สมุทรปราการ-สลด..!! ลูกชายออทิสติก อยู่กับศพพ่อที่ตกบันไดดับปริศนามีบาดแผลที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์
ภาพ-ข่าว;สุรศักดิ์ / อัญมณี คงสินธ์
เมื่อเวลา 11.00 น วันที่ 28 กันยายน 2567 พ.ต.ท.บุรินทร์ ทองก่อ สารวัตรสอบสวน สภ.สำโรงเหนือ จังหวัดสมุทรปราการ ได้รับแจ้งพบผู้เสียชีวิตภายในบ้านพักหลังหนึ่ง หมู่บ้านเฟื่องฟ้า 9 เฟส 2 หมู่ที่ 8 ตำบลเทพารักษ์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสาน ชุดสืบสวน แพทย์นิติเวช พิสูจน์หลักฐาน และ เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางเจ้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นลักษณะ ทาวเฮาส์ 2 ชั้น บริเวณบันได ชั้น 1 พบ ผู้เสียชีวิต เป็น ชาย 1 ราย ทราบชื่อ นายสิทธิพันธุ์ สุทธิกิติวรกุล อายุ 69 ปี ในจุดเกิดเหตุ พบ มีคราบเลือดทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่จึงปิดกั้นพื้นที่ จึงประสานหน่วยงานที่ข้องเข้าร่วมตรวจสอบ ส่วนชั้นบนที่ห้องนอน พบ ลูกชายของผู้เสียชีวิต ลักษณะเป็นเด็กพิเศษ ( ออทิสติก ) มีคราบเลือดติดตามตัว เบื้องต้นจากการตรวจสอบร่างผู้เสียชีวิตของเจ้าหน้าที่ พบ บาดแผลที่บริเวณหน้าผากจำนวน 4 แผล ที่บริเวณขมับขวา จำนวน 1 แผล และที่หลังศีรษะ จำนวน 2 แผล ซึ่งคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 24 ชั่วโมง ส่วนภายในบ้านพักนั้นไม่มีร่องรอยการรื้อค้น
จากการสอบถาม นายฐิติพันธุ์ สุทธิไมตรี อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู ทราบว่า รับแจ้งจากประธานหมู่บ้าน ติดต่อกับผู้เสียชีวิตไม่ได้ในบ้านที่นี้เลยแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบหน่อยพอมาถึงคนเต็มบ้านเลยแต่ก็ไม่มีใครเข้าตนก็เข้าไปชุดแรก แรกพบก็จังหวะเดินขึ้นบันไดตัว เจอผู้เสียชีวิตนอนในลักษณะหงายอยู่แล้วก็เลือดเต็มเลยแต่เลือดแห้งแล้วมีบาดแผลตรงหน้าผากกะโหลกด้านหน้าขนาดใหญ่เขาแจ้งมาว่าในบ้านหลังนี้มีลูกชายออทิสติกด้วยแต่ทีนี้เขายังไม่เห็นลูกชายเขาเลยอยากให้ตนขึ้นไปตรวจสอบตอนพยายามขึ้นไปชั้น 2 พอขึ้นไปก็เจอน้องผู้ชายนอนอยู่บนเตียงแต่ต่างคนก็ต่างกลัวกันตนก็พยายามดึงให้เขาออกจากที่เกิดเหตุก่อนให้ลงมาก่อนเพราะเขาลงมาเจอศพพ่อเขาก็พยายามจะดึงศพพ่อที่นี้ก็เลยรีบพาน้องออกมาก่อนเพราะกลัวจะไปทำลายพยานหลักฐานพอลงมาก็เอามาสงบสติอารมณ์บนรถ
ด้าน นางสาวปนัดดา จิรปรีชสกุล อายุ 62 ปี เพื่อนบ้าน ( เสื้อชมพู ) เล่าว่า ปกติลูกเขาจะเสียงดังประจำเราก็จะรู้ว่าเขาอยู่เผาวันศุกร์เขาเงียบเราก็เอ๊ะเขาไปไหนไม่ได้ยินเสียงเลยทำไมเงียบมันก็เลยเดินมาดูหน้าบ้านเขาแต่เห็นประตูปิดแต่ไม่ได้ล็อคเราก็ไม่ได้ว่าอะไรรอวันนี้ว่าถ้าเขาอยู่ก็ต้องได้ยินเสียงตนก็ไม่ได้ยินเสียงอีกก็เลยปรึกษากับพี่สาวว่าเอายังไงดีเราจะแจ้งใครดีพี่สาวตนเลยบอกว่าลองแจ้งญาติเขาก่อนไหมก็เลยเอาเบอร์จากพี่สาวโทรไปหาญาติเขา