สตูล-เมรุพัง ชาวบ้านเดือดร้อนไม่มีที่เผาศพ วอนผู้ใจบุญร่วมทุ่นสร้่างใหม่

ภาพ/ข่าว:ชิดชนก

          ที่วัดอุใดพัฒนาวาส หมู่ที่1 ต.อุใดเจริญ อ.ควนกาหลง จ.สตูล เจ้าอาวาสและชาวบ้านพาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ โดยเมื่อหลายวันก่อนมีเหตุการณ์เมรุเผาศพที่วัดดังกล่าวพังทลายลง ที่จุดเกิดเหตุดังกล่าวพบเศษซากปะรักหักพังวางกองอยู่ข้างเมรุ เมื่อมองขึ้นไปข้างบนปล่องของเมรุก็ได้เห็นว่า ปล่องระบายความร้อนของเมรุพังถล่มลงมาเหลือแค่ท่อนเดียวโดยพังลงมากว่าครึ่ง ซากของปล่องดังกล่าวเป็นอิฐและปูนที่มีน้ำหนัก หล่นลงมาทับหลังคาทำให้กระเบื้องและโครงไม้ได้รับความเสียหายอย่างหนัก เสาและคานมีร่องรอยแตกร้าวอย่างเห็นได้ชัด โดยเหตุการณ์ดังกล่าวน่าจะเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่15 มกราคมที่ผ่านมา เนื่องจากมีฝนตกหนักบวกกับเมรุที่มีร่องรอยชำรุดอยู่แล้วจึงทำให้ถล่มลงมาดังกล่าว
          พระครูธรรมสวัสดิ์ ขันติโก เจ้าอาวาส กล่าวว่า เมรุดังกล่าวเป็นเมรุที่สร้างมาหลายปีแล้วโดยก่อสร้างมาตั้งแต่ปี2538 และก็ได้ซ่อมแซมมาบ้างแล้วในปี2554เนื่องจากมีการชำรุด และเมื่อตนเองได้ย้ายเข้ามาเป็นเจ้าอาวาสที่นี่ตั้งแต่ปี2559 ก็ได้รับอนุเคราะห์ช่วยเผาศพให้กับญาติโยมที่ยากไร้ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น และเนื่องจากวัดมีการพัฒนาจากเดิม มีความสะดวกสบาย ทำให้เมื่อมีผู้เสียชีวิตในตำบลโดยส่วนมากแล้วทางญาติจะนำมาบำเพ็ญกุศลศพที่นี่และเผาที่นี่ ทำให้หลายปีที่ผ่านมามีการเผาศพหลายๆศพ บวกกับเมรุที่ชำรุดอยู่แล้วจึงทำให้ถล่มลงมาดังกล่าว
          พระครูธรรมสวัสดิ์กล่าวต่อว่า ก่อนจากที่เมรุจะถล่ม ตนเองเคยรายงานเรื่องเมรุหลังนี้มีร่องรอยชำรุดไปยังสำนักงานพุทธศาสนา จ.สตูลเพื่อของบประมาณ โดยทางสำนักพุทธได้อนุเคราะห์ในเรื่องของเตาเผามาแล้วเป็นเงิน1,200,000บาท แต่สุดท้ายเมรุก็พังถล่มลงมาเสียก่อน ล่าสุดได้ให้ช่างมาประเมินราคาเพื่อที่จะซ่อมแซม โดยราคาประเมินอยู่ที่ประมาณ2,000,000บาท จึงทำให้ทางวัดยังขาดเงินอยู่อีกประมาณ800,000บาท แต่เนื่องจากทางวัดเป็นวัดชนบท ไม่ได้มีรายได้อะไร และยังมีงานก่อสร้างกุฏิที่ยังค้างคาอยู่ ทำให้ไม่มีเงินมาซ่อมรุงได้ ทางเจ้าอาวาสและชาวบ้านจึงอยากขอความอนุเคราะห์จากพุทธศาสนิกชนที่มีจิตรศรัทธาร่วมกันทำบุญคนละนิดคนละน้อยเพื่อนำเงินมาซ่อมบำรุงเมรุให้ได้ใช้เผาศพผู้ยากไร้และศพชาวบ้านในพื้นที่ต่อไป
          ด้านนายไพโรจ จิตภักดี สับปะเหรอของวัดกล่าวว่า เมรุหลังดังกล่าวเป็นเมรุที่สร้างมาหลายปีแล้ว และช่วงหลังๆมีศพที่มาเผาเมรุแห่งนี้เดือนละหลายศพเนื่องจากทางวัดไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ จึงทำให้ตอนนี้ได้รับความเดือดร้อนเพราะถ้าหากมีศพเข้ามาก็ไม่สามารถที่จะเผาได้ เนื่องจากเมรุชำรุดและมีรอยแตกร้าวมากหวั่นจะเกิดอันตราย อย่างไรก็ตามหลังจากนี้หากมีศพเข้ามาก็คงจะต้องใช้เผาในเชิงตะกอนชั่วคราวไปก่อน แต่ก็ทำลำบากมากเนื่องจากการเผาศพในเชิงตะกอนต้องใช้เวลานานอย่างน้อย8ชั่วโมงถึงจะมอด และอีกอย่างคือปัญหาเรื่องฝนตกเพราะช่วงนี้ในพื้นที่มีฝนตกบ่อยมาก แต่ก็จำเป็นต้องเผาหากมีศพเข้ามาเพราะต้องรอจนกว่าจะได้เงินมาซ่อมแซมเมรุให้กลับมาใช้ได้อีกครั้ง หากพุทศาสนิกชนผู้มีจิตรศรัทธาจะร่วมทำบุญก็สามารถทำบุญได้โดยการโอนเข้าบัญชีของวัดได้โดยตรง เลขบัญชี 919-0-42047-0 ธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี วัดอุใดพัฒนาวาส หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 084-3136366 พระครูธรรมสวัสดิ์ ขันติโก เจ้าอาวาส