ร้อยเอ็ด-ผู้ว่าฯร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาจังหวัด ผ่านกลไก กรอ.” เตรียมพัฒนาศักยภาพสนามบิน สู่การเป็นท่าอากาศยานศุลกากร

ภาพ-ข่าว:คมกฤช พวงศรีเคน

           วันที่ 22 มีนาคม 2566 เวลา 13.30 น. นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดร้อยเอ็ด (กรอ.จังหวัด) ครั้งที่ 2/2566 โดยมี นายชูศักดิ์ ราชบุรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด ,หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอทุกอำเภอ หอการค้าจังหวัดร้อยเอ็ด ผู้แทนภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ห้องประชุมพระมหาเจดีย์ชัยมงคล ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด
              โดยที่ประชุม ได้มีการรายงานสภาวะเศษฐกิจการคลังจังหวัดร้อยเอ็ด ความเคลื่อนไหวของดัชนีราคาผู้บริโภคของจังหวัดร้อยเอ็ด ทิศทางและโอกาสการพัฒนาที่สะท้อนจากตัวเลขด้านเศษฐกิจในจังหวัด รวมถึงการขอความเห็นชอบยกระดับการให้บริการของสนามบินร้อยเอ็ดเป็นท่าอากาศยานศุลกากร รวมถึงพิจารณาการขับเคลื่อนจังหวัดร้อยเอ็ดสู่การเป็นเมืองศิลปวัฒนธรรมและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ การขอความเห็นขอบในการนำเสนองานประเพณีสำคัญของจังหวัดร้อยเอ็ดเป็นงานประเพณีในปฏิทินของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โครงการ “มหกรรมสินค้าผู้บริโภค พบผู้บริโภค จังหวัดร้อยเอ็ด”
             ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า กลไกคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ หรือ “กรอ.” เป็นกลไกที่มีความสำคัญในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจในระดับพื้นที่ ซึ่งจังหวัดร้อยเอ็ดในฐานะภาคราชการต้องอาศัยพลังความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายต่าง ๆ ทั้ง 7 ภาคีเครือข่าย อันประกอบด้วย ภาคราชการ ภาคธุรกิจเอกชน ภาควิชาการ ภาคผู้นำศาสนา และภาคประชาสังคม และภาคสื่อมวลชน จังหวัดร้อยเอ็ดได้ให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนงานแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจผ่านกลไก กรอ. เพื่อประสานพลังผู้นำทางสังคมทั้งภาครัฐและภาคเอกชนจับมือร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทั้งเศรษฐกิจมหภาค และเศรษฐกิจฐานรากของจังหวัด ด้วยการจัดการประชุมและเข้าร่วมการประชุม กรอ. อย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 2 เดือน/ครั้ง
             ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวต่อว่า สำหรับการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดร้อยเอ็ด (กรอ.จังหวัด) ครั้งที่ 2/2566 ในวันนี้มีหัวข้อสำคัญในการพิจารณาให้ความเห็นชอบการเตรียมความพร้อม ท่าอากาศยานร้อยเอ็ด กรมท่าอากาศยาน เพื่อยกระดับเป็นท่าอากาศยานศุลกากร ทั้งนี้ ในปี 2566-2567 มีการดำเนินการพัฒนาท่าอากาศยานอย่างต่อเนื่อง เช่น การก่อสร้างต่อเติมอาคารผู้โดยสารจากเดอมสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 150 คนต่อชั่วโมง เพิ่มเป็น 450 คนต่อชั่วโมง การก่อสร้างลานจอดรถยนต์ และปรับปรุงกายภาพท่าอากาศยาน การออกแบบรายละเอียดการต่อเติมความยาวทางวิ่ง เป็นต้น
                ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยศักยภาพท่าอากาศยานร้อยเอ็ด ซึ่งมีพื้นที่ให้บริการ ได้แก่ จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดยโสธร และ จังหวัดมุกดาหาร จังหวัดร้อยเอ็ด โดยความร่วมมือจากภาครัฐและเอกชน จึงได้มีแผนในการยกระดับท่าอากาศยานร้อยเอ็ด ให้เป็นท่าอากาศยานศุลกากร โดยมุ่งหวังให้เป็นศูนย์กลางการขนส่งระบบโลจิสติกส์ ได้แก่ การขนส่ง ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงแต่มีน้ำหนักเบา เนื่องจากในปัจจุบันการขนส่งสินค้าต้องนำไปผ่านด่านศุลกากร จากจังหวัดอื่นทำให้ต้นทุนในการขนส่งสูง ดังนั้นการประกาศจัดตั้งสนามบินร้อยเอ็ดเป็นท่าอากาศยานศุลกากร จะช่วยลดต้นทุนในการขนส่งสินค้าที่ส่งออกไปยังต่างประเทศได้ นอกจากนี้ในแง่ของการท่องเที่ยว ด้วยศักยภาพของจังหวัดร้อยเอ็ดในฐานะเมืองรองด้านการท่องเที่ยว ที่ปัจจุบันนักท่องได้ให้ความสนใจเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก การพัฒนาศักยภาพของสนามบินร้อยเอ็ดให้เป็นสนามบินศุลกากร เพื่อเป็นการรองรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยว โดยบินเช่า เหมาลำจากต่างประเทศตรง สู่จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดร้อยเอ็ดให้มีการกระจาย รายได้ไปสู่ประชาชนอย่างทั่วถึง ทั้งนี้ทุกภาคส่วนของจังหวัดจึงร่วมมือกันผลักดันการพัฒนาดังกล่าว และจะได้มีการนำเสนอแผนในการพัฒนาท่าอากาศยานร้อยเอ็ด ต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป