ผับดังเมืองประจวบวอนขอความเป็นธรรมหากต้องถูกสั่งปิดแบบไม่มีกำหนด

ผับดังเมืองประจวบวอนขอความเป็นธรรมหากต้องถูกสั่งปิดแบบไม่มีกำหนด

ภาพ/ข่าว:ณัฐพัชญ์ วงษ์ประเสริฐ 

          ผับดังเมืองประจวบวอนขอความเป็นธรรมหากต้องถูกสั่งปิดแบบไม่มีกำหนด เหตุนักเที่ยวตีกันเละตอนผับเลิก พนักงาน 30 ชีวิตมีภาระ จะอยู่อย่างไร

            วันที่ 20 มิ.ย.65 นายนเรศ โล่ห์เหล็ก ผู้จัดการดูแลร้านอาหาร 33 Station เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ร้านของตนเปิดตามปกติแต่วันศุกร์-เสาร์ จะมีลูกค้าเยอะกว่าวันธรรมดา และจะปิดในเวลาเที่ยงคืนแต่ก่อนจะปิดประมาณ 10 นาทีจะเริ่มเปิดไฟให้ลูกค้าทราบ และตอนขณะเกิดเหตุซึ่งเป็นเวลาที่ร้านปิดแล้วและเหตุเกิดบริเวณนอกร้าน ซึ่งเวลาประมาณ 5 ทุ่มครึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดูแลความสงบเรียบร้อยอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวทุกคืนอยู่แล้ว ส่วนคู่กรณีของผู้ก่อเหตุมาจากไหน กลุ่มไหน ตนเองไม่ทราบ เนื่องจากมันชุลมุนวุ่นวาย และเป็นเหตุสุดวิสัย จึงอยากขอความเป็นธรรมบ้าง เนื่องจากทางร้านมีใบอนุญาตครบทุกอย่าง และทางร้านทำไมจะต้องไปจ่ายส่วยให้ใครทำไม และที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีเจ้าหน้าที่หน่วยงานไหนมาขอเรียกเก็บส่วยด้วย ส่วนการดูแลนักท่องเที่ยวขณะเปิดร้านเราก็ได้จัดเจ้าหน้าที่ดูแลอำนวยความสะดวกอยู่แล้ว และก่อนร้านเลิกก็ได้ประสานขอให้เจ้าหน้าที่มาคอยดูแลอำนวยความสะดวกบริเวณหน้าร้านด้วยเช่นกัน ซึ่งตนเองก็ต้องขอความเป็นธรรมหากร้านโดนสั่งปิด เพราะที่ผ่านมากว่าจะได้เปิดกิจการใช้เวลาเกือบ 2 ปีที่ต้องหยุดเพราะสถานการณ์โควิด-19 อีกทั้งยังมีพนักงานภายในร้านเกือบ 30 ชีวิต ที่ต้องดูแล ซึ่งแต่ละคนก็มีภาระรายจ่ายของครอบครัว ซึ่งทางร้านของตนเปรียบเสมือนองค์กรที่คอยหล่อเลี้ยงชีวิตพนักงานทุกคน และเมื่อเกิดเหตุสุดวิสัยแบบนี้ แล้วจะให้ทางร้านรับผิดชอบฝ่ายเดียวและถูกสั่งปิดมันก็ไม่ยุติธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดเหตุทะเลาะวิวาทบริเวณร้าน 33 Station ถนนสุขจิต เขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย และนำตัวส่งโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ โดยมีคลิปภาพปรากฏผู้ร่วมก่อเหตุมีการรุมทำร้ายกันที่บริเวณหน้าผับ และมีการถืออาวุธปืนพกสั้นคล้ายปืนลูกโม่ไว้ในมือ เบื้องต้นทางด้าน พันตำรวจเอก สุธี วรรณสูตร ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนดำเนินการติดตามตัวผู้ร่วมก่อเหตุที่ปรากฏอยู่ในภาพมาดำเนินคดีตามกฎหมายทุกราย ในเบื้องต้นสามารถติดตามตัวมาได้ 7-8 รายแล้ว ซึ่งจะต้องสอบสวนและตรวจสอบให้แน่ชัดอย่างละเอียด เนื่องจากตามภาพมีทั้งผู้ที่ห้ามปรามและผู้ที่ก่อเหตุจำนวนมาก ซึ่งจะต้องสอบสวนให้แน่ชัด ก่อนจะแจ้งข้อกล่าวหา ว่าเป็นทะเลาะวิวาท หรือเป็นสมัครใจทะเลาะวิวาท แต่เบื้องต้นสาเหตุการทะเลาะวิวาทมาจากคู่กรณีเคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน และเมื่อทั้งสองฝ่ายมาเที่ยวร้านอาหารแล้วเจอกัน ประกอบกับมีการเหยียบเท้าและกระทบกระทั่งกัน จึงได้ก่อเหตุทะเลาะวิวาทขึ้น

              ส่วนผู้ที่ปรากฏในคลิปภาพวีดีโอที่มีผู้ที่ถืออาวุธปืนได้นำอาวุธปืนเข้ามามอบตัวแล้ว ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็นอาวุธปืนจริงหรือเป็น BB Gun ตามที่เจ้าตัวกล่าวอ้างหรือไม่ ซึ่งยังไม่ได้รับรายงานอย่างละเอียดจากฝ่ายสืบสวน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมดมาสอบปากคำ และแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานสักนิดนึง ในเบื้องต้นผู้ได้รับบาดเจ็บได้เข้ามาแจ้งความแล้ว 1 ราย และอยู่ระหว่างรอผลตรวจร่างกายของผู้ได้รับบาดเจ็บจากทางโรงพยาบาลว่าจะเข้าข่ายในข้อหาทำร้ายร่างกายหรือไม่ ส่วนกรณีที่ปรากฏในภาพเห็นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดสัญญาณไฟวับวาบ และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนคุมเชิงอยู่โดยที่ไม่ได้เข้าไปห้ามปราม เนื่องจากกำลังพลเจ้าหน้าที่ตำรวจมีน้อยกว่าผู้ก่อเหตุมาก ไม่เหมือนกับเขตเมืองใหญ่ๆซึ่งมีกำลังพลเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ละผลัดจำนวนหลาย 10 นาย พ.ต.อ.สุธี กล่าว

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!