
ราชบุรี-รพ.โพธารามเปิดศูนย์รับบริจาคอวัยวะและหน่วยรับประสานบริจาคร่างกายเป็นอาจารย์ใหญ่
ภาพ-ข่าว: ประทีป อยู่แช่ม
นายแพทย์ สิริ สิริจงวัฒนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลโพธาราม เปิดเผยว่า ทางกระทรวงสาธารณะสุข มีการรับบริจาค ไม่ว่าจะเป็นอวัยวะหรือร่างกาย เหตุผลที่เราว่าอย่างนั้นคือภาวะเสื่อมของร่างกาย มันเกิดขึ้นอยู่เรื่อยๆ แล้วเรามีคนไข้ที่เสียชีวิตก่อนเวลาอันสมควร ซึ่งสามารถเอาอวัยวะของร่างกายไปบริจาคเพื่อต่อชีวิตให้คนอื่นได้ ยังที่เขาเขียนไว้ว่า 1ชีวิตเราบริจาคเพื่อ8ชีวิต ซึ่งการบริจาค1ครั้ง เราสามารถบริจาคได้เยอะแยะไม่ว่าจะเป็นหัวใจ ปอด ตับ ไต หรือแม้แต่กระจกตา ณ ปัจจุบันจะบอกได้ว่ามีคนไข้รอรับบริจาคเอาฉะเพราะไตอย่างเดียว นะตอนนี้มีประมาณ 7,000 กว่าราย ซึ่ง1ในนั้นขอเอ่ยนามท่านคือท่านวิษณุ เครืองาม ท่านรอรับบริจาคไตอยู่ท่านเป็นไตเรื้อรัง แต่ก็ตัวไตก็จะมีปัญหาก็ยังที่ผมเคยพูดว่า ถ้าหากไตวายแล้วเราจะมาทำอะไรไม่ได้ เพราะจะทำให้ร่างกายเสื่อมไม่ปกติ แต่ถ้ารับบริจาคมาแล้วไตของคนนั้นปกติก็สามารถจะอยู่ได้เหมือนคนปกติทั่วไปเลย
ทางโรงพยาบาลรับบริจาคอวัยวะ เราสามารถที่จะมาติดต่อด้วยตัวเองก็ได้ ตามโรงพยาบาลต่างๆ ซึ่งในส่วนของโรงพยาบาลโพธาราม มีที่ชั้น 2 ห้องสังคมสงเคราะห์ สามารถที่จะเข้ามาติดต่อได้เลย อีกส่วนหนึ่งก็คือบริจาคร่างกาย เพื่อเป็นอาจารย์ใหญ่ให้กับนักศึกษาแพทย์ ตัวนี้เราก็จะบริจาคทั้งตัวเลย เหมือนเป็นหนังสือ1เล่มให้นักศึกษาแพทย์ได้ศึกษาหาความรู้ โดยเราร่วมกับศิริราชพยาบาล เราสามารถจะขอเข้ามาบริจาคร่างกาย กับทางโรงพยาบาลโพธาราม เราจะติดต่อประสานไปยังศิริราชพยาบาล เพื่อที่จะดำเนินการให้ ข้อห้ามเล็กๆน้อยๆ ก็คือว่าคนไข้รายนั้นเคยได้รับการผ่าตัด ไม่ว่าอะไรก็ตาม อยากจะบอกว่าพอมีการผ่าตัดมันก็จะมาการเสี่ยงของร่างกาย ซึ่งตรงนี้เขาจะไม่รับ ซึ่งถ้าเป็นคนร่างกายปกติ ที่ไม่มีโรค ในส่วนของโรคที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ เช่นการติดเชื้อในกระแสเลือด HIV ตับอักเสบ ไวรัส และก็โรคมะเร็งระยะแพร่กระจายซึ่งทำให้อวัยวะต่างๆมันเพี้ยนไป ซึ่งอาการเหล่านี้เขาจะไม่รับมาเป็นอาจารย์ใหญ่ เพราะจะทำให้นักศึกษาแพทย์จะหลงประเด็นไป
ส่วนการผ่าตัดสับเปลี่ยนอวัยวะภายใน ตรงนี้เขาก็จะไม่รับมาเป็นอาจารย์ใหญ่ ส่วนอย่างอื่น สามารถมาติดต่อที่ศูนย์ประสานงาน ที่ห้องสังคมสงเคราะห์ชั้น2โรงพยาบาลโพธารามได้ ในส่วนคำโบราณที่มีความเชื่อกันว่าถ้าบริจาคอวัยวะไปแล้วตายไปจะไปไม่ครบ32 คือพระพุทธองค์ที่จะขึ้นมาเป็นพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ จำเป็นต้องบริจาคอวัยวะตัวเองเพื่อไปต่อชีวิตให้บุคคลอื่น หรือแม้แต่บริจาคชีวิตของตนเองเพื่อไปต่อชีวิตให้บุคคลอื่น เพราะฉะนั้นถ้าหากเรายังไปติดคำที่ว่าถ้าบริจาคไปแล้วมันจะไปไม่ครบ32 ถ้างั้นพระเจ้าคงไม่บริจาค
ในส่วนผู้ที่บริจาคอวัยวะผู้ที่เคยต้องโทษคดีอาญาต่างๆ ถ้าไม่เคยผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะก็สามารถบริจาคได้ แต่ก็มีกฏข้อเล็กๆน้อยๆอีกว่าคนติดคุณคุณมีสารเสพติดไหม หรือเป็นโรคติดเชื้อในกระแสเลือดไหม ซึ่ง2ข้อหลักเนี่ยเขาป้องกันไม่ให้คนเรียนเนี่ยติดจากตัวอาจารย์ใหญ่ อย่างไรก็ดี ในส่วนของคนโพธาราม ท่านใดที่อยากจะบริจาคอวัยวะ หรือร่างกายก็มาติดต่อพบพูดคุย ปรึกษาเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลได้ที่ ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ ชั้น2ห้องสังคมสงเคราะห์ ในเวลาราชการ