สระบุรี-ผู้จัดการร้านก๋วยเตี๋ยวในห้างดัง เตือนภัย มิจฉาชีพอ้างเป็นพนักงานเก็บเงิน

ภาพ/ข่าว:สมภพ พิมมะศร

               วันที่ 3 ส.ค.65. จากกรณีที่มีเพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ part 2 ได้แชร์คลิปภาพวีดีโอ พร้อมระบุข้อความว่า #เตือนภัยร้านค้า มิจฉาชีพแอบอ้างมาหลอกเก็บค่าภาษีป้าย โพสให้ดูเพื่อร้านค้าจะได้ระวังค่ะ วันนี้ประมาณ 1 ทุ่ม 52 นาทีมีมิจฉาชีพมาแจ้งแคชเชียที่ร้านว่า เจ้าของร้านให้มาเก็บค่าภาษีป้าย แล้วแกล้งทำเป็นคุยโทรศัพท์คุยกับเจ้าของร้าน จนเด็กที่ร้านหลงเชื่อ หยิบเงินให้ไป 17,400 บาท แล้วรีบวิ่งหนีออกไปจากร้าน ตอนนี้หากินก็ลำบากกันอยู่แล้วยังมาเจอพวกมิจฉาชีพ มาหลอกลวงกันทุกรูปแบบ ถ้าเห็นบุคคลในภาพให้แจ้งเบาะแสมาได้นะคะ ทางร้านทำการแจ้งความดำเนินคดี ไว้แล้ว เศร้าจังค่ะที่เจอเรื่องแบบนี้ในสถานการณ์แย่ๆแบบนี้ ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยัง ร้านก๋วยเตี๋ยวในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในจัดหวัดสระบุรี ต.ตลิ่งชัน อ.เมือง จ.สระบุรี ได้พบกับ น.ส. สุพิชญา นาระหัด อายุ24ปี (ผู้จัดการสาขาสระบุรี) ได้สอบถามรายละเอียดของคลิปกล้องวงจรปิด ที่มีการโพสแชร์ในเพจดังกล่าว

               โดย น.ส. สุพิชญา (ผู้จัดการสาขาสระบุรี) เล่าว่า สาขาที่เกิดเหตุอยู่ในห้างแห่งหนึ่งจ.สระบุรี เหตุเกิดวันที่ 29 กรกฎาคม 2565 เวลา 19.50 น. มีคนร้ายเข้ามาทำท่าทีคุยกับน้องพนักงานแคชเชียร์ ตอนนั้น น้องคิดตังอยู่ จึงไมได้สนใจ แล้วเขาก็เหมือนพยายามพูดคุยกับน้อง แต่ไม่รู้ว่าแสดงตัวตนเข้ามาเพราะ อะไร แต่เขาถามถึงเจ้าของร้านและผู้จัดการว่าอยู่มั้ย แล้วทำท่าทีคุยโทรศัพท์เอ่ยชื่อเจ้าของร้านมาทำให้น้องสับสน ซึ่งน้องก็คิดว่าเขาคุยกับเจ้าของร้านอยู่ พอเขาเดินเข้ามาก็ให้น้องจดรายละเอียดว่าให้เสียค่า อะไรบ้างจะมี ค่าหนังสือเล่มประกัน ค่าต่อพ.ร.บ. ค่าภาษีป้าย และน้องก็ไม่มีความรู้ด้านนี้เลย ซึ่งน้องก็ได้จดตามและคิดมาเป็นยอด 17,400 บาท น้องคิดว่าเขาคุยกับเจ้าของร้านแล้ว จึงได้ยื่นเงินให้โดยที่น้องลืมทักหาเจ้าของร้าน ลักษณะรูปร่างของคนร้าย เป็นผู้ชาย ร่างสูงใหญ่ ผิวคล้ำ การแต่งตัว สวมเสื้อเชิ้ตขอปกแขนยาว สวมกางเกงยีนส์ ซึ่งมองดูแล้วไม่น่าเชื่อถือ แต่ตนก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วยน้องเขาเล่าให้ฟังอีกที สูญเงินไปทั้งหมด 17,400 บาท พอทราบเรื่องแล้ว ตนรู้สึกตกใจเหมือนกันตอนที่ผู้จัดการเขตโทรมาหา ซึ่งมันเป็นวันหยุดของตนอยู่แล้ว และก็มีการโทรถามน้องภายในร้านด้วยว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ส่วนน้องที่เป็นพนักงานแคชเชียร์ ก็ไปเดินตามหาคนร้ายแล้วขอดูกล้องด้วยว่าเขาเดินออกไปทางไหน และมารู้ทีหลังว่ามีแค่การเขียนแต่ไม่มีการยื่นเอกสารใดๆให้ และน้องพนักงานได้ทักหาเจ้าของร้าน หลังจากที่คนร้ายได้ออกไปจากร้านแล้วสักพักหนึ่งถึงจะรู้ ซึ่งทางเจ้าของก็รีบโทรติดต่อทันที ตอนที่เขาอ้างมาน้องก็จำไม่ได้แต่ทำท่าทีคุยโทรศัพท์ โดยอ้างชื่อเจ้าของร้าน เลยทำให้น้องสับสน น้องถามว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง และคนร้ายได้บอกว่า จะนำเงินสดไปชำระให้ แล้วจะนำใบเสร็จมาคืนให้ที่ร้าน และเดี๋ยวเจ้าของร้านจะกลับมา โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฐานนะที่เป็นผู้ดูแลร้านคิดว่า น้องเขาอาจจะประมาทไปนิดนึง โดยที่ไม่โทรถามเจ้าของร้านหรือผู้จัดการก่อนว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง เพราะปกติแล้วเรื่องค่าใช้จ่ายภายในร้าน เจ้าของร้านจะจัดการเองทั้งหมด หรือถ้าจะนำเงินภายในร้านไปชำระสินค้าที่ต้องใช้ภายในร้าน ต้องมีการบอกในกลุ่มตลอด แต่น้องน่าจะประมาทเกินไปจึงทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นสุดท้ายนี้อยากจะฝากเตือนภัยว่า ขอให้มีสติหรือโทรแจ้งเจ้าของร้านก่อน เพื่อจะได้ทราบว่ามีค่าชำระอะไรมั้ย ให้สังเกตท่าทีเขาว่าเป็นบุคคลที่อ้างอิงมาจริงๆหรือเปล่า และตอนนี้ก็ได้แจ้งความไว้เรียบร้อยแล้ว //