ร้อยเอ็ด-เรือนจำจังหวัด สนธิกำลังตรวจค้นกรณีพิเศษภายในเรือนจำ เพื่อตรวจค้นสิ่งของต้องห้าม สิ่งของที่ผิดกฎหมาย

ร้อยเอ็ด-เรือนจำจังหวัด สนธิกำลังตรวจค้นกรณีพิเศษภายในเรือนจำ เพื่อตรวจค้นสิ่งของต้องห้าม สิ่งของที่ผิดกฎหมาย

ภาพ/ข่าว:คมกฤช พวงศรีเคน

          เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566 นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานปล่อยแถวการตรวจค้นจู่โจมกรณีพิเศษ ณ เรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด ถนนสุริยะเดชบำรุง ตำบลในเมือง อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมี นายไพสันต์ ขุ่ยรานหญ้า ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ด ปกครองจังหวัดร้อยเอ็ด สถานกักขังกลางจังหวัดร้อยเอ็ด และมณฑลทหารบกที่ 27 ร่วมกับเจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดร้อยเอ็ด รวมทั้งสิ้น 176 นาย เข้าร่วมในการปล่อยแถวตรวจค้นครั้งนี้ ซึ่งหลังจากการตรวจค้น ผลปรากฏว่า ไม่พบสิ่งของต้องห้าม เครื่องมือสื่อสาร ยาเสพติด หรือสิ่งของไม่อนุญาตแต่อย่างใด
          ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ มีนโยบาย ให้เรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศ ดำเนินการตามนโยบายด้านการจู่โจมตรวจค้นกรณีพิเศษร่วมกับหน่วยงานภายนอก ปีละ 4 ครั้ง ซึ่งในการจู่โจมตรวจค้นในวันนี้ เป็นการสนธิกำลังกับหน่วยงานภายนอก เพื่อประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ ในการดำเนินการจู่โจมตรวจค้นและกวาดล้าง พื้นที่ที่อาจมีการซุกซ่อนสิ่งของที่ผิดกฎหมาย ยาเสพติดเครื่องมือสื่อสาร และสิ่งของต้องห้ามต่างๆ ภายในเรือนจำฯ เป็นการป้องปรามมิให้มีการลักลอบกระทำการหรือวางแผนที่จะกระทำการใดๆที่เป็นอุปสรรคต่อการควบคุม หรือก่อเหตุความไม่สงบเรียบร้อยขึ้นภายในเรือนจำฯ และยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของกรมราชทัณฑ์ ต่อสังคมภายนอก
          นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า จังหวัดร้อยเอ็ดแม้จะไม่มีแหล่งผลิตยาเสพติดในพื้นที่ แต่ยังคงมีปัญหาด้านการค้าและแพร่ระบาดยาเสพติด เนื่องจากยังมีผู้ค้ารายย่อยในพื้นที่อยู่ ซึ่งจังหวัดร้อยเอ็ดมีเส้นทางการคมนาคม ที่สามารถเชื่อมโยงพื้นที่ชายแดน และพื้นที่ตอนในที่มีปัญหายาเสพติด ส่งผลให้กลุ่มนักค้าใช้เส้นทางการลำเลียงไปเพื่อส่งต่อให้กับเครือข่ายนักค้ายาเสพติดในพื้นที่ใกล้เคียง ประกอบกับราคายาเสพติดที่ลดลงและมีการซื้อ-ขายผ่านออนไลน์ ส่งผลให้กลุ่มผู้ค้าและผู้เสพเข้าถึงได้ง่าย และมีทางเลือกซื้อได้มากขึ้น ดังนั้นต้องดำเนินการสอดส่องเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดต่อเนื่อง เพื่อให้การดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล ปรากฏผลเป็นรูปธรรมอย่างจริงจัง และการปล่อยแถวครั้งนี้ ได้เห็นถึงความร่วมมือร่วมใจ จากทุกฝ่าย เป็นอย่างดี ทำให้สบายใจได้ว่าตราบใดที่ทุกฝ่ายสามารถประสานนโยบาย สนับสนุนการปฏิบัติงานซึ่งกันและกันแล้ว เราจะสามารถผ่านพ้นวิกฤตการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นได้ในทุกด้าน

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!