ราชบุรี-ยื่นหนังสือผวจ.ราชบุรี เคลียร์น้ำเสียอย่างเร่งด่วน

ราชบุรี-ยื่นหนังสือผวจ.ราชบุรี เคลียร์น้ำเสียอย่างเร่งด่วน

ภาพ/ข่าว:สุจินต์ นฤภัย(เต้)

                ตัวแทนกลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์น้ำ จ.สมุทรสงคราม และจ.เพชรบุรี เข้ายื่นหนังสือถึงผวจ.ราชบุรี เรียกร้องให้แก้ปัญหาน้ำเน่าเสียที่ไหลลงคลองสาธารณะ สะสมมานานกว่า 10 ปี จนชาวบ้านหลายพันครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน เสียหายหลายหมื่นล้านบาทต่อปี เสนอแก้ปัญหาไม่ได้ให้ปิด 3 คลองต้นเหตุ

               เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 18 มิ.ย.63 นายอาคม จันทรางกุล กรรมการลุ่มน้ำแม่กลอง จ.สมุทรสงคราม พร้อมนายปัญญา โตกทอง รองประธานกลุ่มผู้ใช้น้ำชลประทานรวมใจพัฒนาเมืองสามน้ำแพรกหนามแดง และนายคัมภีร์ ทองเปลว ตัวแทนเกษตรกรผู้เพาะปลูกมะพร้าว จ.สมุทรสงคราม และตัวแทนชาวบ้านที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำใน จ.สมุทรสงคราม และเพชรบุรี กว่า 50 คน ได้เดินทางมารวมตัวกันที่บริเวณหน้าศาลากลาง จ.ราชบุรี เพื่อยื่นหนังสือถึงนายชยาวุธ จันทร ผวจ.ราชบุรี เรียกร้องให้แก้ปัญหาน้ำเน่าเสียที่ไหลลงสู่คลองสาธารณะ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี สู่ลำคลองสาขา จ.สมุทรสงคราม และเพชรบุรี จนสร้างความเสียหายให้แก่ประชาชนและผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอย่างหนัก โดยทาง ผวจ.ราชบุรี ได้มอบหมายให้ น.ส.ประภารัตน์ นาคผจญ ผอ.กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดราชบุรี เป็นตัวแทนรับหนังสือ เบื้องต้น จะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เพื่อเข้าแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน
               นายปัญญา โตกทอง รองประธานกลุ่มผู้ใช้น้ำชลประทานรวมใจพัฒนาเมืองสามน้ำแพรกหนามแดง กล่าวว่า เนื่องจาก จ.ราชบุรี เป็นพื้นที่ต้นน้ำที่มีผู้ประกอบการจากหลายอาชีพและชุมชนเมือง รวมถึงอุตสาหกรรม การเพาะเลี้ยงสัตว์สุกรทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่เป็นจำนวนมาก และในช่วงเข้าสู่ฤดูฝนน้ำของทุกปี น้ำฝนจะพัดเอาของเสียต่างๆ รวมทั้งน้ำมูลสุกรไหลลงลำคลองห้วยโรง คลองวันดาว และคลองปากท่อ ตลอดจนคลองอื่นๆ จึงทำให้น้ำในลำคลองต่างๆเกิดการเน่าเสียไหลลงมารวมกันที่คลองวัดประดู่ เขตอ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม และยังไหลออกลำน้ำสาขาต่างๆ ที่แยกออกจากคลองวัดประดู่ จึงทำให้ประชาชนที่อยู่ริมคลองและผู้ใช้น้ำ ตลอดจนเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาสลิด ในพื้นที่ ต.แพรกหนามแดง และพื้นที่ใกล้เคียง ได้รับความเดือนร้อนเป็นอย่างมาก ถึงขั้นก่อให้เกิดปัญหาสัตว์น้ำตายเป็นจำนวนมาก และเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ปู ปลา ทำนา ทำสวน ได้รับความเดือดร้อน ไม่สามารถใช้น้ำเพื่อทำการประกอบอาชีพได้
