นายก อบจ.นครสวรรค์ ร่วมลงนาม MOU ความร่วมมือโครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
ภาพ/ข่าว:ชาติชาย เกียรติพิริยะ
นายก อบจ.นครสวรรค์ ร่วมลงนาม MOU ความร่วมมือโครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG (U2T for BCG) และร่วมเสวนาวิชาการ BCG เพื่อการพัฒนาสังคม เฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี ม.ราชภัฏนครสวรรค์
เมื่อเวลา 13:00 น. วันที่ 17 สิงหาคม 2565 พล.ต.อ.สมศักดิ์ จันทะพิงค์นายก.อบจ.นครสวรรค์ ร่วมลงนาม MOU ความร่วมมือโครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG (U2T for BCG) และร่วมเสวนาวิชาการ BCG เพื่อการพัฒนาสังคม เฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี ม.ราชภัฏนครสวรรค์ ณ ศูนย์ประชุมและนิทรรศการนานาชาติ ม.ราชภัฏนครสวรรค์ โดยมี นายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ประธานกล่าวเปิดงาน โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ไชยรัตน์ ปราณี อธิการบดี ม.ราชภัฏนครสวรรค์ กล่าวรายงาน กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย พิธีลงนามความร่วมมือระหว่างโครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิด ด้วยเศรษฐกิจ BCG (U2T for BCG) ระหว่างม.ราชภัฏนครสวรรค์ กับ อบจ.อุทัยธานี อบจ.นครสวรรค์ และ อปท.ของ จ.นครสวรรค์ และ จ.อุทัยธานี จำนวน 93 แห่ง โดย ม.ราชภัฏนครสวรรค์ ได้ดำเนินโครงการดังกล่าว เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและยกระดับรายได้ให้กับคนในชุมชนฐานราก จ.นครสวรรค์และจ.อุทัยธานี จำนวน 400 ครัวเรือน ในปี 2564 และจำนวน 200 ครัวเรือน ในปี 2565 เพื่อส่งเสริมและพัฒนาอาชีพหลักและอาชีพรอง ในการเพิ่มรายได้และพัฒนาสวัสดิการชุมชน ในการแก้ไขปัญหาความยากจน และได้รับความร่วมมือจากผู้นำ อปท. ผู้นำท้องที่ และผู้นำชุมชนเป็นอย่างดี ทำให้ชุนชนฐานรากได้รับการพัฒนาคุณภาพชีวิตและได้รับการส่งเสริมอาชีพหลักและอาชีพรอง มีผลิตภัณฑ์ชุมชนที่ก่อให้เกิดรายได้ และเส้นทางการท่องเที่ยว ต่อยอดพัฒนาเพิ่มขึ้น ต่อมากิจกรรมเสวนาวิชาการแนวทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ BCG สู่การพัฒนาท้องถิ่น โดยพิธีกรผู้ดำเนินเสวนา ดร.วิสุทธ์ บุญญะโสภิ และผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย
1. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ จำนงค์ แรกพินิจ
อธิการบดีมหาวิทยาลัยชีวิต
2. พลตำรวจเอกสมศักดิ์ จันทะพิงค์ นายก อบจ.
นครสวรรค์
3. นายเผด็จ นุ้ยปรี นายก อบจ.อุทัยธานี
4. นายวิชัย นะสุวรรณโน ผู้อำนวยการภาค
สำนักงานภาคเหนือ
5. นายวิรัช ตั้งประดิษฐ์ กรรมการหอการค้าไทย
สำหรับ BCG คือ Bio-Circular-Green เศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน เป็นแนวคิดการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมไปยกระดับความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืนให้กับ 4 อุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-curves) ได้แก่ อุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร อุตสาหกรรมพลังงานและวัสดุ อุตสาหกรรมสุขภาพและการแพทย์ และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ลดความเหลื่อมล้ำ อีกทั้งยังสอดรับกับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงซึ่งเป็นหลักสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอีกด้วย
