ตำรวจภาค4 ตามรวบ 3 มือปืน บุกยิงผัว-เมียดับ ปมแค้นที่ดิน สปก. หนีกบดานเมืองลพบุรี

ภาพ/ข่าว:พฤตินัย มั่งสวัสดิ์ ทีมข่าวอาชญากรรมตำรวจภูธรภาค4

           ตำรวจภูธรภาค4/สืบสวนภาค4 – ตำรวจภาค4 ตามรวบ 3 มือปืน บุกยิงผัว-เมียดับ ปมแค้นที่ดิน สปก. หนีกบดานเมืองลพบุรี เปลี่ยนสีรถอำพราง ดำเป็นขาว แต่ไม่รอด โดนรวบทั้งทีม คนจ้างวาน มือปืน คนขับรถ

                  วันที่ 13 พ.ค.65 ที่ตำรวจภูธรภาค 4 “บิ๊กยง” พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สายเพชร ศรีสังข์ รอง ผบช.ภ.4 ,พล.ต.ต.อรรคพงศ์ พิมลศิริ รอง ผบช.ภ.4,พล.ต.ต.หัสชัย เรืองมาลัย รอง ผบช.ภ.4 ,พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม ผบก.สส.ภ.4,พล.ต.ต.วรวัฒน์ มะลิ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ, พ.ต.อ.พงศ์ฤทธิ์ คงศิริสมบัติ รอง ผบก.สส.ภ.4,พ.ต.อ.กิตติพงษ์ จิตรคาม ผกก.สืบสวน 3 บก.สส.ภ.4,พ.ต.อ.ณัฏฐ์เอก จงตระการสมบัติผกก.สส.ภ.จว.กาฬสินธุ์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สส.ภ.4 ร่วมกับ ภ.จว.กาฬสินธุ์และ บก.สส.ภ.1 ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 3 คน ประกอบด้วย 1.นายสมาน ดิษสลุง อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99 หมู่ 8 ต.นาจำปา อ.ดอนจาน จ.กาฬสินธุ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ จ 118/2565 ลง 10 พ.ค.2565 (ไม่พบประวัติต้องโทษ) 2. นายพร้อมพงษ์ ชวดสลุง อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 130 หมู่ที่ 1 ต.โคกสลุง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ผู้ต้องหาตาม หมายจับของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ จ 120/2565 ลง 10 พ.ค.2565 มีประวัติต้องโทษ 6 คดีทำร้ายร่างกายจนเป็น เหตุให้ผู้อื่นได้ รับอันตรายสาหัส, ครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย, มีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษ ประเภท 1, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ต้องโทษ 2 ครั้ง) 3. นายเอกสิทธิ์ ดิษสลุง อายุ50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 113/1 หมู่ที่ 6 ต.แก่งผักกูด อ.ท่าหลวง จ.ลพบุรี ผู้ต้องหาตาม หมายจับของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ จ 119/2565 ลง 10 พ.ค.2565 มีประวัติต้องโทษ 1 คดีพกอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยมิได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว โดยกล่าวหา ผู้ต้องหาทั้งสามคนว่า “ร่วมกันฆ่าผู้อื่น” พร้อมตรวจยึดของกลาง จากนายสมาน ดิษสลุง ประกอบด้วย 1.อาวุธปืน จำนวน 4 กระบอก. 2.รถกระบะยี่ห้อ โตโยต้า จำนวน 1 คัน 3.โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง 4. เครื่องแต่งกายวันก่อเหตุ จำนวน 1 ชุด 5.สมุดบัญชีและบัตร ATM ในชั้นจับกุมนายสมาน ดิษสลุง ให้การรับสารภาพ ว่า มูลเหตุจูงใจเกิดจากความขัดแย้งเรื่องที่ดินและความสัมพันธ์ส่วนตัว

             ตรวจยึดจากนายพร้อมพงษ์ ชวดสลุง มี. 1.รถยนต1เก๋งสีดำ(คันที่ใช้ก่อเหตุ) จำนวน 1 คัน 2.โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง 3.เครื่องแต่งกายวันก่อเหตุ จำนวน 1 ชุด ในชั้นจับกุม นายพร้อมพงษ์ ชวดสลุง ให้การรับสารภาพ รับว่า ร่วมกับพวกรวม 3 คน ใช้รถยนต์เก๋งสีดำคัน ของกลาง ร่วมกันมาก่อเหตุ โดยก่อนเข้าพื้นที่เกิดเหตุ ทางเข้าบ้านสะอาดสมศรี ได้ถอดแผ่นป้ายทะเบียนก่อนลงมือยิง ผู้ตายทั้งสอง ต่อมาหลังเกิดเหตุ นายพร้อมพงษ์ฯ ได้นำรถคันก่อเหตุไปเข้าอู่เพื่อเปลี่ยนสีรถเป็นสีขาว เพื่ออำพรางคดี และตรวจยึดจากนายเอกสิทธิ์ ดิษสลุง มี 1.โทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่อง 2.เครื่องแต่งกาย จำนวน 1 ชุด แต่นายเอกสิทธิ์ ชวดสลุง ยังให้การปฏิเสธ “บิ๊กยง” พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ เปิดเผยว่า เวลาประมาณ 19.12 น.วันที่ 28 เม.ย.65 ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.ดอนจาน จ.กาฬสินธุ์ รับแจ้งมีเหตุคนร้ายบุกไปยิง นางนวน อามาตสมศรี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และ นายประเทือง อามาตสมศรี สามี ได้รับบาดเจ็บสาหัส เสียชีวิตในเวลาต่อมา จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม ผบก.สส.ภ.4 ,พ.ต.อ.กิตติพงษ์ จิตรคาม ผกก.สส.3 บก.สส.ภ.4 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจเก็บพยานหลักฐาน ร่วมกับตำรวจท้องที่เกิดเหตุเพื่อสืบสวนจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ กระทั่งสามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้ครบทั้ง 3 คน พร้อมของกลาง ส่วนสาเหตุ มาจากความขัดแย้งในเรื่องที่ดินและมีความแค้นส่วนตัวระหว่างผู้ก่อเหตุกับผู้ตาย กลุ่มคนร้ายได้วางแผนฆ่าโดยการจัดหาอาวุธปืน ขณะที่นายสมานฯ เดินทางไป จ.ลพบุรี เพื่อรับมือปืนและคนขับรถเพืมาที่เกิดเหตุ โดยการใช้รถยนต์เก๋งสีดำ ของ นายพร้อมพงษ์ ฯ เป็นยานพาหนะในการก่อเหตุ เมื่อมาถึง พื้นที่ อ.ดอนจาน จ.กาฬสินธุ์ ก่อนถึงทางเข้าบ้านสะอาดสมศรี มีการถอดป้ายทะเบียนรถออกและได้เปลี่ยนให้ นายสมาน เป็นผู้ขับขี่ และชี้เป้าให้มือปืนลงมือ ยิง จนเป็นเหตุให้เสียชีวิตทั้ง 2 คน แล้วพาหลบหนีไป หลังเกิดเหตุ นายพร้อมพงษ์ ฯได้นำรถเข้าอู่เปลี่ยนสีรถเก๋ง จากสีดำเป็นสีขาว แต่ด้วยหลักฐานที่ทางชุดสืบสวนได่รวบรวมได่หลายอย่างจนสามารถสืบสวนติดตามคนร้ายทั้งสามคนไว้ได้ดังกล่าว.