ประจวบคีรีขันธ์-ชาวบ้านนัดรวมตัวร้องให้สอบวินัยผู้ใหญ่ฯทำตัวเป็นนายหน้าค้าที่ดินให้นายทุนรุกตัดไม้ป่าสงวน
ภาพ-ข่าว:พิสิษฐ์ รื่นเกษม
วันที่ 25 ก.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณด้านหน้าอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ กลุ่มตัวแทนชาวบ้านหนองไม้แก่น หลายรายรวมตัวพร้อมชูป้ายให้ถอดถอนผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่รายหนึ่ง โดยมีข้อความขอให้ตรวจสอบวินัยผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าว อ้างว่าไม่สนใจความเดือดร้อนของชาวบ้าน ชอบหาผลประโยชน์เพื่อตนเองรับใช้นายทุน โดยชาวบ้านต้องการผู้ใหญ่บ้านที่อยู่เคียงข้างประชาชนและดูแลชาวบ้านอย่างใกล้ชิด
ขณะที่ตัวแทนกลุ่มชาวบ้านทั้งหมดพากันเดินขึ้นไปบนชั้นสองของอำเภอเพื่อเข้าพบปลัดอำเภอ ก่อนเจ้าหน้าที่จะนำกลุ่มชาวบ้านไปที่ห้องประชุมเพื่อรอให้ข้อมูลเพิ่มเติมนายสุวิทย์ อินกงลาด ปลัดอาวุโสอำเภอเมืองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ปลัดอาวุโสอำเภอเมือง โดยก่อนจะมีการพูดคุยทางปลัดอำเภอขอให้กลุ่มตัวแทนชาวบ้านทั้งหมดได้ทำความเข้าใจเพื่อให้ผู้ร้องให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่เป็นประโยชน์ต่อการสอบสวน เนื่องจากต้องให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ขณะที่ปลัดอำเภอขอให้ผู้ร้องและตัวแทนชาวบ้านอธิบายถึงเรื่องร้องเรียนดังกล่าวก่อนที่จะมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงต่อผู้ใหญ่บ้านผู้ถูกร้องคนดังกล่าวเสียก่อน
ด้านนายกิตติ นามบุญลือ ตัวแทนกลุ่มชาวบ้านให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า สืบเนื่องจากตัวแทนชาวบ้าน ได้ไปร้องเรียนให้ตรวจสอบวินัยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 7 บ้านหนองไม้แก่น ต.เกาะหลัก รายหนึ่งไว้ที่ศูนย์ดำรงธรรมศาลากลางจังหวัดฯ ต่อมามีหนังสือจากอำเภอเมืองประจวบฯลงวันที่ 19 ก.ย.67 ขอให้ผู้ร้องเข้าให้ถ้อยคำเพิ่มเติมที่อำเภอเมืองประจวบฯในวันที่ 24 ก.ย. กลุ่มตัวแทนชาวบ้านทั้งหมดจึงเดินทางมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมยื่นเอกสารเพิ่มให้ตรวจสอบโครงการต่าง ๆ ของรัฐในหมู่ 7 ที่มีการหมกเม็ดไม่ถูกต้องตามขั้นตอนอีกหลายเรื่องให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงหากพบว่ามีการทุจริตให้ดำเนินการในทางปกครองต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า ระหว่างรอให้ถ้อยคำในห้องประชุมปลัดอำเภอเมืองให้แกนนำตัวแทนกลุ่มชาวบ้านมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมกรณีร้องผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวโดยมีนายสนั่น เซ็งเฮง ผู้ร้องรายหนึ่งขอให้ตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยกับผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 7 เนื่องจากชอบทำตัวเป็นนายหน้าติดต่อซื้อที่ดินของชาวบ้านให้นายทุน ใช้อิทธิพลข่มขู่ชาวบ้านที่ไม่ต้องการขายที่ดินให้ ทั้งยังเข้าไปตัดไม้ทำลายป่าในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติกุยบุรี รวมถึงให้ตรวจสอบโครงการต่าง ๆ ของรัฐในหมู่ 7 หากพบมีการทุจริตขอให้ดำเนินการในทางปกครองขั้นเด็ดขาด นายสนั่นกล่าวในห้องประชุม