
สมุทรสาคร-เปิดปฏิบัติการ “Knock Knock ล็อคต่างด้าวแย่งอาชีพคนไทย”
ภาพ-ข่าว:ทีมข่าวจังหวัดสมุทรสาคร
เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผวจ.สมุทรสาคร ได้สั่งการให้ นายบรรพต จันทรวงษ์ นายอำเภอกระทุ่มแบน นำทีมชุดปฏิบัติการพิเศษอำเภอกระทุ่มแบน ประกอบด้วย นายณัฐพล บุญทวี ปลัดอาวุโส เรือตรี นิติพัฒน์ ซื่อดี ปลัดอำเภอ ว่าที่ร้อยตรี พรชัย วนศาสตร์ ปลัดอำเภอ ,นายนิทัศน์ ลิ้มศิริวัฒน์ ปลัดอำเภอ,นายกิตติวุฒิ ฉัตรวคุณ ปลัดอำเภอ,นายฐิติวัชร์ วารีรัตนภากร สาธารณสุข เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ เปิดปฏิบัติการ “Knock Knock ล็อคต่างด้าวแย่งอาชีพคนไทย” โดยเข้าตรวจค้นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น เลขที่ 58 หมู่ 9 ริมถนนแศรษฐกิจ ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร
หน้าร้านเปิดเป็นร้านขายอาหารตามสั่ง ส่วนภายในร้านขายของโชว์ห่วย มีสินค้าบริโภคและยา รวมถึงเวชสำอาง อยู่เป็นจำนวนมาก ขณะเข้าตรวจค้นเจ้าหน้าที่พบคนขายของเป็นแรงงานต่างด้าว 2 คน ชายกับหญิง จึงควบคุมตัวไว้ และยังมีลูกค้าที่เข้ามาซื้อของภายในร้านอีก 3 คน ซึ่งจากการตรวจสอบลูกค้า 2 คนมีบัตรอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จึงได้กันตัวไว้เป็นพยาน ส่วนอีกคนถือบัตรหมดอายุ จึงได้ควบคุมตัวส่งให้ทางจัดหางานจังหวัดและตำรวจตรวจคนเข้าเมืองไปตรวจสอบก่อนที่จะดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษฯ กำลังตรวจสอบเอกสารและสินค้าบริโภค ยา และ เวชสำอาง ภายในร้านนั้น นางมินตรา เณรพรม เข้ามาหาเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ แล้วแสดงตนว่า ตนเองเป็นเจ้าของร้าน แต่ออกไปทำธุระข้างนอกจึงให้ลูกจ้างขายของแทน โดยเพิ่งจะกลับเข้ามา ส่วนแรงงานต่างด้าวที่พบในร้านว่าเป็นคนขายของนั้น ก็เป็นลูกจ้างของตนทั้งสิ้น ทั้งสองคนมีเอกสารขออนุญาตทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมกับนำมาสำแดงให้เจ้าหน้าที่ ตรวจสอบ
นายบรรพต จันทรวงษ์ นายอำเภอกระทุ่มแบน ได้ชี้แจงให้ทางผู้ที่รับเป็นเจ้าของร้านมีความเข้าใจตรงกันว่า คนงานต่างด้าวที่ตรวจพบ 2 คน และบอกว่าเป็นลูกจ้างของทางร้านนั้น แม้จะมีเอกสารขออนุญาตทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่บุคคลทั้งสองทำงานผิดประเภทไม่ตรงกับที่ได้รับอนุญาต และยังเป็นงานที่ทางราชการไทยไม่สามารถอนุญาตให้แรงงานต่างด้าวทำได้ นอกจากนี้ขณะเข้าตรวจค้นจับกุมก็ไม่มีนายจ้างที่เป็นคนไทยอยู่ภายในร้าน มีเพียงแรงงานต่างด้าวทั้ง 2 คนขายของอยู่ จึงเข้าข่ายการทำงานในลักษณะแย่งอาชีพคนไทย
ดังนั้นแม้จะมีเอกสารมาสำแดงภายหลังว่าเป็นเจ้าของร้านจริง และคนทั้ง 2 เป็นลูกจ้างจริง แต่การปล่อยให้ลูกจ้างค้าขายโดยไม่มีนายจ้างอยู่ด้วย ก็ถือว่ามีการกระทำความผิดตามกฎหมายเกิดขึ้นแล้ว จึงต้องควบคุมตัวทั้งนายจ้างคนไทยและลูกจ้างแรงงานต่างด้าวไปสอบปากคำเพิ่มเติมฯ ก่อนที่จะดำเนินการตามกฎหมายเกี่ยวกับการจ้างแรงงานต่างด้าวในทุกข้อกล่าวหา นอกจากนี้ จากการตรวจสินค้าภายในร้าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าประเภทสำหรับบริโภค ยา และ เวชสำอาง มีหลายชนิดที่เป็นภาษาพม่ากำกับไว้ แต่ยังไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่มีตราประทับ อย.ของประเทศไทย รวมถึงสินค้าเหล่านี้ก็ไม่สามารถขายได้เองอีกด้วย และบางประเภทเป็นยาที่ส่วนผสมของสมุนไพร จึงต้องถูกตั้งข้อกล่าวหากระทำความผิดฐานละเมิด พรบ.ยา,พรบ.อาหาร และ พรบ.สมุนไพร ซึ่งก็มีความผิดทั้งจำและปรับ ตามแต่ละความผิดที่ตรวจพบ โดยทั้งนี้ทางด้านของสาธารณสุขอำเภอกระทุ่มแบน ก็ได้รวบรวมยา เวชสำอาง และเครื่องบริโภคทั้งหมดไปตรวจสอบ ณ ที่ว่าการอำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร