ศรีษะเกษ-ย้ำยังไม่มีมาตรการปิดประตูด่านช่องสะงำ

ศรีษะเกษ-ย้ำยังไม่มีมาตรการปิดประตูด่านช่องสะงำ

ภาพ/ข่าว:ศิริเกษ หมายสุข 

      ผบ.กองกำลังสุรนารีร่วมกับ ผวจ.ต้านโควิด-19 ย้ำยังไม่มีมาตรการปิดประตูด่าน ช่องสะงำ แต่เพิ่มความเข้มข้นตรวจการเข้าประเทศเข้มข้น

เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ห้องประชุมหน่วยประสานงานชายแดนพื้นที่ 1 สำนักงานชายแดนไทย – กัมพูชา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย พล.ต.กิตติศักดิ์ บุญพระธรรมชัย ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ได้เป็นประธานในการประชุม เข้มเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ชายแดนไทย – กัมพูชาเพื่อประเมินสถานการณ์ รับมือเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จุดผ่านแดนถาวรไทย – กัมพูชาช่องสะงำ ซึ่งเป็นจุดผ่านแดนที่มีประชาชนทั้ง 2 ประเทศข้ามไปมาหาสู่กัน และเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายโควิด-19 ที่กำลังระบาดไปทั่วโลกอยู่ในขณะนี้ ส่งผลกระทบต่อประชาชนตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา สังคม การค้าขาย การท่องเที่ยว ทั้งนี้เพื่อเป็นการการติดตามสถานการณ์แบบใกล้ชิด จึงได้มีการเร่งระดมประเมินเหตุการณ์ ด้วยการร่วมประชุมรับฟังสถานการณ์โรคติดต่อไวรัสโควิด-19 จากเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติในพื้นที่ตามแนวชายแดนทั้ง 2 ชาติ
        นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ในการประชุมครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย พล.ต.ต.สันติ เหล่าประทาย ผู้บังคับการตำรวจภูธรศรีสะเกษ นายอรรถพล อรรคบุตร นายอำเภอภูสิงห์ พ.อ.จิรัฏฐ์ ช่วงฉ่ำ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่ 3 นายแพทย์กิตติภูมิ จุฑาสมิต ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอำเภอภูสิงห์ นายอัฑฒ์สุภัค ฉกรรจ์ศิลป์ หัวหน้าควบคุมโรค แพทย์ตรวจคนเข้าเมืองประจำด่านช่องสะงำ ดร.ปภพ วงศ์ขันธ์ สาธารณสุขอำเภอภูสิงห์ พ.ต.ท.ปรีชา ประดิษฐ์ศิลป์ สารวัตรด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดศรีสะเกษ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน เจ้าหน้าที่ศุลกากร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลไพรพัฒนา มาเข้าร่วมประชุมและรายงานสถานการณ์ให้ที่ประชุมทราบ
           พล.ต.กิตติศักดิ์ บุญพระธรรมชัย ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี กล่าวว่า ภายหลังการรับฟังการประเมินสถานการณ์โรคโควิด-19 แล้ว ตนร่วมกับ ผวจ.ศรีสะเกษได้สั่งกำชับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานด้านหน้าจุดผ่านแดนถาวรไทย – กัมพูชาช่องสะงำ ทำการตรวจเข้มบุคคลที่ผ่านเข้า-ออก ด้วยการตรวจอย่างเข้มข้นด้วยเครื่องมือเทอร์โมสแกนขนาดใหญ่ หากมีไข้สูงมากกว่า 37.5 องศาเซลเซียสให้มีการตรวจซ้ำ กักกันตัวไว้ก่อน ส่วนการที่จะอนุญาตให้บุคคลเพื่อนบ้านข้ามแดนได้นั้น จะเน้นย้ำเฉพาะผู้ป่วยหนักที่ไม่เกี่ยวกับโรคโควิด-19 ในเรื่องของการปิดด่านช่องสะงำ จะยังไม่มีการปิดด่านแต่อย่างใดในห้วงเวลานี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคนต้องทำความเข้าใจ สร้างความเข้าใจด้วยเหตุผลที่ชัดเจนถูกต้องกับประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชาที่บริเวณช่องสะงำแห่งนี้

CATEGORIES
TAGS
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!