นนทบุรี-วงจรปิด ผวา เจ้าของร้านแก๊สกับลูกสาววัย 4 ขวบถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถปาดหน้าไล่ชน

นนทบุรี-วงจรปิด ผวา เจ้าของร้านแก๊สกับลูกสาววัย 4 ขวบถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถปาดหน้าไล่ชน

ภาพ/ข่าว:สุรสิทธิ์ สินประเสริฐ 

                   วงจรปิด ผวา เจ้าของร้านแก๊สกับลูกสาววัย 4 ขวบถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถปาดหน้าไล่ชน

            เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 28 ก.ค .65 ที่ชมรมทนายความจิตอาสา ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี นายสุริยา ศักดารัตน์ อายุ 55 ปี เจ้าของร้าน ” Dแก๊สด่วน ” นำหลักฐานกล้องวงจรปิด เดินทางเข้าขอความช่วยเหลือ และขอความเป็นธรรมกับนายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือทนายโป้ง ประธานชมรมทนายความจิตอาสา หลังถูกคนขับรถยี่ห้อ Toyota รุ่นTiger สีบรอนด์ ตู้ทึบ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ซึ่งเป็นรถรับจ้างติดตั้งและล้างแอร์ขับรถปาดหน้าและพยายามจะไล่ชน มาตลอดทางจนถึงหน้าบ้านในซอยประเสริฐอิสลาม และมีชายฉกรรจ์ 2 คนลงมาจากรถ เพื่อจะมาทำร้าย โดยมีคนขับนั่งรออยู่ในรถคันดังกล่าว หลังเดินทางเข้าแจ้งความที่สภ.ปากเกร็ดได้โทรไปสอบถามความคืบหน้ากับพนักงานสอบสวนซึ่งเป็นเจ้าของคดีแต่ถูกตอบกลับมาว่าง่วงนอนเอาผิดคู่กรณีไม่ได้ ลูกคุณเจ็บก็รักษาไป รถพังก็ซ่อมไป จะส่งคลิปวงจรปิดให้ดูกับถูกปฎิเสธว่าไม่ดู ทำให้รู้สึกว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงอยากให้ทนายโป้งช่วยติดตามความคืบหน้าเรื่องคดี เหตุเกิดวันที่ 15 ก.ค.เวลาประมาณ13.00 น.