                 นายปัญญา โตกทอง กล่าวอีกว่า นอกจากนี้น้ำเน่าเสียยังไหลออกสู่แม่น้ำ ไปถึงทะเล ทำให้เกิดผลกระทบกับชาวบ้าน ผู้ประกอบอาชีพกลุ่มผู้เลี้ยงปลากระชัง ผู้เพาะเลี้ยงชาวประมงพื้นบ้าน ผู้เลี้ยงหอยแครง หอยแมลงภู่ หอยนางรม หอยกระปุก รวมถึงทรัพยากร ทางทะเลเสียหายทั้งจ.สมุทรสงคราม และเพชรบุรี รวมมูลค่าหลายหมื่นล้านบาทต่อปี หลายพันครัวเรือน ซึ่งเป็นพื้นที่ปลายน้ำที่เสียหายสะสมเพิ่มขึ้นในทุกๆปี เป็นการสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติอย่างรุนแรงทั้งระบบจนต้องเร่งรีบฟื้นฟู ดังนั้นเครือข่ายผู้ใช้น้ำรวมถึงผู้เดือดร้อน จึงอยากให้ ผวจ.ราชบุรี ในฐานะประธานคณะกรรมการลุ่มน้ำแม่กลอง เร่งเข้ามาดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสียทั้งหมดตามที่กล่าวมาข้างต้นนี้ โดยเสนอให้เร่งดำเนินการแก้ปัญหาดังนี้ 1.ตรวจสอบฟาร์มสุกรไม่ให้ปล่อยน้ำมูลสุกรเน่าเสีย 2.ทำการบำบัดน้ำเน่าเสียในลำคลองต่างๆ รวมทั้งคลองวัดประดู่ด้วยจุลินทรีย์ 3.ให้ติดตั้งเครื่องตีน้ำเติมอากาศเพื่อการบำบัดน้ำเน่าเสียที่เกิดขึ้นทุกลำคลอง และ 4.ขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษร
             ด้านนายคัมภีร์ ทองเปลว ตัวแทนเกษตรกรผู้เพาะปลูกมะพร้าว จ.สมุทรสงคราม กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นสะสมมากว่า 10 ปีแล้ว ที่ผ่านมาผู้ได้รับความเดือดร้อนและเสียหายอย่างมากคือ ชาวบ้าน ชาวสวน และผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ในพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม และเพชรบุรี เนื่องจากอยู่ปลายน้ำ ที่ผ่านมาทาง จ.ราชบุรี สมุทรสงคราม และเพชรบุรี ได้มีการลงนาม MOU 3 จังหวัด ในแก้ไขปัญหาดังกล่าว แต่จากการตรวจสอบแล้ว ปัญหาที่เกิดขึ้นต้นเหตุเกิดจากน้ำที่พัดมาจาก คลองห้วยโรง คลองวันดาว และคลองปากท่อ จ.ราชบุรี ซึ่งทาง ผวจ.สมุทรสงคราม ได้ดำเนินการแก้ปัญหาอย่างเต็มที่แล้ว จึงอยากให้ทาง จ.ราชบุรี เร่งดำเนินแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน เพราะชาวบ้าน ชาวสวน และผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ จ.สมุทรสงคราม และเพชรบุรี จะอยู่กันไม่ได้แล้ว
                 “ทุกวันนี้ชาวบ้านเขาได้รับความเดือดร้อนกันอย่างมาก ถ้าทาง จ.ราชบุรี ไม่สามารถแก้ปัญหาให้กับชาวบ้านที่อยู่ปลายน้ำได้ ชาวบ้านอาจร่วมตัวกันปิดคลองสาธารณะทั้ง 3 คลอง ที่ก่อปัญหาสร้างความเดือดร้อนมาตลอด ให้กับชาวบ้านก็เป็นได้ ซึ่งชาวบ้านอยากเสนอให้ทาง จ.ราชบุรี หากแก้ปัญหาไม่ได้ ให้ปิดคลองห้วยโรง คลองวันดาว และคลองปากท่อ เพื่อไม่ให้น้ำเสียไหลไปสู่ จ.สมุทรสงคราม และเพชรบุรี” นายคัมภีร์ ทองเปลว กล่าวปิดท้าย

สามารถติดตามข่าวสารอื่นๆได้ก่อนใครที่ https://www.siameagle.com
หรือ https://www.facebook.com/siameaglenews/

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!