
สมุทรปราการ-หัวอกคนเป็นแม่สลาย ! ลูกสาวโดน เพื่อนที่ไว้ใจ ทิ้งไว้กับเพื่อนชายชาย 4 คน จนโดนขืนใจ !
ภาพ-ข่าว:สุรศักดิ์ / อัญมณี คงสินธ์
เรื่องนี้เกิดขึ้นวันที่ 29 พฤศจิกายนปีที่ผ่านมา ลูกสาว อายุ 14 ปี พาเพื่อนสาวไปหาแฟนที่บริเวณห้องพักแห่งหนึ่ง ในจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งมีเพื่อนชายอีก 4 คน หนึ่งในนั้นก็เป็นเพื่อนร่วมโรงเรียนเดียวกัน มานั่งเล่นด้วยที่บันไดทางหนีไฟบนตึก ด้วยความไว้ใจ เห็นว่าเป็นเพื่อนกันมานานและยังมีเพื่อนสาวไปด้วย ลูกสาวจึงขึ้นไป แต่ผ่านไปสักพักเพื่อนสาวกับแฟนพากันลงมา อ้างว่า แม่ตาม ทิ้งให้ลูกสาวอยู่กับชาย 4 คน ที่น่าตกใจคือ อายุน้อยสุด 13 ปี ! ((15 ปี 3 คน)) ก่อนที่ทั้ง 4 จะเข้ามาจับแขนขา ทำอนาจารและขืนใจ
แม่รู้แบบนั้นใจก็แทบสลาย ! ติดต่อไปถามเพื่อนสาวคนเดิม ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง ก่อนจะตาม ไปที่บ้านพักของ 4 ทรชน ให้นิติช่วยพาผู้ปกครองและเด็กออกมาพูดคุย ทั้ง 4 คน ยอมรับสารภาพว่าเป็นเรื่องจริง ทางผู้ปกครองขอชดเชยเยียวยา และเกลี่ยกล่อมให้จบเรื่องที่บ้านพัก ให้เป็นแค่การเจรจา ไม่ต้องไปแจ้งความ แต่ทางแม่ไม่อยากได้การเยียวยา อยากแจ้งความดำเนินคดีให้ที่สุด ซ้ำ ! วันรุ่ง แม่พยายามติดต่อผู้ปกครองคนอื่นกลับได้รับคำถามว่า ที่พูดมาทั้งหมดมีหลักฐานหรอ ? มีคลิปวิดีโอยืนยันหรอ พยายามเบี่ยงเบนว่าเด็กสารภาพเพราะว่าผู้ใหญ่บังคับให้ทำ กลับคำพูดไม่เหมือนที่คุยกันก่อนหน้านี้
ได้ยินแบบนี้ใครจะทน 23 ธันวาคม แม่ตัดสินใจเข้าแจ้งความที่ สภ.บางบ่อ แต่จนถึงตอนนี้ คดีไม่คืบหน้า มีเพียงการพูดคุยเพียงวันเดียว ทางร้อยเวรอ้างว่า ไม่มีผลตรวจร่างกาย ทำให้ไม่สามารถเดินหน้าคดีต่อได้ มีเพียงผู้ก่อเหตุเพียงคนเดียวที่อย่างเยียวยา ส่วนคนอื่น ๆ นิ่งเฉย ผู้ก่อเหตุยังไปโรงเรียนกันได้สบายใจ แม้จะพยายามแจ้งทางโรงเรียน แต่ทางโรงเรียนกลับมองข้าม แต่ตัวลูกสาวผู้กระทำกลับต้องจมอยู่กับความทุกข์ไม่กล้าไปโรงเรียน ไม่ได้เรียน ไม่ได้เข้าสอบ เป็นเวลาเดือนกว่าแล้ว
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 5 มีนาคม 2568 มูลนิธิเป็นหนึ่งเข้าช่วยเหลือ ประสานเจ้าหน้าที่ สภ.