นครปฐม-“หลวงพี่น้ำฝน”สนธิกำลัง ตรวจสอบสำนักปฏิบัติธรรม (พระปีนเสาไฟ) พบไม่ถูกต้องตามขั้นตอน

นครปฐม-“หลวงพี่น้ำฝน”สนธิกำลัง ตรวจสอบสำนักปฏิบัติธรรม (พระปีนเสาไฟ) พบไม่ถูกต้องตามขั้นตอน

ภาพ-ข่าว:บ.ก.อริย์ธัช พรอัศวโยธิน

            “หลวงพี่น้ำฝน”พร้อมด้วยผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอนครชัยศรี เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรนครชัยศรี เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง สนธิกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบสถานปฏิบัติธรรมพุทธยันตรี 2,600 ปี ซึ่งชาวบ้านร้องให้ตรวจสอบหลังพระธีรธนัชณฤทธา เสาวภาคย์โชติรส (พระปีนเสาไฟ) จัดตั้งในที่เปลี่ยวในพื้นที่ พร้อมมีเอกสารหนังสือเรียกตัวกลับวัดต้นสังกัดที่จังหวัดพิจิตร
            โดยขณะที่มีการตรวจสอบเจ้าตัวได้มีการโวยวายอ้างถูกกลั่นแกล้งและขณะนี้ได้ย้ายสังกัดไปอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดสุพรรณบุรีแล้ว ซึ่งหลวงพี่น้ำฝนได้แจ้งหลักการให้กลับไปอยู่ที่วัดต้นสังกัดเนื่องจากสถานปฏิบัติธรรมดังกล่าวยังไม่ได้ขึ้นอยู่ในการปกครองตามลำดับชั้น ส่วนสำนักพุทธขอตรวจสอบการจัดตั้งสำนักปฏิบัติธรรมว่าถูกต้องหรือไม่อีกครั้ง ขณะที่พระครูปลัดธีระพระปีนเสา ถูกจับตาเนื่องจากเคยบุกไปหาหนุ่มกรรชัย

            โดยอ้างว่าไม่พอใจที่มีการบิดเบือนนำอาจารย์เบียร์ คนตื่นทำไปออกรายการนำเสนอวิธีการปฏิบัติผิดหลักพระพุทธพระพุทธเจ้า และเตรียมนำคน 100 คนไปยื่นหนังสือร้องเรียนที่ช่องสามวันที่ 31 ตุลาคมนี้ ส่วนกลางจอมพลังโพสต์ขอพลังมวลชนสวมชุดดำไปเจอกันที่หน้าช่อง 3 พร้อมติดตามดูการตรวจสอบสถานปฏิบัติธรรมก่อนขับรถออกไปโดยไม่ลงมาพบ
            วันนี้ 30 ต.ค. 67 เวลา 17.00 น. ที่วัดสำโรง ตำบลวัดสำโรง อำเภอนครชัยศรี นครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ในฐานะประธานคณะทำงานดำเดินการแก้ไขข้อขัดข้อง ระงับเหตุ และแก้ไขปัญหาอธิกรณ์ข้อร้องเรียนในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค 14 พร้อมด้วย นายธานี พิกุลทอง ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม นายพรชัย โพธิ์ทองนาค ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงนครชัยศรี เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.นครชัยศรี เจ้าหน้าที่ตำรวจสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้เข้าพบพระครูสิริปุญญาภิวัฒน์ เจ้าคณะอำเภอนครชัยศรี เจ้าอาวาสวัดสำโรง เจ้าคณะตำบลวัดสำโรง เพื่อหารือและติดตามข้อมูล พระครูปลัดธีรธนัชณฤทธา เมตตฺตธมฺโม (เสาวภาคย์โชติรส) หรือที่รู้จักกันในชื่อ พระครูปลัดธีระปีนเสาไฟ ซึ่งได้มีความประพฤติไม่เหมาะสมในสื่อโซเชียล และเป็นที่หนักใจของคณะสงฆ์และสำนักงานพระพุทธศาสนา

