สตูล-นาวี เสนอโครงการยักษ์ เส้นทาง สตูล-มาเลย์ – เมดาน พลิกฟื้น โครงการ 3 เหลี่ยมเศรษฐกิจ

ภาพ/ข่าว:ชิดชนก  พุดทอง

                   นาวี เสนอโครงการยักษ์ เส้นทาง สตูล-มาเลย์ – เมดาน พลิกฟื้น โครงการ 3 เหลี่ยมเศรษฐกิจ ในพื้นที่สตูล กลับมา

                      นายนาวี พรหมทรัพย์ ตัวแทนพี่น้องประชาชนคนสตูล กล่าวว่า ตนเองมองเศรษฐกิจในพื้นที่ จ.สตูล นับวัน จะเงียบสงบลงทุกวัน เพราะสตูลเป็นจังหวัดสุดท้ายของภาคใต้ฝั่งอันดามัน และเป็นจังหวัดที่ มีชัยภูมิ ติดกับประเทศมาเลเซีย ที่สามารถเดินทางเพียงไม่กี่นาทีก็จะถึงมาเลเซีย และเป็นจังหวัดที่ สามารถเดินทางไปยังเมดานประเทศอินโดนีเซีย โดยใช้ระยะทางในการเดินทางไม่กี่ชั่วโมงก็จะถึง ดังนั้น ตนเองคิดว่า เราน่าที่จะ เปิดเมืองสตูล ได้แล้ว โดย การทำโครงงการเชื่อม สตูล –มาเลย์ – เมดาน หรือ สตูล – เมดาน โดยใช้เส้นทางทางเรือ ในการเดินทาง ซึ่งแต่เดิมนั้น สตูล เป็นเมือง 3 เหลี่ยมเศรษฐกิจ ที่มีการเชื่อมโยงทางด้านการค้า ระหว่าง สตูล –มาเลย์ –เมนดาน ซึ่งเป็น การเชื่อโยงของ 3 เหลี่ยมเศรษฐกิจ แต่เนื่องจาก สตูล ไม่มีท่าเรือที่ทันสมัยไม่สะดวกในการคมนาคมทำให้ ผู้ประกอบการการค้าจำเป็นต้องย้ายฐานการขนส่งไปใช้ ท่ายังพื้นที่อื่น ทำให้ โครงการ 3 เหลี่ยมเศรษฐกิจ ซบเซาลง ดังนั้นตนเองคิดว่า ถึงเวลาแล้วที่ เราจะต้องเปิดเมืองสตูล ทางฝั่งทะเล โดยตนเองได้เสนอโครงการท่าเรือ ขนส่ง ต่อผู้ว่าฯสตูล นายเอกรัฐ หลีเส็น เพื่อร่วมกันผลักดันโครงการท่าเรือขนส่งให้เกิดขึ้นในพื้นที่จ.สตูล
                     นายนาวี พรหมทรัพย์ กล่าวต่อไปวา ท่าเรือที่ตนเองเสนอนั้น จะมีให้เลือก 2 แห่ง คือ ท่าเรือท่องเที่ยวตำมะลัง ต.ตำมะลัง อ.เมือง จ.สตูล และที่ บ้านบากันโต๊ะทิต อ.ละงู จ.สตูล ซึ่งทั้ง 2 แห่งนั้นมีชัยภูมิ ที่เหมาะสมในการสร้างท่าเรือ แต่ จะมีปัญหา ในเรื่องของ ล่องน้ำ ซึ่งท่าเรือ ตำมะลังนั้น จะมีล่องน้ำ ที่ลึกไม่มากพอที่เรือขนาดใหญ่จะเข้ามาได้ ส่วนท่าเรือบ้านบากันโต๊ะทิตนั้น จะมีล่องน้ำที่ลึกและมีความกว้างถึง 500 เมตร มี 3 แยกสามารถกลับลำเรือ ถึง 300 เมตร และมีเกาะแก่งกำบังคลื่นลมได้อย่างดี ไม่ต้องกลัวคลื่นสึนามิ โอกาสเสี่ยงที่จะเจอคลื่นใหญ่น้อยมาก ถ้าเรามีความพร้อมในการก่อสร้าง เพราะ ทาง อินโดนีเซียมีทรัพยากร ที่มาก และมีความพร้อมที่จะสามารถแลกเปลี่ยนกันได้ หากเราเปิดเส้นทางนี้ ได้ก็จะกลายเป็น 3 เหลี่ยมเศรษฐกิจ และอีกประเด็นคือสตูล ก็ไม่มีท่าเรือสำหรับจอดเรือยอร์ช ของนักท่องเที่ยวที่นำเรือยอร์ชเข้ามาเที่ยวได้ ดังนั้น เราคนสตูลต้อง ตื่น เพื่อ เชื่อมการค้าระหว่างประเทศให้ได้หรือเป็นการเปิดเมือง และ ในขณะเดียวกัน คนอินโด ก็อยากจะมาเที่ยว โดยเฉพาะพี่น้องมุสลิม ก็อยากจะมาเที่ยวอย่างเมืองพี่เมืองน้อง
                 ประเด็นสำคัญของท่าเรือแห่งนี้ คือ เรือขนาดใหญ่สามารถ วิ่งเข้ามาได้ โดยการเดินทาง จากสตูล –ลังกาวี นั้นห่างกัน 20 ไมล์ทะเล ส่วน สตูล – เมดานห์นั้น ห่างกัน 154 ไมล์ทะเล ใช้ระยะทางในการเดินเรือ 6 ชั่วโมง ซึ่งถือว่า ระยะเวลาในการขนส่งสินค้านั้น ใช้เวลา ไม่นานมาก หากเปรียบเทียบกับ การวิ่งเรือจากจังหวัดอืน และสิ่งที่จะมาควบคู่กับการสร้างท่าเรือ นั้น คือการสร้าง ท่าเรือมาลีน่ายอร์ชคลัพ ซึ่งเป็นท่าเรือที่ใช้สำหรับจอดเรือยอร์ช ของนักท่องเที่ยว ที่นำเรือยอร์ชล่องเข้ามาเที่ยว ยังพื้นที่ จ.สตูล แต่สุดท้ายโครงการจะเกิดหรือไม่นั้น อยู่ที่เม็ดเงิน

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/