บางบ่อ อยู่ในระหว่างออกหมายเรียก เพิ่งได้รับผลตรวจร่างกาย ซึ่งไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายเพราะเวลาผ่านมาเป็นเดือนแล้ว ขณะที่ ฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างการติดตามตัวเด็กเพื่อดำเนินคดีตามที่ผู้เสียหายต้องการ รวมถึงเพื่อนสาวที่อยู่ในเหตุการณ์ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้นหรือไม่ ยืนยันว่า เด็กทุกคนต้องเข้าพบตำรวจในวันนี้ และจะมีการสอบต่อหน้าสหวิชาชีพอีกครั้ง เบื้องต้น จะมีการแจ้งข้อหา กระทันชำราวเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี และกระทำชำราวโดยใช้กำลังประทุษร้าย ส่วนเจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เข้ามาดูในเรื่องของการเรียนและสภาพจิตใจ
โดย นางอั้ม (นามสมมติ) อายุ 30 ปี แม่ของผู้เสียหาย เผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 แต่ตนเองมาทราบเรื่องวันที่ 14 ธันวาคม 2567 เนื่องจากสังเกตอาการผิดปกติว่าทำไมลูกสาวไม่ไปหาเพื่อนที่หมู่บ้านเอื้ออาทร ถึงได้สอบถามลูกสาวถึงสาเหตุ แต่ลูกสาวไม่ยอมบอก จึงพยายามเค้น จนกระทั่งลูกสาวยอมบอกว่า ถูกเด็กผู้ชาย 4 คน ที่บ้านเอื้ออาทร ข่มขืน
โดยปกติแล้วลูกสาวของตนจะไปนั่งเล่นอยู่ที่บ้านเอื้ออาทร เนื่องจาก เพื่อนสนิทที่โรงเรียนอยู่ที่นั่น 3 คน ผู้หญิง 2 คนและมีเพื่อนผู้ชายอีก 1 คน ในวันที่เกิดเหตุ ลูกสาวบอกว่าได้นั่งเล่นอยู่กับเพื่อนบริเวณข้างตึก พร้อมกับมีเพื่อนของเพื่อนมานั่งเล่นด้วย เป็นเด็กผู้ชาย 4-5 คน อายุประมาณ 13-15 ปี จากนั้นมีแม่ของคนหนึ่งมาเรียกกลับบ้าน พวกตนจึงย้ายไปนั่งเล่นบนตึกตรงบันไดหนีไฟ ตอนแรกลูกสาวตนไม่กล้าขึ้นไป แต่มีเพื่อนผู้หญิงชักชวน และบอกว่า จะขึ้นไปเล่นด้วย จึงทำให้ลูกสาวโตตัดสินใจขึ้นไปโดยไม่ได้คิดอะไรแต่สักพักเพื่อนผู้หญิงคนดังกล่าว และแฟนหนุ่มเดินลงไปข้างล่าง ทำให้ลูกสาวของตนอยู่กับชาย 4 คน จากนั้นน้องก็เริ่มถูกลวนลามและทำอนาจาร
หลังจากที่ตนเองทราบเรื่องที่ลูกสาวเล่าให้ฟัง ตนเองรีบพาลูกสาว ไปที่บ้านเอื้ออาทรเพื่อไปหาเพื่อนผู้หญิงที่สนิทกับลูกสาว ไปถามเหตุการณ์และพยายามติดต่อ 4 ทรชน แต่ไม่สามารถติดต่อได้ วันถัดมาตนเองเดินทางไปอีกครั้ง เพื่อไปสอบถาม ตามร้านค้าต่างๆว่า รู้จักเด็ก ทั้ง 4 คนหรือไม่ซึ่งทางร้านค้า ได้บอกพิกัด จนตนเองไปพบกับนิติบุคคลภายในตึกที่เกิดเหตุ ทางนิติบุคคลถามว่า เกิดอะไรขึ้นซึ่งตนเองได้เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง จากนั้นทางนิติบุคคลได้เชิญผู้ปกครองทั้ง 4 คนมาไกล่เกลี่ยซึ่งวันนั้นเด็กๆทั้ง 4 คนรับสารภาพว่าเป็นคนทำจริงๆ
