ชัยวัฒน์ เผย เรื่องนี้มันเป็นขบวนการออกมาต่อต้านผมไม่ให้กลับเข้ารับราชการ เพราะถ้าผมกลับเข้าไปคนชั่วๆมันเดือดร้อนยกฝูง

ชัยวัฒน์ เผย เรื่องนี้มันเป็นขบวนการออกมาต่อต้านผมไม่ให้กลับเข้ารับราชการ เพราะถ้าผมกลับเข้าไปคนชั่วๆมันเดือดร้อนยกฝูง

ภาพ/ข่าว:สุรพล นาคนคร 

            จากกรณีที่มีข่าวอัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าพญาเสือ และผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 จังหวัดอุบลราชธานี ในคดีการหายตัวของนายบิลลี่ หรือพอละจี รักจงเจริญ

              ล่าสุด 15 ส.ค.65 นายชัยวัฒน์เปิดเผยว่า ตนเองยังไม่เห็นคำสั่งดังกล่าว ทราบจากที่สื่อมวลชนโทรศัพท์มาสอบถามแต่โดยส่วนตัวแล้วไม่หนักใจ มาถึงขั้นนี้แล้วก็เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ตนเองก็พูดได้ระดับหนึ่ง ทำไม ต้องมีไทม์ไลน์ออกมาในจังหวะเดียวกันในเรื่องนี้ โดยเฉพาะที่ศาลปกครองเพชรบุรี มีคำสั่งทุเลาคำสั่งให้กลับเข้ารับราชการ ชัยวัฒน์ตอบ มันชัดเจนอยู่แล้วครับ คือเหตุการณ์แต่ละเรื่องที่มันออกมา มันสอดคล้องกับเวลา มันมีการคัดค้านกัน ดักหน้า ดักหลัง ฉะนั้นการที่จะไม่ให้ผมออกไปต่อสู้ ถ้าผมกลับไปรับราชการนี่ มันมีกลุ่มคนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นสิ่งที่ผมปกป้องมันเป็นทรัพย์สินของประเทศชาติ วันนี้ผมอยากให้มองทั้งสองมุม มุมหนึ่งผมเข้ากระบวนการต่อสู้ที่เขาอ้างว่าไปเผาบ้านคออี้กับพวกทั้งหก แล้ววันนี้ชัดไหมหละครับว่าบ้านทั้งหกไม่มีตัวตนด้วยซ้ำ แล้วก็ศาลเริ่มเมตตาทุเลาคำสั่งให้ผมกลับเข้ารับราชการ ในส่วนที่ศาลทุเลาก็คือในส่วนหนึ่งศาลหลักฐานที่นำมาอาจจะไม่ขอบด้วยกฎหมาย แล้วก็เรื่องยากเกินกว่าเยียวยา การกลับไปรับราชการก็ไม่ทำให้ราชการและประโยชน์สาธารณะเสียหาย เรากลับไปทำประโยชน์ให้กับสาธารณะเสียด้วยซ้ำ เรื่องนี้ผมก็สู้ในกระบวนการยุติธรรม ของคดีบิลลี่นี่มันจะได้จบเรื่องของงานประจำปีเสียที ถึงปีก็บิลลี่หาย อย่างโน้นอย่างนี้ จะมาดราม่ากันในสื่อบ้างในที่ต่างๆบ้าง วันนี้ถ้าเข้ากระบวนการยุติธรรม ผมเชื่อในกระบวนการยุติธรรม ผมเคารพทั้งสามศาลครับ ขบวนการมันชัดเจนอยู่แล้ว วันนี้รู้แม้กระทั่งว่าใครอยู่เบื้องหลังด้วยซ้ำ ทำอะไร ใครอยู่เบื้องหลัง ใครเดินเกมอย่างไร ใครเดินหมากอย่างไร ใครรับลูกอย่างไร ผมรู้หมดทุกอย่าง ทุกขั้นตอนแม้กระทั่งหน่วยงานของรัฐก็เกี่ยวข้อง เป้าเขาคืออะไร คือจริงๆนี่ ผมอาจจะตรงไป ตรงมาเกินไป แล้วผมไม่เคยยอมใคร และคดีแต่ละคดีเป็นคดีใหญ่ๆทั้งนั้น แล้วบางทีมันไปกระทบ และที่สำคัญที่สุด เรื่องนี้ที่เราคุยกันอยู่นี่ เป็นเรื่องของคดีค้ามนุษย์ คือ เอาคนจากฝั่งไม่ใช่คนไทยมาสวมบัตร เรื่องนี้มันมีคนอยู่ในราชการกับคนองค์กรหนึ่งเกี่ยวพันเยอะ เพราะฉนั้น ถ้าผมเอาได้ เจอได้ มันก็ตายทั้งฝูงแหละครับ.

                เรื่องหลักๆก็คือขบวนการค้ามนุษย์ มาฆ่าช้างผม ยิงช้างเอางา มาบุกรุกป่าเพื่อปลูกยาเสพติดอย่างนี้ ทำไม่ได้อยู่ แล้ว ผมมีหน้าที่ปกป้อง เรื่องนี้เป็นเรื่องแรก เป็นเรื่องหลัก แล้วต่อจากนั้นมามันก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับคนในราชการ คดีอื่นๆที่ผมไปทำมันเกี่ยวข้องกับคดีใหญ่ๆทั้งสิ้น ผมไม่มีปัญหาต่อกระบวนการยุติธรรมว่ากันตามนั้นก็สืบกันไปตามนั้น ผมมีโอกาสสู้สามศาล ผมก็จะสู้ เชื่อว่าหลักฐานผมที่มี กับหลักฐานที่เขาสร้างขึ้นมา ผมสู้ได้อยู่แล้ว. ต่อข้อซักถามว่า ทำไม จึงกลายเป็นเรื่องเอกสารหลุด ชัยวัฒน์ตอบว่า งานนี้มันเป็นเจตนาแล้วหละ เอาเอกสารมาเปิด มาเล่นในช่วงไทม์ไลน์อย่างนี้ ในช่วงที่ว่าศาลทุเลา ให้ผมกลับไปรับราชการ เอาตรงๆ คือ ถ้าชัยวัฒน์กลับไปทำงาน พวกเขาเดือดร้อน เอางี้แล้วกัน เพราะฉะนั้น มันมีทั้งคราบของชุดที่เป็นข้าราชการ ทั้งคราฟของชุดองค์กรภายนอก ถ้ามันทำรวมหัวกันได้ขนาดนี้แล้วก็ ทำได้ขนาดนี้ ผมก็ต้องสู้จนถึงที่สุดหละครับ มันคงไม่ได้หลุดหรอกนะ มันคงเอาออกมาแฉให้เต็มที่ มันต้องการที่จะเผยแพร่ออกไป ทำลายชื่อเสียงเรามากกว่า

 

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!