สุพรรณบุรี-สาวเผาถ่านถูกฆ่าโหดทุบหัวแบะ
ภาพ/ข่าว:มงคล สว่างศรี
สาวเผาถ่านถูกฆ่าโหดทุบหัวแบะ ตำรวจสงสัยสามีเป็นฆาตกร
ที่ จ.สุพรรณบุรี ร.ต.อ.ศักดิ์นคร ภาชนะพูล รองสารวัตรสอบสวน สภ.สระแก้ว จ.สุพรรณบุรี รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายที่กลางทุ่งนาบ้านหนองปรือ หมู่ 7 ต.สระแก้ว จึงไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.วิสาขะ เพ็ชรเกษม ผกก. พ.ต.ท.ประกิจ สงสวาสดิ์ สว.สส. ร.ต.อ.พรหมลิขิต อุ่นจันที รอง สว.สส.กำลังฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์ รพ.ศูนย์เจ้าพระยายมราช และสมาคมเณรแก้วกู้ภัยทางหลวง
ที่เกิดเหตุเป็นที่เผาถ่านพบผู้เสียชีวิตเป็นหญิงทราบชื่อนางอัมพร รพทองคำ อายุ 50 ปี บ้านอยู่ ต.แม่กระบุง อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี นอนหงายเสียชีวิตอยู่ข้างต้นมะขามกลางทุ่งนา สภาพสวมเสื้อยืดสีน้ำตาลแขนสั้นนุ่งกางเกงขาสั้นสีขาวลายมี นายสมนึก กอราพันธ์ อายุ 57 ปี บ้านอยู่ ต.สระแก้ว อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี สภาพนุ่งกางเกงขาสั้นสีดำเนื้อตัวเปื้อนเถ้าถ่านนั่งกอดศพร้องให้พร่ำเพ้อ เจ้าหน้าที่จึงนำเชือกมากั้นเพื่อกันพื้นที่ป้องกันผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาเหยียบย่ำทำลายหลักฐาน
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบมีกระสอบบรรจุถ่านตั้งเรียงกันอยู่จำนวน 13 กระสอบ นอกจากนี้ยังพบกระบอกไม้ไผ่ขนาดใหญ่ 1 ท่อน ยาวประมาณ 50 เซนติเมตร เศษท่อนไม้ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 นิ้วสภาพแตกหัก กาละมังพลาสติกสีดำ กระติกน้ำ กาละมังสีฟ้า ภายในมีเนื้อหมูสามชั้นย่างอยู่ 3 ชิ้น พร้อมคีมคีบน้ำแข็ง ไขควง ไฟฉายส่องกบ รองเท้าแตะ เสื้อยืดแขนยาวสีดำ ซึ่งหลักฐานทุกอย่างล้วนเปื้อนเลือด เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานตรวจสอบสภาพศพ พบที่หน้าผาก กลางศีรษะและท้ายทอย ถูกตีด้วยของแข็งเป็นแผลขนาดใหญ่ลึกถึงกะโหลกที่หลังมือขวามีแผลถูกของมีคมยาวประมาณ 2 เซนติเมตรที่ขาซ้ายมีผมของผู้ตายหลุดติดเป็นกระจุก เจ้าหน้าที่จึงหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุทั้งหมดไว้เป็นของกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบหาหลักฐาน
