สุพรรณบุรี-จัดการแข่งกีฬาโยนบอลผ้าขาวม้า อบต.โคกโคเฒ่า

ภาพ-ข่าว:มงคล สว่างศรี/นพดล แก้วเรือง

            กีฬาพื้นบ้านแบบแหวกแนว เน้นความสามัคคี ของผู้เล่นตึงไปก็ไม่ดีหย่อนไปก็ส่งต่อไม่ได้ “กีฬาโยนบอลผ้าขาวม้า” เป็นกีฬาที่ต้องใช้ความสามัคคี ร่วมกันทั้งทีม เพื่องส่งบอลไปใส่ตะกร้าหัวแถว ทีมไหนใส่บอลได้เยอะกว่าทีมนั้นเป็นผู้ชนะ
            การแข่งขันกีฬาประจำตำบล ประจำปี 2568 ที่สนามกีฬาโรงเรียนวัดโคกโคเฒ่า หมู่ที่ 1 ตำบลโคกโคเฒ่า อำเภอเมือง จ.สุพรรณบุรี นายนิทัศน์ ขำคง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโคกโคเฒ่า จัดงานแข่งขันกีฬาประจำตำบลโคกโคเฒ่า ประจำปี 2568 โดยมี ดร.สรชัด สุจิตต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสุพรรณบุรี เขต 1 เป็นประธานเปิดงานในครั้งนี้ โดยมีผู้นำชุมชนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกสภา อบต.โคกโคเฒ่า และประชาชน เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้
            โดยบรรยากาศการแข่งขันกีฬาแต่ละประเภทเป็นไปอย่างสนุกสนานไม่ว่าเป็นฟุตบอลหรือกีฬาโยนลูกบอลผ้าขาวม้า แต่ที่เป็นไฮไลท์ คือการแข่งขันกีฬาโยนลูกบอลผ้าขาวม้า ซึ่งผู้เล่นแต่ละทีมต้องส่งตัวแทนหมู่บ้านฝั่งละ 10 คน ยืนเป็นคู่ต้องใช้ผ้าขาวม้าคอยรับลูกบอลส่งต่อไปให้เพื่อนไม่ให้ลูกบอลตกพื้นจนกว่าจะโยนลูกบอลใส่ตะกร้าได้ ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความสนุกสนาน
            แต่ที่สุดแปลกตานอกจากลูกฟุตบอลแล้ว เหมือนจะมีแตงโมโยนมาให้ผู้เล่นด้วยงานนี้ผู้เล่นต้องมีกำลัง และสมาธิเพื่อรับลูกแตงโมไม่ให้ลูกแตงโมตกแตก แต่ก็อย่างว่าลูกแตงโมมาแบบไม่ทันตั้งตัวมีน้ำหนักมากกว่าลูกบอล ก็ทำให้โยนยากขึ้นและหล่นแตกกระจายเต็มพื้นไปหลายลูก เรียกเสียงหัวเราะ สร้างความสนุกสานทั้งผู้เล่นและกองเชียร์ งานนี้ทีมที่ชนะได้รางวัลเป็นสปอนเซอร์ 1 ลัง ส่วนทีมแพ้ได้แตงโมไปกิน
           สำหรับการแข่งขันกีฬาประจำตำบลโคกโคเฒ่า มีเงินรางวัลให้กับผู้ที่ชนะเลิศทั้งฟุตบอล และกีฬาโยนผ้าขาวม้า ซึ่งกีฬาฟุตบอลทีมชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัล 3,000 บาท รองชนะเลิศ 2,000 บาท และชนะเลิศลำดับที่สาม 1,500 บาท ส่วนเงินรางวัล “กีฬาโยนบอลผ้าขาวม้า” ชนะเลิศได้ 1,000 บาท ลำดับที่สอง 700 บาท และลำดับที่สาม 500 บาท
           ซึ่งการจัดกิจกรรมแข่งขันกีฬาประจำตำบลโคกโคเฒ่า มีการแข่งกีฬา เช่นการแข่งขันฟุตบอล และการแข่งขันกีฬาพื้นบ้านโยนบอลผ้าขาวม้า โดยการงานแข่งขันกีฬา เพื่อส่งเสริมออกกำลังกาย การเล่นกีฬา และการเสริมสร้างสุขภาพประชาชนให้แข็งแรง และส่งเสริมให้เยาวชน และประชนชนมีความรักความสามัคคี มีน้ำใจเป็นนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ และให้อภัย ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ห่างไกลจากยาเสพติด ถึงแม้จะมีการกระทบกระทั่งกันบ้างในการแข่งขัน แต่ก็สามารถปรับความเข้าใจ และเล่นกีฬาจบเกมส์ไปด้วยดี