายไป ได้ถูกล็อกกุญแจไว้เช่นเดิม แต่สิ่งของได้หายไปได้อย่างไร เรื่องนี้จะต้องทำการสอบสวนคณะกรรมการที่ถือกุญแจห้องนี้ด้วย คาดว่าอีกไม่นานจะรู้ผล และติดตามตัวคนร้าย ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้น่าจะมีใครสักคนหนึ่งภายในวัดรู้เห็นเป็นใจ กับของที่หายไป เพราะมีพิรุธจากกุญแจที่ถูกปิดล็อกอย่างดี แต่พระพุทธรูปและของมีค่ากลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย ทั้งนี้ วัดไลย์ เป็นวัดเก่าตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น รัชกาลสมเด็จพระเจ้าบรมโกศทรงปฏิสังขรณ์ มีพระวิหาร ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบอยุธยาตอนต้น คือ มีลักษณะเจาะช่องผนังแทนหน้าต่าง ๆ ภายในมีพระประธานขนาดใหญ่ปางมารวิชัย ลงรักปิดทอง มีซุ้มเรือนแก้วแบบพระพุทธชินราช จังหวัดพิษณุโลก ด้านหน้าและด้านหลังของพระวิหารมีลายปูนปั้นเรื่องทศชาติ และเรื่องปฐมสมโพธิงามน่าดูนัก ซึ่งนับว่าเป็นภาพประติมากรรมฝาผนังขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญยิ่งชิ้นหนึ่งของชาติ นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปที่ชื่อ “พระศรีอาริย์” เป็นของสำคัญอีกอย่างหนึ่งซึ่งผู้คนนับถือกันมาแต่โบราณ และรัชกาลที่ 5 ยังเคยได้เสด็จประพาสต้นที่วัดไลย์อีกด้วย

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!