             นายสุริยา ( ผู้เสียหาย) กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนจะขับรถมาโดยมีลูกสาววัย 4ขวบนั่งมาด้วยกำลังจะไปอัดแก๊สผ่านแยกสหกรณ์ 3 มีรถกะบะตู้ทึบขับรถมาปาดหน้า ตนเลยปาดหน้าคืน เขาไม่พอใจขับรถตามมาชนรถในอุโมงค์ห้าแยกปากเกร็ด แล้วเขาเปิดกระจกรถด้านข้าง ตนเลยบอกว่าให้ตามมาที่บ้านแล้วกันเขาไล่บี้ขับชนตนมาตลอดทาง พอมาถึงใกล้หน้าบ้านของตนรถเกิดเสียหลักไปชนรถฟอร์ด 4 ประตูทำให้หน้ารถของตนกับรถฟอร์ดพังเสียหาย ตนต้องขับหนีตายทั้งที่รถพังยับทางคู่กรณียังไม่หยุดขับตามมาจนถึงหน้าบ้าน แล้วเปิดประตูรถลงมา 2 คนวิ่งจะมาทำร้าย ตนเลยบอกกับลูกว่าให้เอาปืนมา ลูกชายของตนเอาปืนมาให้เขาเห็นปืนเลยรีบกระโดหนีขึ้นรถขับหนีไป หลังจากนั้นตนเลยไปแจ้งความ ที่สภ.ปากเกร็ด และขอลงประจำวันเพื่อจะขอดูกล้องวงจรปิด หลังจากได้กล้องแล้ว ตนได้โทรไปหาคู่กรณีเขาบอกกับตนว่าขอโทษ เขาขอเลขบัญชีจะโอนเงินมาให้ ตนเลยบอกไม่เอามาคุยกันที่โรงพักจะได้ตกลงกันให้รู้เรื่อง พอถึงวันที่ 18 ก.ค.นัดเจออีกครั้งเวลา 14.00 น. แต่ทางเขาเข้าไปแจ้งความตอน 13.00 น. ตนเลยไม่คุยด้วยจากนั้นก็แยกย้ายกัน พอถึงวันที่ 20 ก.ค ตนได้โทรศัพท์ไปหาผู้กอง เขาบอกว่าเป็นเจ้าของคดี เลยบอกว่ารถชนเสียหายเยอะเลย ผู้กองบอกว่าเอาผิดไม่ได้หรอก รถมันวิ่งมาตามปกติของมัน เลยบอกว่าโดนไล่ทำร้าย ผู้กองบอกว่าคุณคิดไปเอง คุณชนเขาคุณก็ซ่อมเขาไป ลูกคุณเจ็บก็รักษาไป ทางผู้กองถามตนว่าคุยจบหรือยัง เขาบอกว่าง่วงนอน จะนอนแล้ว ตนเลยรีบวางสายแบบงงๆ วันนี้มาหาทนายโป้งจะร้องเรียนเรื่องคดีของตน อยากให้ทนายช่วยประสานงานร้อยเวรช่วยเรียกคู่กรณี มารับผิดชอบเพราะรถของตนเสียหายมาก วันนี้ได้นำกล้องวงจรปิดวันที่เกิดเหตุ ที่คู่กรณีไล่ตามตนแล้วจะวิ่งมาทำร้ายมาให้กับทางทนายโป้งดู ตอนนี้ลูกของต้นขวัญเสียไม่กล้านั่งรถวันนั้นลูกของตนไว 4 ขวบนั่งรถไปด้วยจังหวะที่ตนเบรครถหัวไปกระแทก กับ Scooter ตอนนี้ลูกไม่กล้าขึ้นรถไปกับตน อยากฝากถึงคู่กรณี ว่าให้มาคุยกันหรือมาดูแลตน วันนั้นเสนอเงินมาให้ตนแล้วแต่ตนไม่รับ ลูกตนก็เจ็บถ้าเป็นลูกคุณบ้างจะรู้สึกยังไง

              ทางด้านทนายโป้ง กล่าวว่า จากที่ดูพยานหลักฐานและรับฟังข้อเท็จจริงกับผู้ร้องเรียน ตนคิดว่าเรื่องนี้เป็นการสื่อสารคาดเคลื่อนระหว่าง พนักงานสอบสวนกับตัวผู้เสียหาย ทางด้านผู้เสียหายเข้าใจว่าไปลงบันทึกประจำวันเพื่อจะขอดูกล้องวงจรปิดคือการแจ้งความแล้ว แต่กลายเป็นว่าคู่กรณีมาแจ้งความดำเนินคดีกับผู้เสียหายอีก แต่ทางพนักงานสอบสวนก็รับทราบแล้วว่าคดีนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนของสภ.ปากเกร็ด ซึ่งทางผู้เสียหายก็ไม่เข้าใจว่าพนักงานสอบสวนบอกว่าง่วงนอน แทนที่จะบอกสิทธิ์ของผู้เสียหายว่าจะเป็นผู้เสียหายหรือคู่กรณี ในส่วนของตนก็จะพาผู้เสียหายไปติดตามเรื่องนี้ที่สภ.ปากเกร็ด และไปพบพนักงานสอบสวนว่าใครเป็นผู้กระทำความผิดและใครเป็นผู้เสียหาย ซึ่งทางผู้เสียหายนำหลักฐานจากกล้องวงจรปิดมาให้ตนตรวจสอบ สุดท้ายอยากฝากเตือนสติผู้ขับขี่บนถนนให้มีน้ำใจบนท้องถนนใจเย็นๆ มีสติ ให้อภัย ให้ทาง เคารพกฎจราจรแล้วจะทำให้ไม่เกิดอุบัติเหตุหรือเรื่องเข้าใจผิดร้ายแรงนำไปสู่การทำร้ายร่างกายกันเกิดขึ้น

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!