ประจวบคีรีขันธ์-อดีตนายอำเภอร้องสื่อหน่วยงานรัฐเกียร์ว่างนาน 24 ปี ปล่อยนายทุนออกโฉนดทับลำห้วยจนปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก..!!

ประจวบคีรีขันธ์-อดีตนายอำเภอร้องสื่อหน่วยงานรัฐเกียร์ว่างนาน 24 ปี ปล่อยนายทุนออกโฉนดทับลำห้วยจนปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก..!!

ภาพ/ข่าว: เอกภพ วงษ์ประเสริฐ

            วันที่ 2 มีนาคม 66 นายกฤษดา ตันธีรธรรม อายุ 73 ปี อดีตนายอำเภอกันตัง จ.ตรัง ชาว อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยนายสมพร ปานแดง สมาชิก อบต. หมู่ 10 ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ร้องเรียนผู้สื่อข่าว ขอให้ตรวจสอบปัญหาการบุกรุกลำห้วยสาธารณะร่องทศกัณฑ์ในพื้นที่ อบต .เกาะหลัก รอยต่อเขตเทศบาลเมืองประจวบฯ เนื่องจากบ้านพักที่อาศัยในปัจจุบันที่หมู่ 10 บ้านดอนเหียงติดเขตเทศบาลเมืองฯมีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากหลายครั้ง แต่ละครั้งมีน้ำท่วมขังรอการระบายนานหลายวัน ประชาชนจำนวนมากมีผลกระทบ เนื่องจากมีการออกเอกสารสิทธิ์ทับลำห้วย และล่าสุดทราบว่าจะมีการปรับสภาพพื้นที่ในบึงขนาดใหญ่ด้านหลังห้างโกลบอลเฮาส์ จึงมีการคัดค้านขอให้เทศบาลดูข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้รอบคอบเกรงว่าน้ำป่าที่ไหลมาจากเทือกเขาตะนาวศรีจะไม่มีทางระบายลงทะเล จึงขอให้นายอำเภอเมืองฯ นายกเทศบาลเมือง นายก อบต. เกาะหลัก ที่มีอำนาจหน้าที่ดูแลที่ดินสาธารณะประโยชน์หรือลำห้วย ให้ความสนใจในการทำหน้าที่ตามกฎหมาย
            นายกฤษดา กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนเคยทำหน้าที่สอบสวนข้อเท็จจริงการออกโฉนดทับลำห้วยตั้งแต่ปี 2542 ขณะที่เป็นปลัดอำเภอเมืองประจวบฯ มีผลสรุปชัดเจนจากแผนที่ทหาร 1: 50000 มีการกำหนดเส้นทางของลำห้วยที่มีการออกโฉนดตั้งแต่ถนนเพชรเกษม ถึงด้านข้างโรงเรียนบ้านค่าย ถนนประจวบคีรีขันธ์ พบว่าบางจุดมีการออกโฉนดกลางลำห้วย จากนั้นนายทุนได้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์โดยมอบที่ดินสาธารณะเป็นถนนซอยประจวบคีรีขันธ์ 8 ทั้งนี้จากการตรวจสอบรายงานการประชุมของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดิน (กบร.จังหวัด) เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2559 ที่ประชุมมีมติให้ส่งปัญหาการออกเอกสารสิทธิ์รุกลำห้วยไปอ่านแปลภาพทางอากาศ กบร.กลาง ขณะนี้ผ่านไป 7 ปี ไม่ทราบว่ามีผลการแปลภาพถ่ายจริงหรือไม่

             ล่าสุดจึงนำเอกสารหลักฐานไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด และเข้าพบกับปลัดจังหวัดเพื่อนำเอกสารหลักฐานจากการตรวจสอบตั้งแต่ปี 2542 ไปให้พิจาณา ต่อมาจึงมีคำสั่งให้นิติกรปกครองจังหวัด ปลัดอำเภอเมือง ปลัดเทศบาลเมืองประจวบฯ หัวหน้าฝ่ายรังวัดที่ดินจังหวัดเข้าตรวจสอบสภาพพื้นที่ แต่ปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้า เนื่องจากเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าในโฉนดที่ดินไม่ได้ระบุว่ามีลำห้วย แต่ตนมีเอกสารยืนยันและได้เตรียมเอกสารยื่นฟ้องศาลปกครองเพชรบุรี เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนโฉนดที่บุกรุกลำห้วย ห่างจากศาลากลางจังหวัดไม่เกิน 3 กิโลเมตร จุดที่มีการออกโฉนดทับลำห้วยบางแปลงห่างจากสำนักงานที่ดินจังหวัดเพียง 300 เมตร