พอวันวันรุ่งขึ้นตนเองได้ติดต่อไปหาผู้ปกครองของ 4 ทรชน ปรากฏว่า มีผู้ปกครองเด็กชายคนนึง ถามกลับมาว่า ตนมีหลักฐานคลิปวีดีโอหรอ ถึงไปกล่าวหาว่าเขาเป็นคนทำ ทำให้ตนรู้สึกว่าฝั่งผู้ปกครอง 4 ทรชนตัดความรับผิดชอบจึงรีบเข้าแจ้งความกับ สภ.บางบ่อ ในวันที่ 23 ธันวาคม 2567 จนมาถึงตอนนี้คดีความก็ยังไม่คืบหน้า ทำให้ตนรู้สึกเครียดเป็นอย่างมาก ลูกของตนถูกกระทำ แต่ 4 ทรชนยังใช้ชีวิต ไปโรงเรียนได้ตามปกติ แต่ลูกสาวของตนไม่กล้าที่จะไปโรงเรียน เพราะ 1 ใน 4 ทรชน เอาเรื่องของลูกสาวไปพูดไปประจานที่โรงเรียน
ในขณะทางด้านของ นางสาวชลิดา พะละมาตย์ หรือคุณต้นอ้อ เป็นหนึ่ง เปิดเผยให้ทีมข่าวฟังว่า แม่ของน้องทักมาขอความช่วยเหลือกรณีลูกสาว ถูกชายเด็ก 4 คนรุมโทรม โดยก่อนหน้านี้ แม่น้องได้ไปติดตามตัวผู้ปกครองและ 4 ทรชน ที่ทางหมู่บ้านเอื้ออาทรซึ่งหลังจากที่ได้พูดคุยกับเด็กทั้ง 4 คนแล้ว เด็กทั้ง 4 คนรับสารภาพว่า ก่อเหตุจริง และบอกว่าจะรับผิดชอบเยียวยาให้ ไม่ให้แจ้งตำรวจ ซึ่งทางแม่ของน้องไม่อยากรับการเยียวยา แต่อยากให้เป็นคดีความ อยากให้ทั้ง 4 ทรชนได้รับความผิด ซึ่งก็ถูกทางผู้ปกครองของคู่กรณี ถามกลับมาว่ามีหลักฐานกล้องวงจรปิดหรอ ถึงจะไปแจ้งความ ทำให้แม่ของน้องรู้สึกไม่สบายใจจึงรีบเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบ่อ แต่หลังจากเข้าแจ้งความแล้ว คดีความก็ยังไม่คืบหน้า
พ.ต.ท.ประเมศฐ์ มหาศิรธนโรจน์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.บางบ่อ รักษาราชการแทน ผกก.สภ.บางบ่อ ระบุว่า สำหรับคดีนี้ทางตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจและหลังจากที่ได้รับแจ้งก็มีการส่งตัวผู้เสียหายไปตรวจร่างกายตามขั้นตอน ซึ่งในตอนแรกยังไม่ทราบชื่อจริงและห้องพักของผู้ก่อเหตุ จนกระทั่งติดตามออกหมายเรียกผู้ก่อเหตุมาพบพนักงานสอบสวน ซึ่งในตอนของการรวบรวมพยานหลักฐาน โดยเฉพาะผลตรวจร่างกายผู้เสียหาย ซึ่งในขณะนี้ได้มาแล้ว และได้ให้ฝ่ายสืบสวนเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมดมาสอบปากคำและดำเนินคดีตามกฎมาย โดยจะต้องดำเนินการต่อหน้าสหวิชาชีพทั้งสองฝ่าย
ส่วนการแจ้งข้อหาจะประกอบด้วย ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเรา ร่วมกันพรากผู้เยาว์ ร่วมกันกักขังโหน่งเหนี่ยว และร่วมกันโทรมหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งหลังจากนี้ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนบูรณากันเร่งทำคดีนี้แล้ว ส่วนประเด็นของเพื่อนผู้เสียหายที่พาไปนั้น มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไรและเข้าข่ายความผิดด้วยหรือไม่ ต้องรอบสอบปากคำ เช่นเดียวกับผู้ปกครองของผู้ก่อเหตุ หากพบว่าปล่อยปะละเลยหรือยุยงหรือส่งเสริมให้บุตรหลานกระทำผิดก็อาจถูกดำเนินคดีตาม พรบ. เด็กและเยาวชนด้วยเช่นกัน