            ซึ่งกรณีดังกล่าวได้สืบเนื่องมาจากกรณี เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 67 ที่ผ่านมาพระครูปลัดธีระปีนเสาไฟ ได้บุกไปหานายกรรชัย กำเนิดพลอย หรือ หนุ่ม กรรชัย พิธีกรชื่อดัง รายการโหนกระแส ที่สถานีโทรทัศน์ ช่อง 3 เนื่องจากอ้างว่าพิธีกรคนดังทำให้ไม่พอใจเพราะชอบมีกระแสออกข่าวทำลายพระ มีการนำ อาจารย์เบียร์ เจ้าของ Tiktok คนตื่นธรรมมาออกรายการ ซึ่งทาง รปภ.ไม่ได้ให้ขึ้นไปพบเนื่องจากไม่มีการแสดงบัตรพระ จากนั้นเจ้าตัวได้มีการระบุว่า วันที่ 31 ตุลาคม นี้จะกลับมายื่นหนังสือกับผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 อีกครั้ง โดยจะนำคนมาด้วย 100 คน
           โดยพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้นำเอกสารเป็นหนังสือ เอกสาร พิเศษ/2567 จากวัดโพนทะเล ตำบลโพนทะเล อำเภอโพนทะเล จังหวัดพิจิตร ลงนามโดยพระครูปลัดสุทัศน์ สุเมโธ รักษาการเจ้าอาวาสวัดโพนทะเล เรื่องขอให้พระภิกษุลับวัดโพนทะเล โดยระบุว่า พระครูปลัดธีรธนัชณฤทธา เมตตฺตธมฺโม (เสาวภาคย์โชติรส) สังกัดวัดโพนทะเล ได้มาจำพรรษา พำนักอยู่ ณ ที่พักสงฆ์สถานปฏิบัติธรรมพุทธยันตรี ตำบลห้วยพลู อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ซึ่งปรากฏในสื่อโซเชียลต่างๆจนสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในกรณีแสดงตนไม่เหมาะสมบนสื่อออนไลน์ โดยในหนังสือได้มีการระบุให้กลับวัดต้นสังกัด ภายใน 7 วัน นับตั้งแต่ลงนามวันที่ 30 ตุลาคม 67 โดยปัจจุบันยังไม่ได้มีการกลับไปยังต้นสังกัดแต่อย่างใด

             ขณะเดียวกัน เวลา 17.30 น. ชุดปฏิบัติการสนธิกำลังได้ เดินทางเข้าไปยัง ที่พักสงฆ์สถานปฏิบัติธรรมพุทธยันตรี 2,600 ปี ซึ่งปรากฏว่าพบตัวพระครูปลัดธีระปีนเสาไฟฟ้า อยู่ภายในพื้นที่จึงได้มีการขอตรวจเอกสารหนังสือสุทธิต้นสังกัดและเอกสารก่อตั้งสถานที่ปฏิบัติธรรมดังกล่าวจึงได้เกิดมีปากเสียง ขึ้นในการตรวจค้นและถกเถียงกับเจ้าหน้าที่ในระหว่างตรวจสอบ โดยทางพระครูปลัดธีระปีนเสาไฟ ได้ถ่ายคลิบและยืนยันว่าเอกสารในการแจ้งต้นสังกัดจากจังหวัดพิจิตรไม่ถูกต้องเพราะตนเองได้ถูกให้ออกจากวัดดังกล่าวมาแล้วและถูกกลั่นแกล้งมาตลอด ซึ่งสังกัดของตนเองอยู่ที่พื้นที่วัดสามชุก อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี ขณะที่ทางชุดตรวจสอบได้สอบถามถึงเอกสารในการจัดตั้งสำนักปฏิบัติธรรมพุทธยันตรี ซึ่งพบว่าอยู่ในที่เปลี่ยวลึกและหาทางเข้ายากเป็นทางเปลี่ยว ทางคณะสงฆ์อำเภอนครชัยศรี แจ้งว่ายังไม่ได้มีระบุอยู่ในสารระบบ ซึ่งขั้นต่อไปจะมีการตรวจสอบเอกสารการขอจัดตั้งว่าถูกต้องหรือไม่ ซึ่งทางคณะสงฆ์โดยหลวงพี่น้ำฝน ให้คำแนะนำว่าควรจะย้ายกลับต้นสังกัดในจังหวัดสุพรรณบุรีต้นสังกัดที่มีอยู่