             นายกฤษดา กล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้เอกสารเดิมที่ทำข้อมูลไว้อย่างละเอียดครบถ้วนตามหลักวิชาการ มีสอบปากคำพยานบุคคลจำนวนมาก มีภาพถ่ายจุดที่น้ำท่วมเทียบกับระวางในแผนที่ ตั้งแต่ปี 2542 ที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาจจะสูญหายทั้งหมด แต่ทราบว่าจังหวัดจะตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ขึ้นมาตรวจสอบอีกครั้ง แต่ส่วนตัวไม่เชื่อว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะสามารถเสนอเพิกถอนโฉนดได้ในระยะสั้น หลังจากปล่อยให้ปัญหาเรื้อรังนานกว่า 24 ปี ขณะที่ปัจจุบันสภาพลำห้วยร่องทศกัณฑ์ ด้านทิศเหนือของห้างโกลบอลเฮาท์ จากสะพานบนถนนเพชรเกษม หลัก กม.ที่ 322-775 รอยต่อ ต.เกาะหลัก กับ เทศบาลเมืองประจวบฯพบว่ามีการออกโฉนดทับลำห้วยทั้ง 2 ฝั่งสะพาน หากเจ้าของที่ดินมีการปรับสภาพพื้นที่เพื่อใช้ประโยชน์ปิดลำห้วย จะมีปัญหาน้ำป่าจากเทือกเขาตะนาวศรีท่วมบ้านเรือนประชาชนในหลายหมู่บ้านของ ต.เกาะหลัก และจะมีปัญหาน้ำท่วมเมืองประจวบฯ
          “ ผมเป็นลูกหลานเมืองประจวบฯ ผมจะต่อสู้กับปัญหาจากการออกโฉนดทับลำห้วยสาธารณะ ในเขตเทศบาลเมืองประจวบฯ แต่การตรวจสอบของหน่วยงานรัฐอาจจะบานปลาย เพราะจะมีผลกระทบกับโฉนดของห้างขนาดใหญ่ทับลำรางเดิม ขณะที่เทศบาลอนุญาตให้ถมดิน โดยดูแค่โฉนดที่ดินที่ไม่ปรากฎลำห้วย เช่นเดียวกับการถมบึงขนาดใหญ่หลังห้างโกลบอลเฮาส์ เทศบาลก็อ้างว่าเจ้าของซื้อที่ดินถูกต้องตามกฎหมาย แต่ผมมีเอกสารหลักฐานยืนยันว่าในบึงเป็นทางผ่านของลำห้วยเดิม ซึ่งที่ผ่านมาหน่วยงานของทางราชการเคยจัดสรรงบประมาณเข้ามาขุดลอกห้วยหลายครั้ง ” นายกฤษดา กล่าว

            อดีตนายอำเภอฯ กล่าวว่า ประเด็นสำคัญที่ผู้มีอำนาจระดับจังหวัดควรบอกความจริงกับประชาชน หลังจากมีการตรวจสอตั้งแต่ปี 2542 ปัจจุบันขอถามว่า 1. มติ กบร .กลางเคยสั่งให้จังหวัดเพิกถอนเอกสารสิทธิ์จากผลของการแปลภาพถ่ายทางอากาศหรือไม่ หากมีจังหวัดได้ดำเนินการอย่างไร 2. หากยังไม่มีผลภาพถ่ายฯ จังหวัดเคยส่งเอกสารไปให้ กบร .กลางแปลภาพถ่ายหรือไม่ 3. หากส่งไปให้ กบร.กลางแล้ว จังหวัดเคยติดตามผลหรือไม่ 4. เรื่องเดิม มติเดิม คำสั่ง ผวจ. ตั้งแต่ปี 2542 มีสารบบเก็บไว้ที่ปกครองจังหวัดหรือสำนักงานจังหวัดหรือไม่ มีไทม์ไลน์การติดตามงานต่อเนื่องหรือไม่ หากเอกสารสูญหายบุคคลใดจะต้องแสดงความรับผิดชอบ

CATEGORIES
Share This

COMMENTS

error: Content is protected !!