ประจวบคีรีขันธ์-พบซากช้างป่าละอูตายขึ้นอืดคาลำห้วย..ผ่าพบหัวกระสุนหลายชิ้น

ประจวบคีรีขันธ์-พบซากช้างป่าละอูตายขึ้นอืดคาลำห้วย..ผ่าพบหัวกระสุนหลายชิ้น

ภาพ-ข่าว:กูลเสวก เสวกวรรณกร

            เมื่อวันที่ 4 ม.ย.66 นายประธาน สังวรณ์ ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (สบอ.3)สาขาเพชรบุรี ได้รับรายงานจาก นายสมเจตน์ จันทนา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ว่า เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่ศูนย์เฝ้าระวังช้างป่า และชุดลาดตระเวนผลักดันช้างป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน, เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง, เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านหนองพลับ, ทหารชุดเฉพาะกิจจงอางศึก, ตำรวจพลร่ม (ด่านตรวจพุไทร), ตำรวจตระเวนชายแดน ชุด 1454 และ เจ้าหน้าที่สมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า (wcs) ประเทศไทย เข้าพื้นที่ตรวจสอบ
             หลังได้รับแจ้งจากนายโรม ยิ้มรอด ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 10 บ้านหนองสะแก ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ว่า พบซากช้างป่าเสียชีวิตอยู่บริเวณค่าพิกัดดาวเทียม ระบบ (WGS84) UTM 47 P 0564612 E 1379094 N ในบริเวณท้องที่หมู่ที่ 10 บ้านหนองสะแก ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน อยู่นอกเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
             จากการตรวจสอบพบว่าเป็นช้างป่าตัวโตเต็มวัย ไม่ทราบเพศ (ไม่มีงา) นอนตายอยู่ในบริเวณลำห้วยส่งกลิ่นเหม็นฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณโดยรอบ สภาพขึ้นอืด คาดว่าตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 วัน คณะเจ้าหน้าที่ได้ประสานกับคณะสัตวแพทย์ เพื่อมาผ่าพิสูจน์ซากหาสาเหตุการตายของช้างป่าตัวนี้ พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ได้ตรวจสอบโดยใช้เครื่องสแกนโลหะ สแกนบริเวณลำตัวซากช้างป่าเพื่อตรวจหาวัตถุโลหะ ก่อนให้นายสัตวแพทย์อนุรักษ์ สกุลพงษ์ สัตวแพทย์ประจำศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 3 (ประทับช้าง) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยทราย และชุดกู้ภัยอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ผ่าชันสูตรซากช้างป่า
            พบวัตถุคล้ายกระสุนปืนบริเวณสะโพกซ้าย จำนวน 2 ชิ้น, บริเวณกลางลำตัวด้านซ้าย จำนวน 3 ชิ้น และบริเวณหน้าอกด้านล่างซ้าย จำนวน 2 ชิ้น ซึ่งนายสัตวแพทย์ได้ทำการเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้ออวัยวะภายใน นำส่งไปยังห้องปฏิบัติการฯ เพื่อตรวจหาสารพิษและโรคหรือสาเหตุการตายของช้างป่าตัวดังกล่าวนี้ และต้องรอผลยืนยันการตรวจอย่างละเอียด ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือนจึงจะทราบผล ก่อนเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการทำลายซากใช้รถแบคโฮทำการขุดฝังกลบซากช้าง พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ และโรยปูนขาวรอบๆตามหลักวิชาการเป็นที่เรียบร้อย ก่อนนำหลักฐานเข้าแจ้งความ สภ.บ้านหนองพลับ เพื่อหาตัวคนยิงช้างมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!