ราชบุรี-2 ผัวเมียกอดกันดับคาเตียง ญาติคาดคิดสั้นเพราะเครียดสะสม

ราชบุรี-2 ผัวเมียกอดกันดับคาเตียง ญาติคาดคิดสั้นเพราะเครียดสะสม

ภาพ-ข่าว:สุจินต์ นฤภัย(เต้)

              เมื่อเวลา 16.50 น. วันที่ 8 มี.ค.66 ร.ต.อ.อุเทน อำนวย รอง สว.(สอบสวน) สภ.บ้านคา จ.ราชบุรี ได้รับแจ้งเหตุพบผู้เสียเสียชีวิต 2 รายภายในห้องนอน บ้านเลขที่ 68/2 หมู่ 7 ต.บ้านคา อ.บ้านคา จ.ราชบุรี หลังรับแจ้งเหตุจึงรายงานให้ พล.ต.ต.วชิรพงษ์ อมราพิทักษ์ ผบก.ภ.จว.ราชบุรี พร้อม พ.ต.อ.นฤดม มารศรี รองผบก.ภ.จว.ราชบุรี และ พ.ต.อ.ภัทรพล วัจนสุนทร รรท.ผกก.สภ.บ้านคา ให้รับทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมจนท.ชุดสืบสวน ภ.จว.ราชบุรี, จนท.ชุดสืบสวนสภ.บ้านคา, จนท.สูตรหลักฐาน ภ.จว.ราชบุรี, แพทย์เวรรพ.บ้านคา และจนท.มูลนิธิปฐมบรมราชานุสรณ์ ราชบุรี
             ที่เกิดเหตุพบเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ภายในห้องนอนห้องที่ 2 บนเตียงนอน พบศพผู้เสียชีวิต 2 ราย คือนายยงยุทธ หรือ นายเอก ม่วงไหม อายุ 48 ปี ชาวบ้านหมู่ 1 ต.ป่าหวาย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี สภาพศพใส่เสื้อยืดแขนสั้นสีแดง สวมกางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน นอนหงายหน้ามีเลือดออกปาก, จมูก และหู ที่ลำคอมีรอยคล้ายถูกเชือดรัดคอ ส่วนตามร่างกายไม่พบบาดแผลจากการถูกทำร้าย โดยข้างตัวผู้เสียชีวิตยังพบศพ น.ส.จรรยา หรือ น.ส.ขจี พูลมาเอง อายุ 55 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 7 ต.บ้านคา อ.บ้านคา จ.ราชบุรี สภาพศพใส่เสื้อยืดสีดำ ใส่สวมกางเกงผ้ายืดลายทหาร โดยเสียชีวิตกอดศพของ นายเอก อยู่บนเตียงที่นอน ส่วนตามร่างกายไม่พบบาดแผลจากการถูกทำร้ายเช่นเดียวกัน ซึ่งจากการตรวจสอบพบทั้งคู่เป็นสามีภรรยากัน อยู่อาศัยในบ้านหลังดังกล่าวเพียงสองคน โดยเลี้ยงสุนัขไว้ 4 ตัว ส่วนลูกสาวที่ทำงานอยู่ต่างจังหวัด นานๆทีจะกลับมาพักที่บ้าน
             จากการตรวจสอบภายในห้องนอน ยังพบฝ้าเพดานถูกเปิดออก และพบเชือกไนลอนผูกติดกับขื่อเหล็กหลังคา ที่พื้นยังพบเชือกไนลอนถูกตัดขาดตกอยู่ที่พื้นห้อง โดยแอร์ถูกเปิดทิ้งไว้จนห้องเย็นฉ่ำ ในห้องยังมีกลิ่นเหม็นคล้ายยาฆ่าแมลงฟุ้งไปทั่วห้องนอน ส่วนทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตอยู่ครบและไม่พบการรื้อค้นทรัพย์สิน ส่วนที่บริเวณโต๊ะหน้าห้องนอน ยังพบขวดเหล้าขาวขวดเล็ก จำนวน 3 ขวด และพบแก้วน้ำมีกลิ่นคล้ายยาฆ่าแมลง ใกล้กันยังพบซองยาฆ่าแมลง 1 ซอง พร้อมจานใส่อาหารที่ทานแล้ว 2 ใบ โดยทั้งคู่คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 วัน ส่วนที่โรงจอดรถยังพบรถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ห้อเชฟโรเลต ทะเบียน กธ 3756 ราชบุรี ซึ่งเป็นรถของฝ่ายสามีจอดอยู่ โดยภายในรถทรัพย์สินยังอยู่ครบ และไม่มีร่องรอยการรื้อค้น
