ราชบุรี-นายจ้าง-ลูกจ้าง ชี้ “พิธา” ขึ้นค่าแรงไม่ได้ช่วย กับมีผลกระทบมากขึ้น

ราชบุรี-นายจ้าง-ลูกจ้าง ชี้ “พิธา” ขึ้นค่าแรงไม่ได้ช่วย กับมีผลกระทบมากขึ้น

ภาพ-ข่าว:สุจินต์ นฤภัย(เต้) 

            หลัง “พิธา” ยันเร่งเดินหน้ารื่องขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาท พร้อมรับฟังทั้งลูกจ้างและผู้ประกอบการ เรื่องค่าแรง 450 บาทของพรรคก้าวไกล ชี้ผ่านมาประเทศไทยไม่ได้มีการขึ้นค่าแรงบ่อยครั้ง นับตั้งแต่สมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จึงอาศัยการคำนวนค่าเงินเฟ้อ และอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ รวมถึงประสิทธิภาพของแรงงานที่เพิ่มขึ้นจำนวนค่าแรงควรอยู่ที่ประมาณ 425-440 บาทต่อวัน พรรคก้าวไกลจึงได้เสนอ 450 บาท ควบคู่กับมาตรการดูแลผู้ประกอบการไปด้วย “ยืนยันไม่ได้ขึ้นค่าแรงตามใจตัวเอง ขึ้นแบบมีหลักการ หลักสากล ตอนนี้ยังมีเวลาก่อนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับรอง ดังนั้นในเวลา 2 เดือนนี้ ผมจึงต้องเดินสายทำงานให้รอบคอบ” นายพิธากล่าว
            ล่าสุดทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังผู้ประกอบการ อิมปานิผ้าขาวม้า ในเขตเทศบาลเมืองราชบุรี ซึ่งเป็นผู้ประกอบการผลิตผ้าขาวม้าแบบครบวงจร รายใหญ่ของจังหวัดราชบุรี เพื่อสอบถามความเห็นกับผู้ประกอบ และลูกจ้างพนักงาน ว่ามีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับค่าแรง 450 บาท ของพรรคก้าวไกล นายเอกสิทธิ์ โกมลกิตติพงศ์ เจ้าของอิมปานิผ้าขาวม้า เปิดเผยว่า ถ้าคุณพิธาขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็นวันละ 450 บาท แล้วจะมีการลดภาษีให้ผู้ประกอบการนั้น ความคิดเห็นของตนมองว่า คงจะไม่ได้ช่วยอะไรมาก อาจมีผลดีต่อสถานประกอบการในรายใหญ่ๆมากกว่า
            ส่วนผู้ประกอบการกลุ่ม SME ขนาดกลางและเล็ก คงจะไม่ได้ช่วยอะไรมาก เพราะไม่มีต้นทุนสำรองในการดำเนินงานมาก ทำให้ต้องใช้เงินหมุนเวียนในธุรกิจตลอดเวลา และถ้าต้องจ่ายค่าแรงเพิ่มขึ้นทำให้ต้องมีต้นทุนเพิ่มขึ้นตามเป็นธรรมดา แล้วการลดภาษีอาจจะไม่ได้ช่วยอะไรตรงนี้เลย ยิ่งตอนนี้มีภาคธุรกิจจากชาวจีน เข้ามาตีตลาดในไทยเพิ่มมากขึ้น ยิ่งทำให้การแข่งขันสูงตาม ผู้ประกอบธุรกิจชาวไทยอาจจะต้องปิดตัวลงไปเรื่อยๆเพราะสู้กับธุรกิจจีนไม่ไหว
           ตนอยากฝากถึงคุณพิธาว่าอยากให้ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศให้เร็วที่สุด และช่วยสนับสนุนผลักดันธุรกิจสินค้าท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ในแต่ละพื้นที่ ให้ออกสู่สายตาโลก เพื่อจะได้เป็นการเพิ่มทําค่า ที่ประเทศไกนๆไม่สามารถทำลอกเลียนแบบได้ และที่สำคัญคุณพิธาไม่จำเป็นต้องขึ้นค่าแรงขั้นต่ำหรอก แค่เพียงลดราคาน้ำมันกับแก้ปัญหาค่าไฟเท่านี้ ทุกอย่างก็จะกลับมาดีขึ้นแน่นอน
            ด้าน นางพิชญ์นันท์ หรือ ป้าเง็ก ตั้งชยนนท์ อายุ 54 ปี พนักงานแผนกตัดเย็บเปิดใจว่า ถ้ามีการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็นวันละ 450 บาทจริง เธอคงตกงานแน่นอน เพราะนายจ้างคงจะต้องเลือกเด็กรุ่นใหม่ที่มีไอคิวที่ดีกว่า สามารถทำงานให้คุ้มค่ากับค่าจ้างมาแทนเธอ หรือลดพนักงานออก ตอนนี้รู้สึกวิตกกังวลมาก เพราะถ้าเธอตกงานในวัย 54 ปี ก็ไม่รู้จะไปหางานที่ไหนทำ ซึ่งภาระค่าใช้จ่ายของครอบครัวก็เยอะมาก ทุกวันนี้ยังใช้กินเดือนต่อเดือน อยากฝากถึงคุณพิธาว่าอยากให้ช่วยลดค่าครองชีพในแต่ละวันด้วย ไม่ว่าจะค่าน้ำมัน ค่าไฟ จะดีกว่า เพิ่มเงินค่าแรง เพราะถ้าเพิ่มค่าแรง เดี๋ยวค่าข้าว ค่าอาหาร น้ำมันพืช ไข่ ต้องขึ้นตามแน่นอน เพราะฉะนั้นมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรอยู่ดี

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!