นนทบุรี-พลเมืองดีช่วยยายใกล้เป็นลมกลับมาอีกทีเหลือแต่หมวกรองเท้าจมน้ำเสียชีวิต

ภาพ/ข่าว:สุรสิทธิ์ สินประเสริฐ 

พลเมืองดีช่วยยายใกล้เป็นลมกลับมาอีกทีเหลือแต่หมวกรองเท้าจมน้ำเสียชีวิต

             เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 3 ส.ค.65 พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง รับแจ้งเหตุหญิงตกน้ำเสียชีวิต ภายในซอยจันทร์ทองเอี่ยม ตำบลบางรักพัฒนาอำเภอบางบัวทองจังหวัดนนทบุรี จึงพร้อมด้วยแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์มูลนิธิปอเต็กตึ้งรีบรุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุพบเป็นคลองส่งน้ำขนาดกลาง เจ้าหน้าที่นักประดาน้ำจากมูลนิธิร่วมกตัญญูใช้เวลาในการค้นหาอยู่นานกว่าครึ่งชั่วโมง พบร่างของนางส้มจีน อินทร์ศิริ อายุ 80 ปี เจ้าหน้าที่นำขึ้นมาจากน้ำในตัวไม่พบร่องรอยถูกทำร้ายสอบถามนายมงคล อินศิริอายุ 57 ปี (เสื้อสีฟ้า) ซึ่งเป็นลูกชายเปิดเผยว่าก่อนเกิดเหตุตนเองได้ออกไปซื้อแก๊สเพื่อมาหุงต้มภายใน ทราบเพียงแต่ว่าแม่ไปอนามัยหาหมอซึ่งทุกครั้งตนจะเป็นคนพาไปแต่วันนี้แม่คงเห็นตนไม่อยู่เลยเดินออกไปอนามัยใกล้บ้านเอง มาทราบอีกทีรับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่าแม่จมน้ำเสียชีวิตแล้ว ก็รู้สึกเสียใจไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ขณะที่นาย ประดิษฐ หลุบเลา อายุ 47 พ่อค้าก๋วยเตี๋ยว (เสื้อสีขาว) พลเมืองดี กล่าวว่าตนเองขับรถผ่านบริเวณจุดเกิดเหตุทุกวัน วันนี้เห็นผู้ตาย เดินทำท่าเหมือนไม่มีแรงก่อนจะล้มลง ตนรีบลงจากรถไปช่วยเหลือคุณยายพร้อมชาวบ้านอีกหลายคน แต่ยายบอกว่าจะไปอนามัยและเบิกเงินเบี้ยชรา บ้านยายอยู่แค่นี้เองไม่เป็นอะไรมาก ตนเลยขับรถไป พอขากลับมาเห็นแค่ไม้เท้า หมวกกับรองเท้ายายอยู่ในคลอง ส่วนยายไม่เห็นเมื่อไปถามที่บ้านเขาบอกยายยังไม่กลับ เลยเอะใจว่าคงเกิดเหตุร้าย ยายคงพลัดตกน้ำแน่ เลยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจนกระทั่งช่วบ้านมาช่วยกันงมหาร่างก็พบว่ายายเสียชีวิตอยู่ในคลองแล้ว “รู้แบบนี้ ตอนนั้นตนพายายส่งกลับบ้านเสียก็ดี คงไม่มีเหตุการณ์สลดใจแบบนี้เกิดขึ้น”
สอบถามเจ้าหน้าที่กู้ภัย กล่าวว่าได้รับแจ้งมีคนสูญหายภายในน้ำ พบว่ายายจมน้ำติดกิ่งไม้อยู่ใต้สะพาน เห็นเสื้อลอยอยู่ รีบลงไปพบร่างยายเสียชีวิตแล้ว ตรวจสอบบริเวณขอบปูน ด้านบนพบไม้เท้าส่วนรองเท้าลอยอยู่ในน้ำ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า หลังพลเมืองดีและชาวบ้านช่วยกันปฐมพยาบาลจนอาการดีขึ้น ผู้ตายคง พยายามจะเดินไปอนามัยและเบิกเบี้ยยังชีพ แต่เกิดเป็นลมและเสียหลักพลัดตกลงไปในคลองจมน้ำเสียชีวิตอย่างน่าอนาถ จึงได้มอบศพให้มูลนิธินำส่งสถาบันนิติเวชเพื่อชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งก่อนมอบให้ญาติรับไปดำเนินการตามประเพณีต่อไป