สุพรรณบุรี-ผู้ใจบุญแห่ช่วยเหลือครอบครัวช่างปูนลูกสาวประสบอุบัติเหตุ

ภาพ/ข่าว:ทีมข่าวจังหวัดสุพรรณบุรี

 ผู้ใจบุญแห่ช่วยเหลือครอบครัวช่างปูนลูกสาวประสบอุบัติเหต

                วัดดังเมืองสุพรรณและผู้ใจบุญแห่ให้กำลังใจช่วยเหลือครอบครัวช่างปูน อยู่อย่างสมถะเลี้ยงลูก4คน ส่วนลูกสาววัย6ขวบประสบอุบัติเหตุรถ จยย.พ่วงข้างชนตั้งแต่อายุ 13 เดือน ทำให้กระดูกมือด้านซ้ายผิดรูปและตาซ้ายมองไม่เห็น วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยหาทางรักษาให้หายเป็นปกติ  จากกรณีโลกโซเชียลแห่แชร์ภาพและเรื่องราวของครอบครัวช่างปูน พาครอบครัวมารวม 5 ชีวิต ประกอบด้วยพ่อ แม่ ลูกอีก 3 คน พักอาศัยห้องใต้แท็งค์น้ำ หลังวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร อ.เมืองสุพรรณบุรี จนมีคนผ่านไปผ่านมาพบเห็นแล้วสงสาร จึงนำเอาอาหารและขนม ของเล่นไปมอบให้เด็ก ๆทั้ง 3 คน กระทั่งมีคนนำเอาภาพและเรืองราวการสู้ชีวิตของครอบครัวนี้ไปลงโซเชียล จนมีคนแชร์ต่อๆกันมาเป็นจำนวนมาก
                 ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่พบครอบครัวของนายสมศักดิ์ หงส์เวียงจันทร์ อายุ 50 ปี อาชีพช่างปูน ชาว จ.กาญจนบุรี ได้พาครอบครัวมาทำงาน รับทำปั้นปูน เป็นกล้วยจำลอง โดยได้พาภรรยากับลูกอีก 3 คน มาอยู่ ณ ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วย กลุ่มชุมชนวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร เพื่อให้เป็นแหล่งรวบรวมและเรียนรู้เรื่องกล้วยทุกสายพันธุ์ในประเทศไทยและเป็นศูนย์โอทอปผลิตภัณฑ์แปรรูปกล้วย ที่กำลังเตรียมจะเปิดให้เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่จังหวัดสุพรรณบุรี ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้มีศึกษาเรื่องกล้วยช่วงเดือนเมษายนนี้ ตั้งอยู่ด้านหลังวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี
                 นายสมศักดิ์ หงส์เวียงจันทร์ อายุ 50 ปี อาชีพช่างปูน ชาว จ.กาญจนบุรี เล่าว่าตนมีลูก 4 คน คนโตเป็นผู้หญิงอายุ 9 ขวบ พักอาศัยอยู่กับญาติ อ.หนองปรือ จ.กาญจนบุรี ส่วนลูกอีก 3 คน คนที่ 2 เป็นผู้หญิงวัย 6 ขวบ ได้ประสบอุบัติเหตุรถ จยย.พ่วงข้างชนตั้งแต่อายุ 13 เดือน ทำให้กระดูกมือด้านซ้ายผิดรูปและตาซ้ายมองไม่เห็น เนื่องจากขาดการรักษาอย่างต่อเนื่อง สำหรับลูกคนที่ 3 เป็นผู้หญิง อายุ 4 ขวบ และลูกคนสุดท้องเป็นผู้ชายอายุ 8 เดือน ตนได้นำลูกทั้ง 3 คน มาเลี้ยงดูที่ทำงาน จ.สุพรรณบุรี ด้วย ซึ่งความเป็นอยู่จะลำบาก เนื่องจากจะทำงานหาเงินได้เพียงคนเดียว เพราะว่าภรรยาต้องเลี้ยงดูลูกถึง 3 คน รายได้ไม่ค่อยจะพอใช้จ่าย โชคดีที่ได้มาทำงานที่ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วย กลุ่มชุมชนวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร นี้เพราะว่าได้รับความเมตาจาก พระธรรมพุทธิมงคล เจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์วิหาร ได้ให้พระลูกวัดและคณะกรรมการวัดนำเอาอาหารใส่ปิ่นโตมาให้ครอบครัวตนได้กินอิ่มทั้ง 3 มื้อ จึงได้ลดค่าใช้จ่ายไปได้มากเลย
                ด้านนายอานนท์ รักผล ไวยาวัจกรวัดป่าเลไลยก์วรวิหารและรองประธานศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วย เปิดเผยว่า ทางศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยได้หางานให้โดยว่าจ้างนายสมศักดิ์ หงส์เวียงจันทร์ มาปั้นปูนเป็นรูปกล้วยต่างๆ ซึ่งได้มาทำงานได้ราว 3 เดือน เดิมที ทางเจ้าอาวาสวัดป่าไลยก์วรวิหาร เห็นว่าครอบครัวนี้ขยันทำมาหากินสู้ชีวิตและมีฝีมือดีในงานปูนปั้น แต่มีลูกหลายคน จึงจะให้พักอาศัยอยู่ที่กฏิพระ แต่นายสมศักดิ์ ปฏิเสธเนื่องจากเกรงว่าลูกๆ จะไปวิ่งเล่นเสียงดังรบกวนพระสงฆ์และเณร จึงจะขอไปเช่าบ้านอยู่ แต่เนื่องจากรายได้น้อย และเห็นห้องใต้แท็งค์น้ำว่างอยู่ และยืนยันว่าอาศัยอยู่ได้เพราะใกล้ที่ทำงานอีกด้วย นายสมศักดิ์จึงขอพักอาศัยอยู่ห้องใต้แท็งค์น้ำ จึงมีคนมาพบแล้วถ่ายภาพไปลงโซเชียล มีคนแห่แชร์เรื่องราวครอบครัวนี้

                  ล่าสุด น.ส.ธนพร ภูติวัฒนชัย และน.ส.กันยารัตน์ เกตุนาค เจ้าหน้าที่.อบจ.สุพรรณบุรี น.ส.วรพิชชา กัญญา สารวัตรกำนันตำบลบ้านสระ อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี ทราบข่าวจากโซเชียล ถึงความลำบากของครอบครัวนี้ จึงได้นำเอาข้าวสาร อาหารแห้ง มามอบให้กับครอบครัวนายสมศักดิ์ นำเอาขนมและตุ๊กระตา มาให้เด็กๆด้วย เพื่อเป็นการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น หลังโลกโซเชียลแชร์เรื่องราวครอบครัวนายสมศักดิ์ ทางเจ้าหน้าที่ พม.สุพรรณบุรี เจ้าหน้าที่ สธ.อำเภอเมืองสุพรรณบุรี บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุพรรณบุรีได้เดินทางมาเก็บข้อมูลเพื่อจะหาแนวทางให้ความเหลือต่อไป ส่วนครอบครัวนายสมศักดิ์ กล่าวขอบคุณภาครัฐและผู้ใจบุญทุกๆคนกับธารน้ำใจที่หลั่งไหลมาช่วยเหลือและให้กำลังใจครอบครัวตนในการต่อสู้ชีวิตต่อไปวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยหาทางรักษาบุตรสาวที่ประสบอุบัติเหตุรถ จยย.พ่วงข้างชนตั้งแต่อายุ 13 เดือน ทำให้กระดูกมือด้านซ้ายผิดรูปและตาซ้ายมองไม่เห็น วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยหาทางรักษาให้หายเป็นปกติด้วย

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/