อยุธยา-สกร.ฯจัดมหกรรมวิชาการส่งเสริมการมีรายได้ระหว่างเรียน จบแล้วมีงานทำ
ภาพ-ข่าว นราเอก ตันศิริ / นพดล บำเพ็ญสัตย์
สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จัดมหกรรมวิชาการส่งเสริมการมีรายได้ระหว่างเรียน จบแล้วมีงานทำ (Learn to Earn)
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 26 กันยายา 2567 ที่ The Hall เซ็นทรัลอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดงานมหกรรมวิชาการส่งเสริมการมีรายได้ระหว่างเรียน จบแล้วมีงานทำ (Learn to Earn) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โดยมี นางรัชนุช สละโวหาร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นผู้กล่าวรายงาน พร้อมด้วย ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ภาค 1 ศึกษาธิการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประธานคณะกรรมการประสานและส่งเสริมการศึกษาเอกชนจังหวัด ผู้บัญชาการเรือนจำกลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สำนักงานยุติธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้อำนวยการทัณฑสถานบำบัดพิเศษพระนครศรีอยุธยา พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ศูนย์พัฒนาการสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุวายุวาสนะเวศน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนอยุธยาวิทยาลัย ผู้เเทนอธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) และ สถานศึกษาในสังกัดสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยาทั้ง 16 อำเภอเข้าร่วมงาน
นางรัชนุช สละโวหาร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้กำหนดโครงการมหกรรมวิชาการส่งเสริมการมีรายได้ระหว่างเรียน จบแล้วมีงานทำ (Learn to Earn) ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในห้วงเดือนกันยายน 2567 เพื่อเป็นการเสริมสร้างทักษะใหม่ (New Skill) เพิ่มสมรรถนะ (Up Skill) หรือทบทวนทักษะ (Re Skill) ให้แก่ผู้เรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปมีความพร้อมในการเข้าสู่อาชีพ จบแล้วมีงานทำพร้อมทั้งเป็นการเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงาน และส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดช่องทางจำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้าจากโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชนตามนโยบายทางการศึกษา เรื่อง ส่งเสริม การมีรายได้ระหว่างเรียน จบแล้วมีงาน(Learn to Earn)
การจัดมหกรรมวิชาการในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจาก วิทยากรจากทุกตำบลมาให้ควานรู้แก่ผู้เรียน นักศึกษาและประชาชนทั่วไป จำนวน 135 หลักสูตร แบ่งเป็น หลักสูตรเกี่ยวกับอาหาร จำนวน 93 หลักสูตร หลักสูตร เกี่ยวกับศิลปประดิษฐ์และหัตถกรรม จำนวน 52 หลักสูตร และหลักสูตรเกี่ยวกับตัดผม เสริมสายจำนวน 2 หลักสูตร โดยจัดในภาคเช้า จำนวน 69 หลักสูตร และจัดในภาคบ่าย จำนวน 66 หลักสูตร
ทางด้าน นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมการฝึกอาชีพให้กับนักศึกษาและประชาชนทั่วไป ที่ต้องการเข้าสู่อาชีพใหม่ เพิ่มโอกาศพัฒนาต่อยอดอาชีพเดิม ให้มีรายได้ เพิ่มพูนความรู้ ความสามารถและความถนัดของตนรวมทั้ง เพื่อเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ และสนับสนุนให้เกิดช่องทาง การจำหน่ายสินค้า ที่เกิดจากโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน ตามนโยบายทางการศึกษา ส่งเสริมการมีรายได้ระหว่างเรียน จบแล้วมีงาน (Learn to Earn) ซึ่งโครงการนี้จะช่วยส่งเสริมการพัฒนาอาชีพ ให้กับนักศึกษาและประชาช
ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมทั้ง เสริมสร้างความมั่นคงด้านอาชีพ และราคาอันจะนำไปสู่ การมีคุณภาพชีวิตที่ที่ดีขึ้น ของนักศึกษาและประชาชนใต้อย่างแท้จริง