           จากนั้นเวลาประมาณ 18.20 น. รถตู้ของทีมงานกันจอมพลัง ได้เดินทางมาถึงยังสำนักปฏิบัติธรรมดังกล่าว โดยสังเกตุการณ์อยู่ในรถและไม่ได้ลงมาสอบถามหรือได้พบตัวพระครูปลัดธีระ หรือสอบถามเจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวเมื่อพบว่าการตรวจสอบเสร็จสิ้นจึงได้วนรถออกจากพื้นที่
          พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ในฐานะประธานคณะทำงานดำเดินการแก้ไขข้อขัดข้อง ระงับเหตุ และแก้ไขปัญหาอธิกรณ์ข้อร้องเรียนในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค 14 กล่าวว่า สำหรับการเข้าตรวจสอบในวันนี้สืบเนื่องจากทางเจ้าอาวาสในจังหวัดนิติได้มีการส่งหนังสือให้มีการส่งตัวพระครูปลัดธีระ กลับวัดต้นสังกัดแต่เมื่อมีการตรวจสอบแล้วท่านได้ นำใบสูจิบัตรมาแสดงว่าขณะนี้ได้สังกัดอยู่ที่วัดสามชุกในอำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งในข้อเท็จจริงถือว่าเป็นการผิดระเบียบเนื่องจากการอาศัยอยู่ในสำนักสงฆ์จะต้องมีลำดับชั้นการปกครองคือเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ และเจ้าคณะจังหวัดต้นสังกัดเป็นที่ตั้ง

          “สำนักสงฆ์ที่ถูกต้องจะต้องมีการได้รับการแต่งตั้งจากเจ้าอาวาสวัดนั้นว่าสถานที่ปฏิบัติธรรมนี้ได้ส่งพระสงฆ์รูปนี้มาอาศัยในสถานปฎิบัติธรรมที่ปรากฏเป็นลายลักษณ์อักษรที่ถูกต้อง และจะต้องนำเอกสารนั้นไปแจ้งต่อเจ้าคณะตำบลนั้นนั้นเพื่อให้ทราบว่าได้มีการจัดตั้งสำนักสงฆ์และถูกส่งตัวมาอย่างถูกต้องนั่นเอง” หลวงพี่น้ำฝน กล่าวปิดท้าย