             จากการสอบสวน น.ส.พชร สุขผล อายุ 33 ปี หลานสาวผู้เสียชีวิตและเป็นผู้พบศพคนแรก เล่าว่า เวลาประมาณ 16.00น. ของวันนี้ (8 ก.พ.) แม่ของเธอให้มาเรียกน้าสาว ว่าทำไมไม่เห็นออกจากบ้าน และลูกสาวที่อยู่ต่างจังหวัดโทรติดต่อไม่ได้ ซึ่งปกติน้าสาวและน้าเขยจะต้องออกมาซื้อของ หรือใส่บาตรพระทุกเช้า ซึ่งเมื่อเธอมาถึงหน้าบ้านน้าสาว พบเจ้าชงโค ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่สุนัขที่น้าสาวของเธอเลี้ยงไว้เฝ้าอยู่หน้าบ้าน เธอจึงได้ตะโกนเรียกแต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ ส่วนบ้านปิดประตูหน้าต่างหมด แต่เครื่องปรับอากาศทำงานอยู่ เธอจึงเปิดประตูเข้าไปภายในบ้าน ซึ่งมืดสนิทเพราะปิดไฟทั้งหมด
             เธอจึงเดินไปที่ห้องนอนของน้าสาว เมื่อเปิดประตูก็ได้กลิ่นเหมือนยาฆ่าแมลงพุ่งไปทั่วห้องนอน เมื่อเธอเปิดไฟเห็นขาของน้าสาวและน้าเขย จึงเรียกชื่อของทั้งคู่อีกครั้ง แต่ก็ยังไม่มีเสียงตอบรับ จนเมื่อเธอเห็นเลือดออกจากปากของน้าเขย เธอจึงคิดว่าทั้งคู่เสียชีวิต จึงรีบวิ่งออกมาจากบ้าน และรีบโทรแจ้งจนท.ตำรวจให้มาตรวจสอบ ซึ่งที่ผ่านมาทั้งคู่เป็นสามีภรรยาที่ไม่ค่อยมีปัญหาทะเลาะกัน และเป็นคนที่อัธยาศัยดี ชอบทำบุญทำทาน ส่วนปัญหาด้านอื่นเธอไม่รู้ เพราะทั้งคู่เป็นคนเงียบๆไม่เคยเล่าปัญหาอะไรให้ฟัง แต่ทั้งคู่อาจมีความเครียดสะสมก็เป็นได้
             ขณะที่ นายปลิว นิลอร่าม อายุ 72 ปี อดีตผญบ.บอกว่า ปกติ 2 ผัวเมียคู่นี้ จะไม่ค่อยมีเรื่องทะเลาะกันและรักกันดี ฝ่ายสามีจะทำงานเป็นคนขับรถส่งสินค้าประเภทผลไม้ ให้กับบริษัทแห่งหนึ่งในอำเภอ ส่วนภรรยาก็จะขายผัก ทั้งคู่จะเป็นอารมณ์ดี ยิ้มแย้ม และเป็นที่รักของเพื่อนบ้าน พอมารู้ข่าวรู้สึกตกใจและคิดไม่ถึงว่าจะมาตายพร้อมกันแบบนี้ ซึ่งตนก็ไม่รู้สาเหตุเกิดจากอะไร แต่ได้ยินเพื่อนร่วมงานของฝ่ายสามีเล่าให้ฟังว่า เมื่อวานช่วงเวลาบ่ายสองโมง นายเอก ได้โทรไปหาเพื่อนให้ช่วยทำงานแทนที ก่อนจะติดต่อไม่ได้อีก
             ด้าน พ.ต.อ.ภัทรพล วัจนสุนทร รรท.ผกก.สภ.บ้านคา กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า รอบบริเวณบ้านไม่พบร่องรอยของการงัดแงะ รื้อค้น หรือร่องรอยการต่อสู้บนร่างผู้เสียชีวิต แต่พบเชือก ขวดเหล้าขาว และซองยาฆ่าแมลง ซึ่งทุกอย่างจะต้องรอจนท.พิสูจน์หลักฐาน เข้ามาเก็บหลักฐานทั้งหมด ไปตรวจสอบอย่างละเอียด พร้อมจะต้องนำร่างผู้เสียชีวิต ไปผ่าพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกด้วย

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!