ประจวบคีรีขันธ์-ปั้น 100 ชุมชนท่องเที่ยว สร้างสรรค์ Wellness Economy กระจายเม็ดเงินสู่ทุกอำเภอ
ภาพ-ข่าว:กูลเสวก เสวกวรรณกร
เมื่อวันที่ 14 มี.ค.68 ที่โรงแรมแอทที บูทีค คลองวาฬ อ.เมืองประจวบฯ นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการ จ.ประจวบฯ เป็นประธานเปิดกิจกรรมโครงการ 100 ชุมชนท่องเที่ยว สร้างสรรค์ Wellness Economy มี นายสุธี เล้าสุบินประเสริฐ ปลัดจังหวัดฯ น.ส.กุลณิศ ศรีวชิรวัฒน์ พัฒนาการจังหวัดฯ นายสมเจตน์ จันทนา ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดฯ นายนิติ วงษ์วิชาสวัสดิ์ ผอ.ททท.สำนักงานประจวบฯ หัวหน้าส่วนราชการ คณะทำงานขับเคลื่อนการดำเนินโครงการ 100 ชุมชนท่องเที่ยว สร้างสรรค์ Wellness Economy และตัวแทนจาก 20 ชุมชน เข้าร่วมกิจกรรม จัดโดยสำนักงานพัฒนาชุมชน จ.ประจวบฯ เพื่อเตรียมความพร้อมชุมชนในโครงการ 100 ชุมชนท่องเที่ยว สร้างสรรค์ Wellness Economy
โดยเชิญหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ในการขับเคลื่อนงานท่องเที่ยวชุมชนมาถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพสปาทรายที่ประเทศญี่ปุ่น พร้อมให้ข้อเสนอแนะกับทั้ง 20 ชุมชน เพื่อยกระดับการพัฒนาต่อยอดการท่องเที่ยวเศรษฐกิจเพื่อสุขภาพวิภีใหม่ หรือ Wellness Economy … Wellness Tourism ตามนโยบายการพัฒนาของ จ.ประจวบฯ “Next Move ประจวบ …ประจวบต้องไปต่อ” นำไปสู่การสร้างอาชีพสร้างรายได้ พร้อมการเปิดโอกาสให้ผู้นำชุมชนท่องเที่ยวของ จ.ประจวบฯ ได้นำเสนอจุดเด่นการท่องเที่ยวภายในชุมชนของตนเอง ซึ่งหลังจากการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ยังมีอีก 2 กิจกรรมที่จะดำเนินการ คือกิจกรรมทดสอบโปรแกรมการท่องเที่ยว และกิจกรรมประชาสัมพันธ์ชุมชนท่องเที่ยวโดยมีสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดฯ เป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนดำเนินงาน
ปัจจุบัน จ.ประจวบฯ ได้มีการจัดตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนดำเนินโครงการ 100 ชุมชนท่องเที่ยว สร้างสรรค์ Wellness Economy มีการจัดทำหลักเกณฑ์การประเมินชุมชนที่ได้รับการคัดเลือกเป็น 4 ระดับ ได้แก่ กลุ่มชุมชน A : Next Move จำนวน 20 ชุมชน / กลุ่มชุมชน B : Promote จำนวน 8 ชุมชน / กลุ่มชุมชน C : Connect จำนวน 18 ชุมชน / กลุ่มชุมชน D : Networks จำนวน 60 ชุมชน พร้อมการจัดทำแผนการลงพื้นที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวในชุมชน และพิจารณาคัดเลือก 5 ชุมชน ที่เหมาะสมเข้าร่วมงานเทศกาลเที่ยวเมืองไทย ครั้งที่ 43
นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน กล่าวว่า 20 ชุมชนที่ได้รับการคัดเลือกมาเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ถือว่าเป็นชุมชนที่มีความเข้มแข็ง จะเป็นพี่ใหญ่ที่จะไปทำความเข้าใจให้กับชุมชนอื่นในการพัฒนาการท่องเที่ยว Wellness Economy หรือ Wellness Tourism ให้ครบ 100 ชุมชนตามเป้าหมายนโยบาย Next Move ประจวบ ซึ่งมี 10 เรื่องสำคัญ ซึ่ง Wellness Economy ก็เป็น 1 ใน 10 เรื่อง และแตกประเด็นย่อยออกเป็นอีก 8 ด้าน ได้แก่ งานเทศกาล สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เชิงธรรมชาติ / อาหารพื้นถิ่น ผลไม้ เครื่องดื่ม / กีฬา / การแพทย์ทางเลือก นวด สปา / การท่องเที่ยวเชิงศรัทธา / การแปรรูปเพิ่มมูลค่าสินค้า / การฟื้นฟูสุขภาพผู้สูงอายุ / การพัฒนาที่พักในชุมชน ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้จะเป็นการพัฒนาสู่ชุมชนต้นแบบการท่องเที่ยวเฉพาะด้าน
“ทั้งนี้ จ.ประจวบฯ มีความพร้อมในเรื่องทรัพยากรธรรมชาติ อาหารซีฟู้ดที่สดสะอาด มีคุณภาพ มีแหล่งท่องเที่ยวสปาทราย สิ่งเหล่านี้จำเป็นต้องเปิดตัวให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติได้รู้จัก เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางมาท่องเที่ยวทั้ง 8 อำเภอของจังหวัด เพื่อสร้างเม็ดเงินให้กระจายในพื้นที่
โดยอุตสาหกรรม Wellness Economy ทั่วโลกสร้างเม็ดเงินในปัจจุบันถึง 6.33 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ และจะขยายตัวถึง 9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ในอีก 5 ปีข้างหน้าตามแนวโน้มการดูแลสุขภาพทั่วโลก สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ตั้งเป้าให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งทางจังหวัดพร้อมให้การสนับสนุนงบประมาณ ส่งเสริมชุมชนที่มีความพร้อมเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานให้บรรลุตามเป้าหมาย” นายสิทธิชัย กล่าว
