ประจวบคีรีขันธ์-วัวกระทิงแก่เพศเมียไร้สาบสาวถูกวัวเพศผู้ไล่ขวิดจนช้ำในตาย
ภาพ/ข่าว: เอกภพ วงษ์ประเสริฐ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติป่ากุยบุรี ได้รับแจ้งจากนายปรีดา บางบาล อายุ 55 ปี เกษตรกรชาวไร่ผู้ปลูกสับปะรดว่าพบวัวกระทิงเพศเมียนอนเสียชีวิตขึ้นอืดอยู่บริเวณท้ายไร่สับปะรด ในพื้นที่หมู่ 5 บ้านกระทุ่น ซอย 3 ตำบลเขาจ้าว อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบเบื้องต้นเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 27 ต.ค.67 ที่ผ่านมา ตามที่ผู้สื่อข่าวได้เคยนำเสนอไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น
คืบหน้าล่าสุดวันนี้ 28 ต.ค.67 เวลาประมาณ 10.00 น.นายอรรถพงษ์ เภาอ่อน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ได้มอบหมายให้ นายนพพร อัคคมณี ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี พร้อมด้วยนายสนธยา หอมทั่ว หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ กร.4 บ้านหุบมะซาง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่อุทยาน ร่วมกับนายสัตวแพทย์ อนุรักษ์ สกุลพงษ์ นายสัตวแพทย์ประจำ สบอ.3 เพชรบุรี นางสาวกาญจนา รงค์รักน์ สัตวบาลห้วยทราย พร้อมเจ้าหน้าที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยทราย ลงพื้นที่ตรวจสอบผ่าชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตของวัวกระทิงตัวดังกล่าว โดยสาเหตุคาดว่าถูกวัวหนุ่มเพศผู้ขวิดจนช้ำภายในอักเสบตาย เพราะเป็นวัวแก่อายุประมาณ 15 ปี น้ำหนัก 800-1,000 กก. สาบสาวเสื่อมสภาพทำให้ตัวผู้เข้าใจผิดคิดว่าเป็นเพศเดียวกัน จึงขวิดเพื่อขับไล่แย่งผสมพันธุกับเพศเมีย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันตัดเอาหัวของกระทิงไปเก็บรักษาไว้ที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ส่วนซากกระทิงตัวดังกล่าวเจ้าหน้าที่จะดำเนินการฝังกลบโดยใช้รถแบ็คโฮมาขุดหลุมเพื่อฝังกลบ โรยด้วยปูนขาวทับเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรคต่อไป
นายอนุรักษ์ สกุลพงษ์ นายสัตวแพทย์ประจำ สบอ.3 เพชรบุรี เปิดเผยว่า จากการที่ได้ผ่าตรวจชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตของวัวกระทิงป่าเพศเมียตัวนี้ ไม่พบหัวกระสุนปืนแต่อย่างใด แต่ตรวจพบอาการบาดเจ็บที่บริเวณสันหลัง และบริเวณชายโครงระยะห่างของรอยช้ำ 90 เซนติเมตร ซึ่งคาดว่าน่าจะถูกวัวกระทิงเพศผู้ไล่ขวิดทำร้ายทำให้เกิดอาการบาดเจ็บช้ำในอักเสบ ประกอบกับวัวกระทิงเพศเมียตัวนี้อายุประมาณ 15 ปี ซึ่งถือว่าเป็นวัวที่แก่ชราหมดฮอร์โมนของวัวตัวเมียแล้ว ทำให้ไม่มีสาบสาวจึงทำให้วัวตัวผู้เข้าใจผิดนึกว่าเป็นวัวตัวผู้ด้วยกันมาแย่งผสมพันธุ์กับวัวตัวเมีย จึงเกิดการต่อสู้กัน และบาดเจ็บช้ำในจนเสียชีวิต ส่วนตุ่มสะเก็ดแผลที่พบตามลำตัว ไม่ใช่โรคลิมปีสกิน แต่เป็นโรคหูดที่พบระบาดในแพะ หรือหูดแพะ ก็ต้องมาดูว่าบริเวณนี้มีการเลี้ยงแพะหรือไม่ ซึ่งสามารถติดต่อกันได้ผ่านแมลงดูดเลือด เมื่อแมลงดูดเลือดจากแพะแล้วมาดูดเลือดวัว ก็จะทำให้วัวติดโรคหูดได้ และโรคนี้สามารถติดต่อจากสัตว์สู่คนได้ด้วยเช่นกัน นายสัตวแพทย์ กล่าว