พอโทรไปหาเขาพี่รบกวนมาดูที่บ้านหน่อยได้ไหมไม่ได้ยินเสียงในบ้านเลยทำไมไม่มีเสียงธรรมดาจะมีเสียงดังถ้าพี่ไม่ว่างพี่ลองโทรเข้าเบอร์เขานะแต่ญาติจะติดต่อเขาได้ เผื่อจะไม่เป็นอะไร ทีนี้ญาติเขาบอกว่าลุงไม่ค่อยรับโทรศัพท์ ที่นี้ตนเลยบอกเขาว่าพี่หนูรบกวนหน่อยเถอะเพราะว่าไม่กล้าเข้าไปดูเหมือนกัน เป็นญาติเขาก็มาตนก็เลยบอกว่าพี่เข้าเลยนะบ้านไม่ได้ล็อคพี่ลองเข้าไปดูหน่อยพี่เขาก็เลยเดินเข้าไปแปบนึงแล้วเขาก็เดินออกมาบอกว่าช่วยเข้าไปดูหน่อยช่วยเข้าไปดูเป็นเพื่อนหน่อยตนกลัวก็เลยบอกไปว่าไม่เป็นไรพี่เดี๋ยวไปตามเพื่อนบ้านให้ ตนก็เลยไปตามเพื่อนบ้านพี่เร็วๆไปดูให้เขาหน่อยเพราะญาติเขามาแล้วจะได้เข้าไปช่วยกัน เจอตัวครั้งสุดท้ายคืนอาทิตย์ที่แล้ว ก็เห็นแกไปซื้อกับข้าวให้ลูกชาย ก็เงียบไปตั้งแต่วันศุกร์ ปกติ 04.00 น ก็จะได้ยินเสียงแล้วตอนถามคำถามนี้ปกติก็จะได้ยินเสียงเหมือนกันเพราะน้องเขาจะเสียงดังเสียงโวยวายคุยกับพ่อแต่คุยไม่เป็นภาษา ขอดูแลลูกเขาดีมาก เขาอยู่กับลูก 2 คนตั้งแต่เรียนประถมส่งลูกไปโรงเรียนตอนเช้า
ส่วน นายชาตรี แก่นภูเลิศ อายุ 52 ปี กรรมการหมู่บ้าน เล่าว่า ผู้ตายชอบมาตามตนให้ดูเรื่องไฟดับที่บ้านบ่อยๆ แต่นานๆทีจะมีปัญหา เพื่อนข้างบ้านผู้ตายบอกว่าเขาเงียบไป2 วันแล้วปกติลูกเขาจะเสียงดัง เขาเลยบอกตนให้ช่วยเข้าไปดูในบ้านหน่อยเพราะตนเป็นกรรมการหมู่บ้าน พอมาถึงบ้านก็เงียบ ปกติแกจะล็อกบ้านประจำ แต่ครั้งนี้แกไม่ล็อกบ้านมา 2 วันแล้ว บ้านก็เงียบ ตอนตนเข้าไป เข้าไปกัน 2 คน ตนเดินไปเปิดไฟ ตอนแรกคิดว่าผู้ตายตกบันได แต่พอเข้าไปเห็นเลือดเต็มพื้นตอนนั้นตนยังไม่เห็นลูกชายของผู้ตาย เพราะในบ้านเงียบมาก ตนคิดว่าตัวลูกชายน่าจะอยู่ข้างบน หลังจากนั้นตนก็ถอนออกมา ไม่ได้ขึ้นไปและโทรแจ้ง 1669 รอสักพักเจ้าหน้าที่ก็มา แล้วขึ้นไป พาตัวลูกชายเขาลงมา ผู้ตายอยู่ที่นี่มา 30-40 ปีแล้ว ตั้งแต่ลูกชายเขาตัวเล็กๆ ปกติเขาก็ออกมาซื้อข้าวทุกวัน ปกติเขาก็เสียงดังประจำ จนเพื่อนบ้านเห็นเป็นเรื่องปกติ แต่วันเกิดเหตุเสียงเงียบไป ลูกชายเขาป่วนเป็นออทิสติก เขาอยู่กัน 2คนพ่อลูก แต่ก่อนลุงแกแข็งแรงดี แต่หลังๆมาแกผอมลง ลูกชายก็โตขึ้นเรื่อยๆ ตนไม่เห็นลุงมา 2 วัน คนข้างบ้านเขาสงสัยเพราะไม่มีเสียง ก็เลยไปตามตนให้มาดู ตอนแรกญาติเขามาแล้วแต่ไม่กล้าเข้าไปดู. จึงตามตนให้มาช่วยดู
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สรุปสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง โดยต้องส่งร่างให้นิติเวชโรงพยาบาลรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร์ สมุทรปราการ ชันสูตรสาเหตุการตายอย่างแท้จริง โดยทางเจ้าหน้าที่ยังไม่มีตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่งทิ้ง ทั้งโดนทำร้าย หรือ พลัดตกลงมาเอง