            นายธานี พิกุลทอง ผู้อำนวยการสำนักพุทธจังหวัดนครปฐมได้เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้พระรูปดังกล่าว มีการเชิญชวนให้ญาติโยมนัดชุมนุม โดยจะเดินทางไปที่ช่อง 3 ทำให้ทางเจ้าคณะอำเภอ รวมไปถึงสำนักพุทธจังหวัดนครปฐม เห็นแล้วรู้สึกไม่สบายใจ เนื่องจากมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ไม่ใช่เพียงแต่ว่าไม่ใช่เป็นพระสงฆ์ในสังกัดของจังหวัดนครปฐม แต่ไม่ว่าจะเป็นพระสงฆ์ที่ใดก็แล้ว แต่โดยเจ้าคณะปกครองต่างประชุมกันและไม่เห็นด้วย จึงได้เดินทางลงมายังสำนักปฏิบัติธรรม เพื่อทำการตรวจสอบ ตักเตือน แต่พระธีรธนัชณฤทธา ได้แสดงท่าทีไม่พอใจกับการตรวจสอบดังกล่าว
            สำหรับพระครูปลัดธีรธนัชณฤทธา เมตตฺตธมฺโม (เสาวภาคย์โชติรส) หรือพระครูปลัดธีระปีนเสาไฟฟ้า เคยมีประเด็นดังเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 61 ซึ่งได้ก่อเหตุปีนเสาสัญญาณ ภายในสำนักปฎิบัติธรรมพุทธชยันตี ถนนพุทธมณฑลสาย 3 เขตทวีวัฒนา กรุงเทพ เนื่องจากเรียกร้องไม่ให้สำนักสงฆ์ถูกขับไล่ออกจากพื้นที่ เนื่องจากที่ดินที่ได้มีการจัดสร้างเป็นสถานปฏิบัติธรรมดังกล่าว เคยมีเออกชนมาก่อสร้างรีสอร์ทแล้วติดหนี้ธนาคารและเป็นที่รกร้าง กระทั่งปี 2555 พระครูปลัดธีระปีนเสาไฟฟ้า ได้มาสร้างเป็นสำนักสงฆ์และมีการนิมนต์พระ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเชื้อสายกัมพูชาวนเวียนเข้ามาในสถานที่ กระทั่งธนาคารได้พยายามให้ย้ายออกไป จึงได้มีการปีนเสาสัญญาณ จนได้ชื่อว่า พระปีนเสาไฟฟ้า นับแต่นั้นมา

            ต่อมา ในวันที่ 13 พ.ย.62 ก็ได้ปีนเสาสัญญาณอีกครั้งในพื้นที่เดิม ซึ่งให้เหตุผลว่าจะขึ้นไปปฏิบัติธรรมด้านบน ซึ่งมีการสอบถามลายละเอียดแล้วอ้างว่าประท้วงที่ธนาคารไม่ยอมทำสัญญาขายที่ดินเพื่อให้ดำเนินการก่อสร้างเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมอีก ก่อนจะมีการบุกไปสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 เมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา

           นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ในปี พ.ศ.2565 ในพื้นที่ อำเภอพุทธมณล ยังเคยมีการถูกเจ้าหน้าที่จับกุมฐานประพฤติตนไม่เหมาะสมโดยการขับรถยนต์ ไปบิณฑบาตและมีสีกาที่อยู่ในสำนักปฏิบัติธรรมนั่งไปด้วย ในรถยังพบเครื่องแต่งกายฆราวาส โดยได้มีการแจ้งบันทึกตักเตือนถึงความไม่เหมาะสมไว้แล้ว ซึ่งใน ปีพ.ศ.2566 พื้นที่อำเภอนครชัยศรีก่อนมีการตรวจสอบครั้งนี้ก็ได้มีการถูกร้องเรียนเนื่องจากสงสัยว่ามีชาวต่างด้าวมาบวชอยู่ในพื้นที่สำนักสงฆ์

          ทั้งนี้กรณีดังกล่าว เพจ กันจอมพลัง ช่วยสู้ ได้มีการโพสต์ ข้อความว่า วันที่ 31 พระปีนเสาประกาศเอามวลชนไปหาพี่หนุ่มและผู้บริหารช่อง 3 งั้นผมขอเชิญ FC ที่รักผมและพร้อมลุยไปกับผมร่วมกันใส่ชุดสีดำ ไปเจอกัน 3 10 โมง เพื่อเคียงข้างพี่หนุ่มครับ ซึ่งโพสต์ดังกล่าวมี คนกดไลค์กว่า 128แสนคน ต่อมาวันนี้ได้มีการลงคลิบเชิญชวนอีกรอบ ซึ่งทำให้ประเด็นดังกล่าวร้อนแรงมากขึ้น และมีการจับตาในวันพรุ่งนี้

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!