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายสมนึก ไปสงบสติอารมณ์และสอบสวนที่โรงพัก จากการสอบสวนนายสมนึก ให้การว่า ตนอยู่กินกับผู้เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 14 ปี มีลูกสาวด้วยกัน 1 คน อายุ 13 ปี ต่อมาตนถูกจับติดคุกหลายคดี ประกอบด้วย ปืนเถื่อน 2 ครั้ง คดีร่วมกันโจรกรรมรถยนต์ คดีครอบครองยาเสพติด และคดีฆ่าผู้อื่น ซึ่งคดีฆ่าผู้อื่นศาลยกฟ้อง ขณะที่ตนถูกจองจำ ภรรยาก็ไปมีชายอื่น กระทั่งตนพื้นโทษจึงกลับมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เนื่องจากตนไม่ถือ โดยก่อนหน้าที่ได้ผู้ตายเป็นภรรยา ตนก็เคยมีภรรยาที่อยู่กันฉันผัวเมียมาแล้ว 3 คน ส่วนที่ไม่แสดงตัวอีกกว่า 5 คน หลังจากกลับมาอยู่ด้วยกันตนก็ได้ผู้ตายช่วยเผาถ่านหาเลี้ยงครอบครัว อยู่กันแบบสุขบ้างทุกข์บ้างเนื่องจากมีปากเสียงทะเลาะกันตามประสาผัวเมีย
กระทั่งก่อนเกิดเหตุภรรยาตนได้กลับมาจากบ้าน ที่ จ.กาญจนบุรี ได้ประมาณ 1 เดือนแล้ว เกิดอาการเครียดกินยาเบื่อหนูฆ่าตัวตาย ตนพยายามช่วยชีวิตด้วยการกรอกไข่ไก่ใส่ปากภรรยาเพื่อให้อาเจียนเอายาพิษออก ก่อนนำส่งโรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช เพิ่งออกจากโรงพยาบาลช่วงบ่ายของวันที่ 22 พ.ค.ตนได้บนเจ้าที่ที่ตนเผาถ่านเอาไว้ว่า ถ้าภรรยารอดชีวิตกลับมาจะซื้อเนื้อหมูมาย่างกินกันบริเวณที่เผาถ่านและเมื่อภรรยาปลอดภัยออกจากโรงพยาบาล จึงได้ซื้อเนื้อหมูมาย่างแล้วนั่งกินกัน 2คน พร้อมเหล้าดองยามาแกล้ม 1 ขวด แต่ก่อนที่จะย่างหมูกินกันช่วงเช้าตนได้เสพยาบ้าไปก่อน 2 เม็ด หลังจากภรรยาออกจากโรงพยาบาลตนก็เสพยาบ้ากันต่ออีกคนละครึ่งเม็ด จากนั้นจึงตั้งวงกินหมูย่างกับเหล้าดองยากระทั่งดึก ขณะที่ตนและภรรยานั่งกินหมูย่างแกล้มเหล้าดองยากันอย่างมีความสุขอยู่นั้น ได้มีคนร้ายเป็นชาย 3 คนเข้ามารุมทำร้ายโดยใช้ท่อนไม้กระหน่ำตีภรรยาของตนแบบไม่ยั้ง ตนพยายามดึงร่างของภรรยามากอดไว้ แต่คนร้ายไม่ยอมหยุดยังคงกระหน่ำตีจนภรรยาตนเสียชีวิต คนร้ายจึงพากันหลบหนีไป ตนพยายามร้องตะโกนขอความช่วยจากชาวบ้านละแวกใกล้เคียงแต่ไม่มีใครได้ยิน
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อคำให้การของนายสมนึก เนื่องจากเชื่อว่านายสมนึก เป็นผู้ที่น่าสงสัยว่าจะเป็นฆาตกร เนื่องจากประวัติของนายสมนึก เคยถูกจับติดคุกในคดีต่างๆมาแล้วอย่างโชกโชน ประกอบกับก่อนเกิดเหตุได้เสพยาบ้าเข้าไปถึง 2 เม็ดครึ่ง อาจทำให้นายสมนึกเกิดอาการหลอนคิดว่าภรรยาจะทำร้ายตัวเองจึงใช้ท่อนไม้ไผ่ขนาดใหญ่กระหน่ำตีภรรยาตัวเองจนเสียชีวิต อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้ส่งศพไปตรวจพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงและรอให้นายสมนึกหมดฤทธิ์ยาบ้าก่อน จึงจะสอบสวนเพิ่มเติมอีกครั้งเพื่อหาตัวฆาตกรมาดำเนินคดีต่อไป
สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/